‘ปกรณ์วุฒิ’ลั่น!ไม่มีทางเป็นไปได้ ‘ภูมิใจไทย’พลิกบทบาทเป็น‘เสียงข้างมาก’ ถ้าไม่มีพรรคแตก

‘ปกรณ์วุฒิ’ลั่น!ไม่มีทางเป็นไปได้ ‘ภูมิใจไทย’พลิกบทบาทเป็น‘เสียงข้างมาก’ ถ้าไม่มีพรรคแตก

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.30 น.

"ปกรณ์วุฒิ"ป้อง"ครม.อนุทิน" ยังไม่ถวายสัตย์ จะไปกล่าวหาไล่เช็คบิล จนท.ทำคดี"เขากระโดง-ฮั้ว สว."ยังไม่ได้ เหน็บ"ครม.รักษาการ"ทำอะไรไม่ได้หรือ ลั่นไม่มีทางเป็นไปได้"ภูมิใจไทย"พลิกบทบาทเป็น"เสียงข้างมาก"ถ้าไม่มีพรรคแตก แซะพรรค 132 เสียง สส.จะลดลงอีกหรือไม่

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีราย รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสทนงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์แสดงความเห็นว่าพรรคประชาชนไม่ทันเกมการเมืองพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า ตนน้อมรับทุกความเห็นทั้งผู้สนับสนุนพรรคสมาชิกพรรค ก็มีความเห็นต่าง แม้กระทั่งประชาชนทั่วไปก็เป็นเรื่องปกติ ตนน้อมรับความคิดเห็นของนายชูวิทย์ด้วยความเคารพ และได้ติดตามมานาน ตอนที่ลงเล่นการเมืองตนก็ได้เลือกพรรคนายชูวิทย์ด้วย ซึ่งถ้าหากถามว่าทันเกมการเมืองหรือไม่ ตนคิดว่าพรรคของเรามาทำงานการเมือง ดังนั้น การตัดสินใจในแต่ละครั้งก็ต้องคิดดีๆ ว่าตัดสินใจบนพื้นฐานความนิยมของพรรคหรือผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยหัวหน้าพรรคก็ได้พูดไปหลายครั้งว่า เรามองบนโอกาสสูงสุด ที่จะทำให้เกิดการยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชน โดยเร็วในเวลาที่เหมาะสม และเปิดประตูบานแรกสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้เอาฐานความนิยมของพรรคมาเป็นตัวตั้ง แต่เราเอาฐานสิ่งที่เราอยากเห็นภาพของประเทศในอนาคตเป็นตัวตั้ง แต่น้อมรับทุกคำวิจารณ์ จะบอกว่าเราไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองหรืออะไรก็ตาม ก็เป็นคำวิจารณ์ที่เราพร้อมน้อมรับอยู่แล้ว


เมื่อถามว่า มีคนไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเยอะ เพราะการโหวตของพรรคประชาชนในวันนั้นเป็นการเพิ่มฐานให้พรรคภูมิใจไทยในวันนี้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่ามันเป็น "What If" ที่เราตอบไม่ได้ ตนคิดว่าสื่อมวลชนก็ทราบดีว่าบางพรรคมีสัญญาณของการแตกมานานแล้ว ต่อให้เกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์นี้เขาก็อาจจะไหลไปทางนั้นอยู่ดี มันเป็น What if ที่ตอบไม่ได้ คงจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็ไปดูที่การเลือกตั้งครั้งหน้า

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราก็ยืนยันในการหาเสียงและรณรงค์ในการเลือกตั้งแบบเดิม อยากให้ทุกพรรคใช้อุดมการณ์ เราไม่ได้มีปัญหากับเรื่องบ้านใหญ่ การใช้กระแสในท้องถิ่นในพื้นที่เล็กๆ ในความเป็นผู้มีอิทธิพล เราไม่เห็นด้วยกับการทำการเมืองแบบนั้นมากนัก และเราก็พยายามผลักดันการเมืองให้เป็นไปในทางที่เป็นอุดมการณ์เป็นหลัก

