ประชุมครม.ทันทีหลังถวายสัตย์ฯ
‘อนุทิน’ฟิตจัด!
เตรียมพร้อมแถลงนโยบายรัฐบาล
รอแบ่งงานให้รองนายกฯ
ปชน.จัด20ขุนพลชำแหละ
นายกฯ“หนู”นำครม.ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯพรุ่งนี้ พร้อมเรียกประชุมครม.นัดแรกทันทียันร่างแถลงนโยบายพร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ยันแถลงฯยิ่งเร็วยิ่งดี จะได้เริ่มทำงานเร็ว คอนเฟิร์มบรรจุเรื่องแก้รธน.ในร่างแถลงฯ ‘ภราดร’หวังแถลงนโยบายช่วง29-39ก.ย.นี้ เพื่อดึงงบฯปี68 จำนวน 2.5หมื่นล้านมาขอรอ ‘วันนอร์’เคาะวัน หากไม่ทันก็ใช้งบฯปี69‘พิพัฒน์’แย้มนโยบายคมนาคม เร่งด่วน4เดือน เน้น‘รถไฟฟ้า-รถเมล์-ค่าทางด่วน’อุ้มค่าครองชีพ เล็งวางแผนต่อเนื่อง จับตาต่ออายุ20บาทรถไฟฟ้า‘สีแดง-ม่วง’‘ปชน.’เตรียม 20 ขุนพลชำแหละนโยบายรัฐบาล-คุณสมบัติ รมต. เหน็บ‘เพื่อไทย’เลิก‘อารมณ์ค้าง’หันมาถล่มปชน.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าสำหรับกำหนดการเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฎิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยในวันที่ 24 กันยายนนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)ได้แจ้งขั้นตอนให้รัฐมนตรีใหม่รับทราบขั้นตอนและลำดับพิธีการ โดยนัดหมาย ในเวลา14.00น.ให้พร้อมกันที่ตึกสันติไมตรีเพื่อตรวจโควิด-19 ด้วยATK จากนั้นรัฐมนตรีใหม่ ถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวรัฐมนตรี และถ่ายภาพหมู่ ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก
‘อนุทิน’นำครม.เข้าถวายสัตย์ฯ
จากนั้นเวลา16.00น.นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขึ้นรถตู้ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(สลน.)จัดเตรียมไว้ เดินทางออกจากทำเนียบฯเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฎิบัติหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถานในเวลา 18.00น.เมื่อจบขั้นตอนพิธีการ นายกฯนำครม.กลับมาประชุมครม.นัดพิเศษ ครั้งแรก ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1โดยวาระที่จะเสนอให้ครม.เห็นชอบ อาทิ การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา, การแบ่งงานและมอบหมายงานรองนายกฯและรมต.ประจำสำนักนายกฯกำกับดูแลและร่วมเป็นคณะกรรมการชุดต่างๆ รวมถึงแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองที่สำคัญ เป็นต้น
ยันร่างแถลงนโยบายพร้อม100%
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางถึงพรรคภูมิใจไทยโดยระบุว่าวันนี้มีการประชุมพรรคตามปกติ ส่วนร่างนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภา เสร็จเป็นที่เรียบร้อย100 เปอร์เซ็นต์ ปกน้ำเงิน ส่วนที่มีกลุ่มแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนจะเข้ามาที่พรรคภูมิใจไทยนั้นก็เป็นการมาพบกันตามปกติ
นายอนุทินกล่าวถึงกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นวันที่ 29-30 ก.ย.หรือไม่ว่ากำลังประสานงานกับประธานรัฐสภา ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะวันที่หนึ่งของการทำงานคือนับจากวันแถลงนโยบายเสร็จสิ้น เพื่อที่รัฐบาลจะได้ทำงานอย่างเต็มที่
ฟิตถกครม.หลังเข้าถวายสัตย์ฯ
เมื่อถามว่าในวันที่ 24ก.ย.ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)จะมีการนำร่างนโยบายเข้าสู่การพิจารณาด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องให้ที่ประชุมรับทราบจากนั้นจะนำร่างส่งให้สมาชิกรัฐสภาได้ศึกษาเพื่อที่จะอภิปรายได้ ซึ่งเหมือนการแถลงนโยบายทุกครั้งที่ผ่านมาโดยใช้เวลา 2 วัน ส่วนเรื่องระยะเวลาเป็นเรื่องที่วิป3ฝ่ายจะหารือและทำข้อตกลงกัน
