‘นายกฯ’ให้อำนาจทหารจัดการเขมรเต็มที่ ไฟเขียวกองทัพลุย

‘นายกฯ’ให้อำนาจทหารจัดการเขมรเต็มที่ ไฟเขียวกองทัพลุย

วันเสาร์ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘นายกฯ’ให้อำนาจทหารจัดการเขมรเต็มที่

ไฟเขียวกองทัพลุย

เดินหน้าไม่ต้องห่วงหลัง

รัฐบาลพร้อมสนับสนุน

สัปดาห์หน้าเยือนชายแดน

‘บิ๊กกุ้ง’ย้ำไม่เล่นการเมือง

 

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สัปดาห์หน้า ย้ำไฟเขียวกองทัพมีอำนาจเต็ม-ใช้ดุลพินิจพิจารณาเต็มที่ หากสถานการณ์รุนแรง ไม่ต้องเหลียวหลัง พร้อมสนับสนุน ขณะที่กองทัพบกจัดพิธีสดุดีกำลังพลผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จารึกนาม “วีรชนทหารกล้า” บนกำแพงอนุสรณ์กองทัพบก “มทภ.2” ชื่นชม 16 ทหารกล้า ปกป้องแผ่นดิน ไม่ขี้ขลาด ไม่ถอย ไม่ยอมศัตรู ลั่น เกียรติทหารกลับมาแล้ว ต้องรักษาให้ดี ย้ำจุดยืนไม่เล่นการเมือง เผยมี 3 เก้าอี้รอรับ “ที่ปรึกษา ผบ.ทบ.-สมช.-สถาบันพระปกเกล้าฯ” ขณะที่ชาวบ้านบุรีรัมย์ทยอยอพยพเอง หลังมีข่าวทหารกัมพูชาหันกระบอกปืนใหญ่เข้าฝั่งไทย


เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้งว่า ตรงนั้นเป็นเขตประกาศกฎอัยการศึกอยู่แล้ว เป็นการตัดสินใจและการรักษาอธิปไตย เป็นอำนาจโดยตรงของผู้ที่ประกาศกฎอัยการศึก คือ แม่ทัพภาคที่ 2 เราก็ต้องมั่นใจว่าท่านจะใช้ดุลยพินิจที่ถูกต้อง และยึดมั่นบนหลักของการรักษาอธิปไตยของประเทศไทย

เมื่อถามว่าหากจำเป็นต้องตอบโต้ จะให้เป็นอำนาจของกองทัพใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน ใช่ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดนอย่างเต็มที่ ซึ่งตนคาดว่าสัปดาห์หน้าพวกตนก็จะลงไปดูพื้นที่ และตนในฐานะที่เป็นรมว.มหาดไทย ก็จะประสานฝ่ายปกครองคอยรับภาระในเรื่องของพี่น้องประชาชนชาวบ้านไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะโยนไปให้ทหารทั้งหมด ซึ่งทหารจะต้องใช้เวลาในการปกป้องรักษาอธิปไตยให้เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง หรือยั่วยุต่างๆ เข้ามา ก็เพื่อให้ทหารได้มีเวลาจัดเตรียมกำลัง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า สถานการณ์ชายแดนตึงเครียดมาโดยตลอด และเราพร้อมมากกว่า ตนก็เชื่อว่าทหารซึมซับเป็นอย่างดี “แม้หวังสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์” นี่คือเป็นสิ่งที่ตนมั่นใจว่าเกิดขึ้นบริเวณชายแดนของเรา

“ท่านใช้ดุลยพินิจของการทหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเหลียวหลัง พวกเราพร้อมที่จะสนับสนุน ให้ไฟเขียวผ่านตลอด” นายกฯ กล่าว

มท.1เข้มดูแลพื้นที่ชายแดนไทยเขมร

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.มหาดไทย นำรมช.มหาดไทย กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งในประชุมว่ามีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ คือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลชุดนี้มีเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะมุ่งรักษาอธิปไตย ไม่มีการเจรจาใดๆจนกว่าความเป็นภัยของประเทศกัมพูชาจะหมดไปต่อประเทศไทย เรื่องการเปิดด่านทั้งถาวรชั่วคราว จะไม่มีวันเกิดขึ้น จนกว่าการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทยได้เป็นที่ยอมรับ เป็นที่พึงพอใจของประชาชนคนไทยทุกคน