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรในเมื่อเสียงพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น นายปกรณ์วุฒิ ย้อนถามว่ายังไม่ได้เลือกตั้งเลยเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า เสียงในสภาฯ แต่ นายปกรณ์วุฒิ ก็ถามต่อว่า "เสียงในสภาฯ เพิ่มขึ้นแล้วหรอครับ พูดถึงเสียงข้างมากใช่หรือไม่ ตนต้องบอกว่า พรรคประชาชนมี 142 พรรคเพื่อไทยมี 141 อาจจะไปแล้ว 9 คน เหลือ 132 พรรคประชาชาติมีอยู่ 9 เสียง บวกกันดีๆ นะครับ 280 กว่านะครับ จะเป็นเสียงข้างมากได้อย่างไร ถ้าพรรคบางพรรคไม่แตก ผมคิดว่าความพยายามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากต้องดูตั้งแต่วันที่โหวตนายกฯ แน่นอนว่าเราไปห้าม สส.ไม่ให้ไปโหวตฝั่งไหนไม่ได้อยู่แล้ว บางพรรคที่มีมติอย่างหนึ่ง แต่ สส.ก็โหวตอีกอย่างหนึ่ง เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความผิดใคร แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ต้องมีพรรคใหญ่แตกแบบจริงจังเลย เพราะฉะนั้นเรื่องเสียงข้างมากยังไม่มีความใกล้เคียง ผมว่ามันเป็นการตีตนไปก่อนไข้มากๆ"

เมื่อถามว่า ถ้าเสียงเพิ่มขึ้นถือว่าผิดสัญญาหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ใน MOA กล่าวว่า ไม่กระทำการใดๆ เพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การจับตาให้ทำตาม MOA เราจับตาอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เรามองอยู่ตลอด

"อย่างที่บอกตัวเลขอยู่ในหัวผมตลอด ผมเก่งเลขครับ มัน 290 บาทตอนนี้ ถ้ามันไม่มีพรรคไหนที่แตกเป็น 30 - 40 เสียง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก พรรคประชาชนอยู่ที่เดิม 140 กว่าเสียง อาจจะฝากไปตั้งคำถามกับอีกพรรคนึงก็ได้ ว่าจะลดจาก 132 (เสียงของพรรคเพื่อไทย) อีกหรือไม่" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า เห็นโผของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วรู้สึกคุ้มค่าต่อการโหวตให้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนว่า 4 เดือนแน่นอนว่ามีหลายรายชื่อที่น่าชื่นชม แต่ต้องบอกว่ารายชื่อเหล่านี้มาไม่ได้เลยถ้าไม่มีพรรคประชาชนประกาศว่าไม่รับเก้าอี้ใดๆ เพราะมันมีโควตาเหลือที่ไม่ต้องไปแบ่งให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่น แต่โควตาคนนอกก็ถือว่าเป็นหน้าตาที่ดี อาจแก้ปัญหาระยะสั้นที่เราได้เคยพูดคุยกันไว้แล้ว เพราะหากไปดูตำแหน่งของคนนอกจะอยู่ที่กระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง ต้นคิดว่าพอจะแก้ปัญหาระยะสั้นได้บ้าง ส่วน ครม.ที่เป็นสัดส่วนพรรคการเมืองตนคิดว่าก็ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเพื่อไทยเท่าไหร่ ไม่ได้ผิดหวังสมหวังหรือว่าแปลกใจอะไร

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ว่ามีรัฐมนตรีบุรีรัมย์ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า พูดตรงๆ ก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็จับตาอย่างใกล้ชิด เราอาจได้เห็นการอภิปรายนโยบายที่ชี้ให้เห็นว่ามีการตั้งรัฐมนตรีบางคนเพื่อมาทำการอะไรบางอย่างใน 4 เดือนนี้หรือไม่ การตรวจสอบเริ่มขึ้นแล้ว

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้มีการดำเนินการล่วงหน้าเช็คบิลเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีเขากระโดง และฮั้ว สว.แล้ว นายปกรณ์วุฒิ ก็ย้อนถามว่าทำอย่างไร และกล่าวว่า "แล้ว ครม.รักษาการทำอะไรไม่ได้เลยหรือครับ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ ครม.รักษาการคือพรรคอะไรนะครับ รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยถูกหรือไม่ ต้องถามว่าก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยก็เคยถามเรื่องฮั้ว สว.และเขากระโดงกับพรรคประชาชน ต้องถามกลับว่าช่วงที่เป็น ครม.รักษาการ ได้กระทำการใดๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ มากแค่ไหน อย่างเมื่อวานนี้ที่มีการพาดหัวข่าวเรื่องเขากระโดง ผมก็คิดว่าบางสื่อพาดหัวเกินจริงไปนิดนึง จะเห็นว่ากำลังรอคำพิพากษาจากศาลปกครอง ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ จะให้รัฐบาลไปทำอะไรครับ ต้องรอคำพิพากษา คดีฮั้ว สว.แน่นอนว่าเราก็ติดตาม และคาดหวังว่ากระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ จะทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีข้อกังขา และเข้าไปเป่าคดีอะไรแต่คดีที่ใหญ่ขนาดนี้ 4 เดือนไม่ทันอยู่แล้ว การสืบสวนสอบสวนอะไรผมไม่รู้หรือเปล่าว่าจะทันด้วยซ้ำ เพราะใช้เวลาหลายปีอยู่แล้วกับคดีที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่เราติดตามอย่างใกล้ชิดแน่นอน ว่ามีการแทรกแซงหรือไม่

เมื่อถามว่า ขณะนี้เสี่ยงแล้วหรือยังที่จะมีการแทรกแซง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบได้ เพราะเราไม่ได้เห็นพฤติกรรมใดๆ อาจเห็นข่าวว่าคนนี้ทำแบบนั้นคนนั้นทำแบบนี้ แต่อย่าลืมว่ารัฐบาลยังไม่เข้าถวายสัตย์ฯ และยังไม่มีอำนาจอะไร จะไปกล่าวหา ครม.ที่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ฯ ตนคิดว่าไม่สามารถทำได้ในฐานะผู้แทนราษฎร

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หลายส่วนที่ทำคดีเหล่านี้ ถูกเรียกกลับหรือชะลอไม่ให้ดำเนินการ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าเป็นการชะลอเรื่องคดีที่อยู่ในศาลปกครอง ตนถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่แน่ใจในรายละเอียดจริงๆ ว่าการระงับครั้งนี้เกิดจากกระบวนการอะไร การกระทำที่ไม่รอคำพิพากษาต่างหากที่ถือว่าผิดปกติ ยืนยันว่าพรรคประชาชนตรวจสอบเรื่องนี้ คาดหวังว่าจะไม่มีการแทรกแซง

"ผมย้ำอีกครั้ง ครม.ยังไม่ได้ถวายสัตย์ฯ ยังเป็น ครม.เดิม คุณอนุทินยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ฯ แถลงนโยบาย ยังไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งการใดๆ ดังนั้น ตอนนี้ผมไม่สามารถไปกล่าวหาว่าเขาทำอะไรหรือไม่ทำอะไรได้บ้าง ต้องรอการแถลงนโยบาย" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามถึงคดีฮั้ว สว.ที่เจ้าหน้าที่ถูกเรียกตัวไม่ให้ดำเนินการต่อ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อมูลเลย แต่พรรคประชาชนมีทีมงานที่ดูเรื่องนี้อยู่ แต่ตนไม่ทราบข้อมูลจึงไม่สามารถตอบคำถามได้

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top