เฟิร์มบรรจุเรื่อง‘แก้รธน.’แล้ว
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนอยากให้ไทม์ไลน์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในร่างแถลงนโยบายรัฐบาลจะมีกำหนดไว้ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญอยู่ในข้อตกลงMOAอยู่แล้วก็เป็นไปตามนั้น เมื่อถามว่า แสดงว่าจะบรรจุเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในร่างแถลงนโยบายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีอยู่ด้วย มีอยู่แล้วซึ่งในการประชุมพรรคภูมิใจไทยวันนี้ก็จะพูดคุยเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนไม่ค่อยเห็นด้วยกับโมเดลเรื่องการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ของพรรคภูมิใจไทย นายกฯกล่าวว่าเป็นไปตามระบบ
‘ภราดร’ลุ้นดึงงบ68สาน‘คนละครึ่ง’
นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่คาดว่าจะมากำกับดูแลสำนักงบประมาณ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 จำนวน2.5หมื่นล้าน จะอนุมัติก่อนสิ้นปีงบฯ30ก.ย.เพื่อมาดำเนินโครงการคนละครึ่งทันหรือไม่ว่าต้องรอหลังครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ และรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาให้เรียบร้อย และเริ่มทำงานได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มรูปแบบ เราก็จะมาพิจารณาดูกันส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 2.5 หมื่นล้าน จะนำมาใช้ในโครงการคนละครึ่งทันหรือไม่นายภราดร กล่าวว่า ต้องดูแนวทางและถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นสำนักงบฯว่าจะมีช่องทางไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างไรต้องรอให้ ครม.มีความสมบูรณ์ก่อน
หวังแถลงนโยบายช่วง29-39ก.ย.
นายภราดร กล่าวอีกว่าส่วนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ได้คุยนอกรอบว่า29-30 ก.ย.นี้น่าจะอยู่ในกรอบ แต่ถึงอย่างไรต้องรอหลังจากที่นายกฯทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพื่อนัดหารือวิป3ฝ่าย (ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล วุฒิสภา)เพื่อแบ่งสรรเวลาและกำหนดวันที่ชัดเจนอีกครั้ง เบื้องต้นได้ประสานนอกรอบแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็น 29-30 ก.ย.ส่วนจะต้องเร่งรัดเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายภราดรตอบว่า หากไม่ทันก็ไม่ทัน ไม่ทันก็ไปใช้งบฯปี69 หากทันก็ใช้งบฯปี68 ก็มีเท่านั้น
‘พิพัฒน์’แย้มนโยบายเร่งด่วน4เดือน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมร่างแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในส่วนของกระทรวงคมนาคมว่า การร่างนโยบายของกระทรวงคมนาคม แบ่งเป็น 2 ระยะ คือนโยบายควิกวิน ระยะเร่งด่วน 4 เดือนและนโยบายต่อเนื่องเช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ส่วนนโยบายด้านการเดินทาง ทั้งทางด่วน รถไฟฟ้า และรถเมล์นั้น ขอให้รอนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แถลงนโยบายก่อน แต่จะมีนโยบายเรื่องทางด่วนหรือรถไฟฟ้า และรถเมล์ จะมีทั้งหมด ส่วนนโยบายหาเสียง รถไฟฟ้าตลอดวัน 40 บาทนั้น อยู่ในระหว่างการพูดคุยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แม้ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องจะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรไปแล้วแต่ต้องดูว่าราคาตั๋วร่วมต้องราคาเท่าไหร่ ต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อให้ตกผลึกและดีที่สุด