สั่งหนุน‘กองทัพ’ไม่ต้องพะวงหลัง

พวกเราทุกคนต้องใช้ช่วงเวลานี้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน สนับสนุน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ขอให้ฝ่ายปกครองทำหน้าที่เป็นกำลังสนับสนุนกองทัพที่เขาทำหน้าที่ในสมรภูมิชายแดนป้องกันอธิปไตยโดยไม่ต้องกังวลแนวหลัง ฝ่ายปกครองต้องทำหน้าที่รักษาเยียวยาจิตใจ ดูแลให้ความสะดวก และปกป้องภัยอันตรายให้ประชาชนในแนวหลัง

“เราอาจจะมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เราคาดการณ์ไม่ได้ ถ้ามันเกิดขึ้น ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการตามอำนาจที่มี รวมถึงอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าฯ รวมถึงผู้ต้องดูแลสารทุกข์สุกดิบของประชาชนได้มีความพร้อมดูแลให้ความปลอดภัยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัดที่เชื่อมต่อกับกัมพูชา”นายอนุทิน ย้ำ

จัดพิธีจารึกนาม“วีรชนทหารกล้า”

กองทัพบกจัดพิธีสดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์กรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อรำลึกและยกย่องวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารผู้เสียสละ ณ กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เป็นประธาน พร้อมด้วย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1, พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2, พลโท ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก, พลโท ณรงฤทธิ์ คำภีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงกองทัพบก, ผู้บังคับบัญชาและทายาทของผู้เสียชีวิต, ผู้แทนองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, ทหารผ่านศึก และกำลังพลกองทัพบกเข้าร่วมพิธีที่จัดขึ้น ณ บริเวณหน้ากำแพงอนุสรณ์กองทัพบก ซึ่งเป็นสถานที่สถิตนามวีรชนกองทัพบกที่สละชีพเพื่อชาติปกป้องแผ่นดินไทยในสมรภูมิสู้รบต่าง ๆ

เริ่มต้นด้วยพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แด่ทหารผู้ล่วงลับ จากนั้นมีการจัดกองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพ ก่อนที่ผู้เข้าร่วมพิธีจะกล่าวคำสดุดีฯ และ ผบ.ทบ.ประดับแผ่นป้ายจารึกรายนามทหารกล้าที่สละชีพเพื่อชาติจากสมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา ลงบนแท่นประทับ โดยมีพลแตรเดี่ยวเป่าเพลงเคารพพร้อมกับการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติแก่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ และการวางพวงมาลาเพื่อแสดงความอาลัยแด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษนักรบไทย สำหรับรายนามวีรชนทหารกล้าหาญจากสมรภูมิรบชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ถูกจารึกไว้ ณ กำแพงอนุสรณ์กองทัพบกในวันนี้ มีทั้งสิ้น 16 นาย

อุทิศส่วนกุศลแด่กำลังพลที่เสียชีวิต

นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลแด่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ ณ หอประชุมกิตติขจร โดยมี พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท หรือ หลวงปู่ศิลา) วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ ประกอบพิธีสงฆ์ ได้แก่ การสวดพระพุทธมนต์ การถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรม พร้อมทั้งทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นเป็นพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้รับชมวีดิทัศน์สดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ก่อนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะมอบเงินช่วยเหลือและของที่ระลึกให้แก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวทหารกล้าผู้เสียสละ รวมถึงมีการบรรยายพิเศษโดย พลเอก บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจแก่กำลังพลกองทัพบก

มทภ.2ชื่นชม16ทหารกล้าปกป้องแผ่นดิน

ที่หอประชุมกิติขจร กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บรรยายพิเศษ ภายหลังพิธีสดุดีทหารกล้าและมอบความช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตจาก สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า น้องๆ เหล่านี้ได้ทำหน้าที่ อย่างดีที่สุดแล้ว ต้องชื่นชมและสดุดีวีรกรรม16 ท่าน ที่เกิดมาเพื่อปกป้องแผ่นดินด้วยแท้จริง ชีวิตที่เขาได้เสียไปนั้นคุ้มค่าของการเกิดมาบนแผ่นดินไทย หาได้ยาก และเป็นสถานการณ์ที่ต้องการพวกเขา น้องๆ ทุกคนกล้าหาญ ตนเป็นผู้บัญชาการรบเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด และให้กำลังใจทุกคน รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่เราได้มานั้นคือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และบรรพบุรุษของเรา ที่ได้เห็นลูกหลานได้ทำหน้าที่เหมือนพวกเขา ไม่ขี้ขลาด ไม่ถอย ไม่ยอมศัตรู ดั่งบรรพบุรุษเราที่ทำมาในอดีต และปัจจุบันก็ยังมี เพื่อนๆและน้องๆของเขายังอยู่ในพื้นที่เหมือนเดิม พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เหมือนที่พวกเขาได้ทำ ไม่เคยกลัวเลย ถ้าน้องๆ เหล่านี้ใจไม่ถึงจะไม่สามารถที่จะยืนหยัดต่อหน้าศัตรูได้เลย ตนต้องขอบคุณครอบครัวที่เป็นส่วนหนึ่ง ให้พวกเขาทำหน้าที่นี้เพื่อแผ่นดินขอให้ทราบว่าน้องๆได้รับเกียรติสูงสุดแล้ว จากคนไทยทั้งประเทศ เขาได้เสียชีวิตอย่างมีเกียรติ

วีรกรรมทหารกล้าทำคนไทยตาสว่าง

“คนทั้งประเทศรู้เรื่องนี้ ทหารถึงเวลาหนึ่งก็ต้องปกป้องแม้จะเสียชีวิตก็ยอม สังคมไทยรู้ความจริง โดยไม่ต้องพูดให้เขาฟังเพราะเขาเห็น แม่ทัพก็ไม่ต้องอธิบายมาก จึงมีศักดิ์ศรีของทหารไทยมาทุกวันนี้เพราะวีรกรรมของน้องๆ16 ท่าน คือจุดประเด็นให้คนไทยหูตาสว่าง เพื่อกระตุ้นความรักชาติของแผ่นดินของตัวเอง สิ่งที่ได้ยินได้ฟังมานั้นบางอย่าง คนไทยรู้แล้วว่าไม่จริง แม่ทัพก็ได้อนิสงส์จากการเสียสละของน้องๆ โดยตรงเช่นกันที่จะนำความรักความสามัคคีของคนในชาตินี้ ให้เกิดความเข้มแข็ง” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

พลโทบุญสิน กล่าวต่อว่า ควรตระหนักในการทำงานหน้าที่และคุณธรรมจริยธรรมประจำตัวของเรา ในเวลานี้ศักดิ์ศรีของทหาร มาอยู่กับพวกเราแล้ว ศักดิ์ศรีของคนไทยที่จะซื่อสัตย์สุจริต ร่วมกันปกป้องประเทศมีแล้ว เราจะทำอย่างไร เราจะรักษาสิ่งเหล่านี้ ขอให้ช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้คงชั่วลูกชั่วหลาน ให้เกิดความเข้มแข็งตราบนานเท่านาน

เผยมีคนเสนอตั้งพรรคให้แต่ไม่รับ

พลโทบุญสินย้ำว่า มีคนถามว่ามีมวลชนขนาดนี้ ตั้งพรรคให้ ขอให้มาช่วย เพราะไม่มีใครเหมาะสมแล้ว แม่ทัพก็ขอบคุณแต่ไม่ถนัดในด้านนี้ โดยเลือกที่จะไม่รับหน้าที่ใดๆ เพราะสิ่งเหล่านั้น อาจทำให้ตัวแม่ทัพไม่เหมือนทุกวันนี้ และน่าจะเป็นสิ่งนี้ที่ทำให้ประชาชน คิดว่าแม่ทัพบุญสินยังอยู่กับประชาชน ก็ใช้เวลาที่เหลือในการทำหน้าที่ อดีตทหาร มีประเทศชาติของเรามีความเข้มแข็ง ต่อสถาบันหลัก ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์

โดยในการบรรยายตอนหนึ่ง พลโทบุญสิน กล่าวว่า คำถามที่ตนตอบยากที่สุดคือ ถ้าแม่ทัพเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร ส่วนคำถามที่สะเทือนใจที่สุด คือ แม่ทัพได้พูดคุยกับญาติของกำลังพลที่เสียชีวิตอย่างไร

เชื่อเขมรป่วนช่วงส่งหน้าที่ไม่มีผล

พลโทบุญสินกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ที่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทธโธปกรณ์เข้าพื้นที่ว่า ตนได้รับทราบข้อมูลแล้ว และถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการถอนกำลัง และยังไม่ทราบว่า ในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งกำลังทหารก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ส่วนที่ปรากฏภาพเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าพื้นที่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ พลโทบุญสิน ระบุว่า เป็นสิ่งบอกเหตุว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต เรื่องความขัดแย้งด้วยอาวุธ ซึ่งยอมรับว่า ผิดข้อตกลงอยู่แล้ว ก็ประท้วงไป ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นการก่อกวนในช่วงที่จะมีการรับมอบตำแหน่งของแม่ทัพภาคที่ 2 และตำแหน่งสำคัญอื่น ๆในกองทัพ แต่เชื่อว่า คงไม่มีผล ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ก็ทำหน้าที่อำนวยการยุทธก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่งรู้ขั้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว ในขณะที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็เคยอยู่กับรัฐบาลเดิมอยู่แล้ว พร้อมเชื่อว่า จะไปต่อได้ ไม่มีปัญหา

เมื่อถามย้ำว่าทหารมีอำนาจเต็มใช่หรือไม่ พลโทบุญสิน ย้ำว่าถ้าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้ามีอำนาจเต็มอยู่แล้ว

พลโท บุญสิน ยังย้ำว่า กองทัพจะต้องเป็นสุภาพบุรุษในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีเหตุ หรือเงื่อนไข สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เราก็ต้องทำหน้าที่ เพราะเราเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว และไม่ควรทำตามกระแส ซึ่งจะทำอะไรก็ต้องมีเหตุ และผล รวมถึงความมั่นคงของประเทศชาติ และภาพรวม

ไม่เป็นห่วงสถานการณ์แม้ใกล้เกษียณ

พลโทบุญสินระบุว่า ไม่เป็นห่วงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ว่า กำลังเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะมีบุคคลที่มารับหน้าที่ต่อเนื่องได้อยู่แล้ว อีกทั้งตนก็ยังอยู่เป็นที่ปรึกษาของ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ก็เคยเป็นรองแม่ทัพ และอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด ตนเตรียมจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ และจะอยู่ในพื้นที่จนกระทั่งวันสุดท้าย ซึ่งหลังจากเกษียณก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับประชาชน และทำงานตามที่ ผบ.ทบ.มอบหมาย

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้ทหารสามารถตัดสินใจได้ทันทีนั้น พลโทบุญสิน ระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. โดยเฉพาะเรื่องที่กระทบกับความมั่นคงในภาพรวม เพราะการตัดสินใจฝ่ายเดียวอาจจะสูญเสียบางอย่าง

ย้ำไม่เล่นการเมือง-เผยมี3เก้าอี้รอรับ

พลโทบุญสินเผยว่าตนยังไม่ได้พบ พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร 26 จปร.37 ซึ่งทางรมช.กลาโหม ยังไม่ได้ชวน ให้มาเป็นที่ปรึกษาแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเชิญมาตนก็ขอปฏิเสธเพราะจะไม่ยุ่งทางการเมืองแน่นอน แต่ความเป็นเพื่อนก็ยังมีการพูดคุยกันตามปกติ ซึ่ง หลังเกษียณแล้ว ก็ยังคง ช่วยงานกองทัพตาม ที่กองทัพเห็นสมควรว่าตนสามารถช่วยเหลืองานด้านใดได้

“ทางผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ท่านก็จะให้มานั่งเป็นที่ปรึกษา และท่านเลขาสถาบันพระปกเกล้าได้เชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษา และผู้อำนวยการหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข สถาบันพระปกเกล้าฯ และที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีพรรคการเมืองมาทาบทามอยู่หลายพรรค แต่ผมก็ขอยืนยันคำเดิมว่า ไม่ขอยุ่งเกี่ยวทางการเมือง” พล.ท.บุญสิน กล่าว

ชาวบ้านบุรีรัมย์ผวา!แห่อพยพ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ว่า ชาวบ้านเริ่มตื่นตัวและทยอยอพยพกันเอง หลังจากมีกระแสข่าวที่สร้างความกังวลว่าทหารกัมพูชาได้มีการหันกระบอกปืนใหญ่มาทางฝั่งประเทศไทย กลุ่มที่เริ่มอพยพก่อนคือผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ ซึ่งจะเดินทางไปพักกับญาติในอำเภอที่อยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 30 กิโลเมตรขึ้นไป ส่วนชาวบ้านที่ยังคงอยู่ในพื้นที่เป็นกลุ่มที่แข็งแรงและพร้อมที่จะดูแลบ้าน โดยหลายคนนำรถยนต์ไปเติมน้ำมันจนเต็มถัง เพื่อเตรียมพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันทีหากมีการประกาศจากทางการ หรือได้ยินเสียงปืนใหญ่

นางวันชัย แซวประโคน อายุ 68 ปี ชาวบ้านจากบ้านโคกกระชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด กล่าวว่า ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกกว่า 10 คน แต่มีรถยนต์เพียงคันเดียว ลูกๆ จึงตัดสินใจให้ผู้สูงอายุไปพักกับญาติที่อำเภอประโคนชัยก่อน เพื่อความปลอดภัย ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวเพราะยังไม่ทราบว่าผู้นำกัมพูชาจะมีการตัดสินใจอย่างไรต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top