‘หนู’ถือฤกษ์วันธงชัยเข้าทำเนียบ
ย้าย‘รูปปั้นนรสิงห์’
อาจารย์แนะนำ-ไม่หวังอยู่เกิน4ด.
ชูไทยศูนย์กลางการค้า/ลงทุน
เชื่อมชาติอาเซียน-จีนตอนใต้
ย้ำโยกย้ายมท.ไร้วาระส่วนตัว
นายกฯถือฤกษ์ดีนำรัฐมนตรีภูมิใจไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ ขอพรให้ราบรื่น ย้ายรูปปั้นนรสิงห์กลับตึกไทยคู่ฟ้า เหมือนยุค “ลุงตู่” นายกฯประกาศไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการค้า-การลงทุน ในภูมิภาค พร้อมเป็นเส้นเลือดใหญ่เชื่อมอาเซียน-จีนตอนใต้ เปิด 5 มิติเชื่อมโยง สัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย-จีน 50 ปี ขณะที่ “ธรรมนัส”ดีใจได้คัมแบ็ค เดินหน้าสางปัญหาวงการกีฬา ลั่นฟัน’ตัวขวาง’ให้ขาด ปัดทาบทาม’เดชอิศม์’ เข้า ‘กล้าธรรม’ด้าน’นิพนธ์’ส่อย้ายกลับ’ปชป.’จับตาทาบ’มาร์ค’หวนนั่งหัวหน้า
เมื่อเวลา 08.19 น.วันที่ 26 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เป็นการเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้าอย่างเป็นทางการวันแรก ทันทีที่มาถึงนายกฯได้ขึ้นไปยังห้องทำงานและได้สักการะพระพุทธรูปที่อยู่ในห้อง
นายกฯถือฤกษ์ดีนำรมต.เข้าสักการะ
จากนั้น เวลา 08.41น.นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ได้ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี,นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นางศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลังและพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม รวมถึงสส.พรรคภูมิใจไทยและคณะทำงาน ร่วมติดตามมาด้วย
โดยทันทีที่สักการะเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ขอพรอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ราบรื่น ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า จะนำเครื่องรางอะไรเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า“อยู่ที่ใจ”วันนี้ตรงกับวันอธิบดี วันธงชัย ถือเป็นวันฤกษ์ดีในการเริ่มต้นทำกิจการ หรือ ทำพิธีมงคล เหมาะสำหรับเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความสำเร็จสูงสุด อีกทั้งยังเหมาะสำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง อำนาจ การปกครอง และการบริหาร ทั้งสองวันถือเป็นวันฤกษ์ดีที่ใช้ในการประกอบพิธีมงคลต่างๆ เพื่อเสริมดวงและโชคลาภ
ลั่นบัญชีทรัพย์สินแจงปปช.ไม่ขัดรธน.
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กรณีการได้มาซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินโรงแรมแรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท และสนามบิน ใน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ไม่ใช่ตอนนี้ ทุกอย่างที่ตนได้ดำเนินการชี้แจงในเรื่องของบัญชีทรัพย์สินตามรัฐธรรมนูญต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ทำมาตั้งแต่ปี2547แล้ว ซึ่งยึดถือหลักเดิมที่ทำและมั่นใจว่าไม่มีส่วนใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า กรณีสัญญากู้ยืมเงิน 8.5ล้านบาท ให้กับลูกหนี้ชื่อปราณี ซึ่งในรายละเอียดสัญญาเงินกู้ข้อ 2 ระบุว่าผู้กู้ยินยอมจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ0.6ต่อปี ซึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อปปช.ล่าสุด ไม่ได้แจ้งในส่วนของดอกเบี้ย นายอนุทิน กล่าวว่า ผมมีคำอธิบายต่อปปช.โอเคนะ ขอบคุณมาก
ภริยา’อนุทิน’สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย
เวลา 14.12น.น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา นายอนุทิน เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคลผู้สื่อข่าวถามว่า ขอพรอะไรบ้าง น.ส.ธนนนท์ กล่าวว่า ได้อธิษฐานขอให้นายกฯ ทำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ ไม่มีอุปสรรค
ย้ายรูปปั้นนรสิงห์กลับเหมือนยุค’ลุงตู่’
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เวลา 12.09น.เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถตู้เบนซ์ สีดำ ทะเบียน 1นช4268 กรุงเทพมหานคร ย้ายรูปปั้นนรสิงห์จำลอง ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งในอดีตเป็นบ้านนรสิงห์ จากตึกแสงอาทิตย์ที่ติดกับตึกนารีสโมสรเพื่อกลับมาประดิษฐานยังระเบียงชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นจุดเดิมตั้งแต่ปี 2564 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ได้มีการอัญเชิญไปไว้ที่ตึกแสงอาทิตย์ในช่วงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ตั้งแต่วันที่ 24พ.ย.66และไม่ได้ย้ายรูปปั้นนรสิงห์จำลองกลับมาตั้งแต่นั้น
ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ย้ายรูปปั้นนรสิงห์จำลองเสร็จ ต่อมาในเวลา 12.47 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้อุ้มรูปปั้นนรสิงห์จำลอง ออกมาประดิษฐานยังระเบียงตึกไทยคู่ฟ้าด้วยตัวเอง โดยได้ตั้งชิดกับกำแพงด้านซ้าย ติดขอบประตู และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ตั้งของบ้านพิษณุโลก พร้อมกับคล้องพวงมาลัย
ปัด’สายมู’หวังรัฐบาลอยู่เกิน4เดือน
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กรณีย้ายรูปปั้นนรสิงห์จำลองกลับมาที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์แนะนำเพราะองค์นรสิงห์ประดิษฐานไว้ที่ไทยคู่ฟ้าอยู่แล้ว จึงไปเชิญท่านกลับมาในที่ที่เหมาะสมกับท่าน เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าการทำเช่นนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะไม่ใช่แค่ 4 เดือน แต่จะเป็น 4 เดือนบวก 4 ปี ? นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว อย่าไปคิดมากกัน คนละเรื่องกัน อะไรที่ทำแล้วสบายใจและมีความเป็นสิริมงคลกับประเทศ ประชาชน และตนเอง ทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร
นายกฯยันสัมพันธ์50ปีไทย-จีนปึ๊ก
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวในวาระครบรอบ50ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนว่า จะร่วมกันสร้างรากฐานความร่วมมือที่มั่นคงในทุกมิติ การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน มั่นใจว่ารากฐานนี้จะนำพาไปสู่โอกาสใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยจีนทำให้เห็นถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัลและการเป็นผู้นำพลังงานสะอาด ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบเศรษฐกิจ เพื่อตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต การมาบรรจบกันทางศักยภาพของทั้งสองประเทศ จึงเป็นโอกาสทองที่พวกเราจะร่วมกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองใน 5 มิติ ได้แก่ 1.มิติการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ การลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รถไฟโครงการความเร็วสูงไทย-จีน ที่เชื่อมอาเซียนกับจีนตอนใต้ สร้างเครือข่ายการค้าและการท่องเที่ยวไร้รอยต่อ
เชื่อมอาเซียนกับจีนตอนใต้ใน5มิติ
2.มิติเศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยี รวมถึงแบตเตอรี่โดยมีจีนเป็นพันธมิตรหลัก ได้กำหนดแผนพัฒนาการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี2568-2572 เพื่อขยายความร่วมมือสู่สาขายุทธศาสตร์ใหม่ ได้แก่ เซมิควอนดักเตอร์ แบตเตอรี่พลังผลิตสีเขียว 3.มิติเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงระบบการเงินการค้าข้ามพรมแดนและการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและจีน โดยเฉพาะSMEs และสตาร์ทอัพ ได้เข้าถึงตลาดใหม่ได้สะดวก 4.มิติการเกษตรและความมั่นคงทางทหารและ5.มิติการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ด้านการศึกษา วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ทั้งการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรวิชาชีพ ด้านภาษา วัฒนธรรม ที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีความแน่นแฟ้น บนรากฐานของความเข้าอกเข้าใจ ต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษทั้งสองประเทศได้สืบสาน
นายอนุทิน กล่าวว่า มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการค้าการลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค โดยร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด เดินหน้าลดอุปสรรค ปรับปรุงกฎระเบียบและเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชนของทั้ง 2ประเทศเติบโต ประเทศไทยจะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เป็นเพียงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ แต่จะเป็นประตูสำคัญเปิดสู่ความร่วมมืออื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้มิตรภาพที่มีต่อกันอย่างยาวนานระหว่างไทยและจีน เป็นสปริงบอร์ด ที่จะนำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
‘ภราดร’พกพระนายกฯให้เข้าทำเนียบฯ
เวลา 08.50น.ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจาก นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลเสร็จสิ้น สื่อมวลชนสอบถามว่าพกเครื่องรางสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเข้าทำเนียบฯวันแรกหรือไม่ ทำให้นายภราดร หยิบพระที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาและเปิดเผยว่า เป็นพระของสมเด็จธงชัย ที่นายอนุทิน มอบให้เมื่อวันคล้ายวันเกิดของตนเอง ก่อนจะเก็บพระเข้ากระเป๋าเสื้อและยิ้ม จากนั้นเวลา 09.18น.นายสมศักดิ์ และนางรวีวรรณ ปริศนานันทกุล บิดาและมารดา ของนายภราดรได้เดินทางมาที่ตึกบัญชาการ1 โดยอุ้มพระพุทธสิริไตรรัฐ ปางประทานพรมาด้วย โดยนายสมศักดิ์ ระบุว่า เป็นพระที่นายอนุทิน มอบให้นายภราดร ในช่วงดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะนำมาไว้ที่ห้องทำงานบนตึกบัญชาการ
‘ธรรมนัส’ดีใจคัมแบ็คคุมก.เกษตรฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เข้าทำเนียบรัฐบาล โดยสวมชุดสูทสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงเกษตรฯ และพรรคกล้าธรรม เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลโดยใช้เวลาสวดนานหลายนาที ว่าเป็นความลับส่วนตัวบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เป็นประเพณีปฏิบัติ ของคนที่จะมาทำงานทำเนียบรัฐบาล
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็มีความตั้งใจที่จะมาทำงาน และสานต่อในสิ่งที่ตน ได้ทำมาโดยตลอด ในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2562 จนมาถึงปัจจุบันก็ดีใจที่ได้กลับมา เมื่อถามว่า การได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซึ่งจะมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นด้วย ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ก็เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่เราต้องทำให้ดี เพื่อแก้ปัญหาการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นงานสำคัญในเรื่องปัญหาต่างๆ ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ลั่นฟันตัวขวางในวงการกีฬาให้ขาด
เมื่อถามถึงปัญหาการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสว.ก็จับจ้องเรื่องนี้อยู่ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า เราเหลือเวลาประมาณ 70วัน วันนี้ช่วงบ่ายตนก็จะไปประชุม ร่วมกับคณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนกีฬาซึ่งเป็นเรื่อง สำคัญที่ทุกสมาคม ต่างมีปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดสรร ซึ่งไม่มีความชัดเจน ในการใช้งบประมาณของเงินกองทุนกีฬา ไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับวงการกีฬา ซึ่งตนก็มีมาตรการเด็ดขาดอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะเข้าไปสร้างปัญหาเรื่องนี้เพราะมีตัวที่ขวางอยู่ใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า “ ตัวขวาง ผมชอบอยู่แล้ว จะฟันให้ขาด ไม่ต้องห่วง” ซึ่งวันนี้เป็นวันมงคลตนจึงตามนายกรัฐมนตรี เข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล และเมื่อวานนี้เรื่องของกีฬานายกรัฐมนตรีได้สั่งการชัดเจน ว่าต้องทำให้เด็ดขาด อะไรที่สะสมมานานก็ต้องทำให้สะอาด ทำบ้านเราให้สะอาด ก่อนที่การกีฬาโลก ที่เขาจะมาลงทันเรา เช่นเดียวกับสมาคมเปตอง ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป
ปัดทาบ’เดชอิศม์’เข้า’กธ.’รอคุยนายกฯ
ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีการทาบทาม นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคปชป.ให้มาร่วมกับพรรคกล้าธรรม ว่า ยัง เราทำงานก่อน อย่าเพิ่งไปคุยถึงเรื่องอื่น ย้ำว่าตนยังไม่ไปคุยกับใคร เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า นายหิมาลัย ผิวพรรณ สมาชิกพรรคกล้าธรรม เป็นคนไปทาบทาม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่ตนมอบหมายให้นายหิมาลัย เดินเรื่องการเมืองในหลายจังหวัด เพื่อเตรียมการเลือกตั้งในอนาคต และเป็นเรื่องที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม และนายหิมาลัย รับผิดชอบอยู่ เมื่อถามว่า หาก นายเดชอิศม์ มาร่วม จะทำงานร่วมกับรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะมีปัญหาคัดค้านเรื่องเขากระโดง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลายเรื่องตนต้องปรึกษานายกฯ เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
‘ศุภมาส’เร่งเครื่องส่งสารรัฐบาลถึงปชช.
น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์เวลา 09.09น.เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09.45น.ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้น น.ส.ศุภมาส ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์และอสมท. ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายภายหลังได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสื่อของรัฐว่า ดีใจที่มีโอกาสดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล ถือว่ากลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง ซึ่งรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน เราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชนและให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกฯ หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกประจำสำนักนายกฯอีกครั้ง เราต้องการความร่วมมือทุกองคาพยพ เนื่องจากรัฐบาลมีเวลาทำงานสั้นแค่ 4เดือน จึงจะต้องทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลที่ตั้งใจจะมอบให้ให้ทั่วถึงและให้มากที่สุดและเกิดประโยชน์สูงสุดในระยะเวลาที่จำกัดเพื่อประเทศและประชาชน
‘โสภณ’ชี้สิทธิฝ่ายค้านซักฟอกคุณสมบัติ
นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีโดยเฉพาะที่มาจาก จ.บุรีรัมย์ ในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า เป็นสิทธิฝ่ายค้านที่จะพูด อย่างไรก็ตามเรื่องคุณสมบัติมี 2 อย่างคือ กฎหมายและสังคมจะรับได้หรือไม่ เพราะความดีของคน วัดได้ 2 อย่าง คือทางโลกและทางธรรม ถึงจะรู้ว่าใครเหมาะ แต่ในฐานะคนบุรีรัมย์ต้องชี้แจง แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหา รัฐมนตรีจะมาจากบุรีรัมย์มากหรือน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา แต่มาแล้วทำให้ประเทศชาติเสียหายหรือไม่ หรือทำอะไรให้สังคมได้หรือไม่ เพราะด้วยระยะเวลาอันสั้นสังคมคาดหวังสูง ก็ยิ่งต้องทุ่มทุกสรรพกำลัง ที่ต้องทำทั้งการบ้านและการเมือง แสวงหาความเข้าใจกับประชาชนเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนการเมืองก็ต้องพัฒนาประเทศ เมื่อถามถึงกรณีหลายคนมองว่า นายโสภณ เป็นตัวแทน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนอมินีตนโดนมานานแล้ว ทุกคนมีนอมินีหมด อย่างน้อยก็อมินีเมียตัวเองและตนก็เป็นนอมินีที่พรรคภูมิใจไทยส่งมา ฉะนั้นเป็นตัวแทนใครไม่สำคัญ อยู่ที่การใช้อำนาจ
‘นิพนธ์’กลับปชป.-ทาบ‘มาดามแป้ง’เลขา
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งอยู่ระหว่างไปทำธุรกิจในต่างประเทศ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยว่า จะไปร่วมงานด้วยจริง เพราะเห็นว่าเคยมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคยสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้เมื่อสถานการณ์ในพรรคปชป.เปลี่ยนแปลง มีความเป็นไปได้มากว่า นายอภิสิทธิ์ จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็ลำบากใจ อาจต้องทบทวนการตัดสินใจ เพราะตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ นายอภิสิทธิ์
แหล่งข่าวในพรรคปชป.ปิดเผยว่าหาก นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคปชป.จะให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค โดยยอมรับว่า มีการทาบทาม นางนวลพรรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง มาเป็นเลขาธิการพรรค แต่มาดามแป้ง ยังไม่ได้ตอบรับ นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่าถ้ามาดามแป้งไม่รับ อาจเสนอให้ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ รับเป็น เลขาธิการพรรค โดยมาดามแป้ง อาจเป็นรองหัวหน้าพรรค
จับตา’อภิสิทธิ์’กลับจากจีน-รอแสดงท่าที
ในขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์กำลังรอคอยการยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะตอบรับกลับมาสมัครรับเลือกตั้ง เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหรือไม่ และมีข่าวว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้กุมเสียงโหวตเตอร์ส่วนใหญ่ของพรรค ได้นัดหมายพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ปรากฎว่าขณะนี้นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค Abhisit Vejjajavaได้โพสต์ภาพนายอภิสิทธิ์และทีมงานที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยระบุข้อความว่า “นำคณะไปร่วมประชุมสันติภาพที่ปักกิ่งครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี