เปิดคำพิพากษา!!! ศาลฎีกาแก้ยกฟ้อง'เจ๊ปอง-2พันธมิตรฯ' คดีบุกเอ็นบีที ปี 51

เปิดคำพิพากษา!!! ศาลฎีกาแก้ยกฟ้อง'เจ๊ปอง-2พันธมิตรฯ' คดีบุกเอ็นบีที ปี 51

วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.24 น.

 ศาลฎีกา พิพากษาแก้ ยกฟ้องเจ๊ปอง กับพวกรวม 3 คน พยานหลักฐานโจทก์มีข้อสงสัย 

วันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 608 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาม็อบพธม. บุกช่องNBT คดีดำ อ.1033/2561ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เสียชีวิตแล้ว, น.ส. อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม พธม. และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปอั้งยี่ ซ่องโจร เป็นหัวหน้าสั่งการ บุกรุกสถานที่ราชการทำให้เสียทรัพย์


กรณีเมื่อปี 2551 จำเลยกับพวกที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วได้ร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุกจำเลยคนละ1 ปีโดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้ง 4 ยื่นฎีกา และได้รับการประกันตัวคนละ 2 แสนบาท

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นควรเรียก น.ส.อัญชะลี เป็นจำเลยที่ 1 นายภูวดล เป็นจำเลยที่ 2  นายยุทธิยง เป็นจำเลยที่ 3 และนายชิติพัทธ์ เป็นจำเลยที่4

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในส่วนของจำเลยที่ 1-3  พยานโจทก์ และพยานหลักฐานอื่นๆมีน้ำหนักน้อย ยังมีข้อสงสัยว่า จำเลยทั้งสามเดินทางไปสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBTในเวลาใด  รวมทั้งไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุนว่า จำเลยที่ 1-3 ให้คำปรึกษา คำแนะนำ หรือสั่งการกับกลุ่มมวลชนกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1-3ที่ศาลล่างทั้งสอง พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1-3นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1-3 ที่อ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือสั่งการนั้นฟังขึ้น

ส่วนจำเลยที่4   พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกัน เห็นว่า จำเลย เป็นผู้สั่งการมวลชนกลุ่มพันธมิตร ฯทั้งข่มขู่เจ้าหน้าที่ให้เกิดความกลัวโดยนับถอยหลัง 1- 60 ให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่  การออกอากาศ ให้รีบออกจากอาคารที่ทำการ การทำลายประตูทางเข้า และทรัพย์สินอื่นเสียหายกว่า  6 แสนบาท และภาพจำเลยที่4 พูดโทรศัพท์ในบริเวณห้องโถงของอาคารมีน้ำหนัก ข้ออ้างจำเลยที่ 4 ฟังไม่ขึ้น 

อย่างไรก็ตามที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 มานั้นหนักเกินไป เห็นควรปรับโทษเสียใหม่ให้เหมาะสม

ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยที่ 4 รวม 8 เดือน คำให้การจำเลยที่ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้1ใน4 คงจำคุกจำเลยที่ 4 ไว้ 6 เดือนไม่รอลงอาญา  ส่วนจำเลยที่1-3 พิพากษายกฟ้อง

โดยภายหลังมวลชนจำนวนหนึ่งที่มาให้กำลังใจเมื่อทราบผลคำพิพากษาก็โห่ร้องปรบมืด้วยความดีใจ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายชิติพัทธ์  จำเลยที่ 4ไปควบคุมไว้บริเวณใต้ถุนศาล เพื่อเตรียมนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top