ส่วนค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สายสีแดง - สีม่วง ที่จะหมดอายุวันที่ 30 กันยายนนี้ ควรต่ออายุหรือไม่ นั้น ขอให้เราฟังนโยบายของนายกรัฐมนตรีก่อน ขอให้อดใจนิดเดียว คงไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ และพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี จะนำครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ หลังจากนั้นจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จากนั้น ทุกคนจะได้เห็นภาพนโยบายอะไรที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ รวมถึงรัฐบาลที่แล้วนโยบายรถไฟฟ้า20 บาทตลอดสายถึงชะงักไป ตรงนี้คงจะมีคำอธิบาย
พรรคร่วมพรึบ!เข้าภท.ถกนโยบาย
เวลา13.30น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อประชุม สส.และกรรมการบริหารของพรรคภูมิใจไทยตามวาระปกติ เป็นการเตรียมความพร้อมการประชุม สส.ในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลอาทินายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธนากร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย คาดว่าจะมีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังพรรคภูมิใจไทยและทีมเศรษฐกิจได้มีการยกโครงร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จแล้วเพื่อให้ทุกฝ่ายได้ปรับแก้ไขครั้งสุดท้ายก่อนจะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้
‘สุชาติ’ชี้ซบภท.ขอคุยเพื่อนในกลุ่ม16
ด้านนายสุชาติเปิดเผยสั้นๆว่าการมาวันนี้เพื่อมาพูดคุยงานกันเฉยๆ สำหรับกระทรวงทรัพย์ฯ จะเสนออะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้นขอให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ให้เรียบร้อยก่อนและค่อยมาพูดคุยกันทีหลัง ส่วนจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ขอไปคุยกับกลุ่มเพื่อนสส.ของตนเองก่อน ซึ่งในวันนี้สส.บางคนก็ไม่ได้เดินทางมาด้วย เพราะติดภารกิจลงพื้นที่
‘ปชน.’จัด20ขุนพลชำแหละนโยบาย
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าว่าโดยเบื้องต้น มีผู้อภิปรายขณะนี้ประมาณเกือบ 20 คนแล้ว หลักๆคงจะเป็นนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ,น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคฯ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหัวหน้าพรรคฯ และอีกส.ส.หลายคน
เน้นถล่มคุณสมบัติรมต.ไม่น่าวางใจ
นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่กำหนดธีม แต่พรรคปชน.จะเริ่มจากเนื้อหาสาระก่อน ค่อยคิดธีมทีหลังเพราะหากคิดก่อนจะเป็นการจำกัดกรอบเนื้อหาสาระมากเกินไปประเด็นมีหลากหลาย แต่เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีมีแน่ ๆ คือการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคนว่าอาจทำหน้าที่โปร่งใส น่าไว้วางใจหรือไม่ และเวลา 4 เดือนที่เหลือมีอะไรที่รัฐบาลต้องเร่งทำ
งง“ผมเป็นฝ่ายไหน”หลังพท.จ้องสับ
เมื่อถามว่าต้องเตรียมองครักษ์ไว้หรือไม่เพราะพรรคเพื่อไทยอาจจะอภิปรายโจมตีพรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ ถามกลับสื่อมวลชนแบบติดตลกว่า“นี่ผมเป็นฝ่ายอะไรนะ”พร้อมกล่าวว่า ไม่อยากให้เสียเวลาสภาแถลงนโยบายของรัฐบาล ควรอภิปรายนโยบายของรัฐบาล การจะมาโจมตีพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่ได้หนักหนาจนเกินไป ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินดีกว่าว่าพรรคบางพรรคกำลังทำงานตรวจสอบรัฐบาล หรือกำลังทำงานโจมตีพรรคอื่น โดยที่วันประชุมสภาก็แทบจะไม่เห็นพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบรัฐบาลหรือจะทำอะไร
เหน็บ‘เพื่อไทย’เลิก‘อารมณ์ค้าง’
เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยอภิปรายพรรคประชาชนเพราะไม่กล้าอภิปรายรัฐบาล“ภูมิใจไทย”หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าตนก็ไม่แน่ใจ ต้องฝากสื่อมวลชนและประชาชนวิเคราะห์ดู เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลมากเท่าไหร่ เรื่องนี้ตนบอกไม่ได้จริงๆ อาจจะเป็นอารมณ์ค้างอยู่ แต่คิดว่าเลยเวลามานานแล้ว ปล่อยอารมณ์ตัวเองออกมาบ้าง แล้วใช้เหตุผล แล้วกลับมาทำงานร่วมกันดีกว่า
‘อ้วน’ยันพท.พร้อมทำงานเต็มที่
นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงระยะเวลา 4เดือนในการเตรียมการเลือกตั้ง จะเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้พรรคพท.กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งว่า อยู่ที่ความเป็นจริง ทุกพรรคก็ต้องยอมรับตามนั้น มี 4 เดือน เราก็4 เดือน มีมากกว่านั้น เราก็มากกว่านั้น เราพร้อมที่จะทำงานเต็มที่อยู่ที่คนเป็นรัฐบาลประกาศอะไรไว้กับประชาชนที่บอกพูดแล้วทำก็คงต้องทำและได้ยินว่าจะทำเร็วขึ้นยืนยันว่า เป้าหมายของพรรคพท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เหมือนเดิม เราเป็นพรรคการเมืองอาสามาเป็นรัฐบาล เมื่อมีโอกาสเราก็ต้องทำงานเต็มที่ ให้นโยบายเต็มที่ เสนอประชาชนเพื่อให้รับรู้และเข้ามาทำงาน
แขวะปชน.มีโอกาสเป็นรบ.ไม่ทำ
“ผมเสียดายพรรคประชาชนเพราะเขาอยากเป็นรัฐบาล อยากแสดงฝีมือเพราะถูกกล่าวหามาตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งที่เขามีโอกาสเป็นรัฐบาล อยากจะเป็นกระทรวงแรงงานก็ได้ กระทรวงมหาดไทยก็ได้หรือกระทรวงการคลังก็ได้ เห็นมีการพูดและอภิปรายไว้เยอะ แต่ทำไมมีโอกาสแล้ว ถึงไม่ทำ นี่เป็นปัญหาที่ผมเสียดายมากผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ไม่รู้ว่าโอกาสข้างหน้าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่ถ้ามีโอกาสแล้วทำไมไม่ทำ ทั้งที่เป็นเสียงข้างมากของรัฐบาลชุดนี้” นายภูมิธรรมย้ำ
เย้ยหวังลมๆแล้งๆเลือกตั้งสมัยหน้า
พร้อมย้ำว่า“ถ้าจะเป็น อย่างน้อยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนจะได้แสดงฝีมือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล จะได้แสดงฝีมือเป็น รมว.การคลัง และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรก็จะสามารถเป็นรมว.กลาโหมได้ แต่ว่าไม่เลือก ปล่อยให้หลุดมือไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย อันนี้ต้องเป็นคำตอบให้คนเข้าใจว่าในเมื่ออยากพิสูจน์ตัวเองว่าไม่เคยทำและนำเสนอความเห็นว่าอยากลองทำ เมื่อมีโอกาสทำ และสามารถทำได้ แต่เมื่อมีโอกาสแล้ว ไม่ทำ แล้วจะไปความหวังลมๆ แล้งๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องช่วยกันคิด“ นายภูมิธรรมย้ำ ว
‘ธรรมนัส’ลั่นสมัยหน้าส่งครบ 400เขต
ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงการทำงานของพรรคกล้าธรรมว่าขณะนี้เรามองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นเรื่องสำคัญโดยมอบหมายให้ผู้บริหารพรรคลงพื้นที่เฟ้นหาตัวผู้สมัคร ขณะเดียวกันในการบริหารราชการบ้านเมืองด้วยระยะเวลาสั้นๆ ถ้าสื่อมวลชนสังเกตจะเห็นว่าพรรคกล้าธรรม เป็นพรรคที่มีสมาชิกพรรคมากที่สุดและมีความพร้อม ในการส่งตัวผู้สมัครทั้ง 400 เขต ทุกจังหวัด ส่วนจะส่งอะไรอย่างไรเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาประชุมกันอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี