วันที่ 30 กันยายน 2568 นายปฏิพล อภิญญาณกุล นักเขียนชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า คุณสิริกันยุง อย่าเพิ่งตื่นตกใจ.ครับ ใจเย็น ๆ
พรรคคุณเปิดโอกาสให้พรรคหนูเป็นรัฐบาล การนำโครงการคนละครึ่ง ก็เป็นการนำมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า .. แน่นอน ถ้าทำดี พรรคหนูก็ควรจะได้รับเสียงเพิ่มขึ้นในสมัยหน้า และถ้าทำไม่ดี ทำไม่ได้ พรรคหนูย่อมต้องรับการถูกหันหลัง เมินหน้า จากประชาชน "คนละครึ่ง" ไม่ใช่การซื้อเสียงล่วงหน้า แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศระยะสั้น การซื้อเสียงล่วงหน้า ต้องมีการบอกว่า .. ถ้าต่อไปเลือกพรรค A B หรือ C เราจะให้คนละครึ่งเป็น 4,000 บาท ตลอดปี .. อะไรแบบนี้
เดิมนั้นพรรคหนู คงไม่คิดว่าตัวเองมีโอกาสเป็นรัฐบาลแต่แล้ว จู่ ๆ หนูน้อยแห่งตระกูลชินคุก ถูกลุงเขมรเขี่ยตกเก้าอี้ .. พรรคหนูพลันนึกถึงโครงการคนละครึ่ง มาทันที มีระยะเวลาทำงานแค่ 4 เดือน จะไปคิดโครงการสร้างตลาดใหญ่โต 2-3 ปี ได้อย่างไร
☆ กลยุทธ์ "ทำน้อย แต่ได้มาก" .. แบบคนละครึ่ง จึงเหมาะสมกับสถานการณ์ คุณสิริกันยุง เพิ่งรู้สึกตกใจว่า พรรคส้วม "พลาดท่า" ไปแล้วหรือครับ ?
แสดงว่าในความคิดของคุณ ย่อมต้องรู้สึกว่า คนละครึ่ง มันโดนใจประชาชน
คุณสิริกันยุง ไม่คิดจะชม "ต้นแบบคนละครึ่ง" ของรัฐบาลก่อนโน่นหรือ ?
○ นักสู้ที่ดี ต้องรู้จักชมคู่ต่อสู้บ้าง มิใช่พยายามป้ายโคลนใส่อีกฝ่ายตลอดเวลา
คุณสิริกันยุง บอกว่า นโยบายของรัฐบาลหนู และรัฐบาลหญิงเอ๋อ รวมถึงรัฐบาล 3 ป. ก่อนนั้น , ล้วนมีแต่คำกว้าง ๆ ลอย ๆ ไม่มีตัวชี้วัดใด ๆ ทั้งสิ้น นี้ถ้าผมเอานโยบายของพรรคก้าวไกล ที่เคยหาเสียงเอาไว้ มากางให้ดู . แล้วถามตัวชี้วัดที่ไม่มีระบุไว้ในนโยบาย หวังว่าคุณจะตอบได้ เอาตัวอย่างใกล้ ๆ ที่กำลังจะมาถึงนี้ แบบสั้น ๆ ก่อนแล้วกัน ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทางพรรคคุณพยายามจะทำทุกวิถีทาง . มีตัวชี้วัดอะไรไหม ? ว่า
1. สมมติ เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้แล้ว ประชาชนจะดีขึ้น ทั้งสภาพความเป็นอยู่ สุขอนามัย ปีแรกชีวิตประชาชนจะดีขึ้นกี่เปอร์เซนต์ . ปีที่ 3 และ ปีที่ 5 จะดีขึ้นกี่เปอร์เซนต์
2 . แล้วนักการเมืองจะเลวน้อยลงกี่เปอร์เซนต์ สมัยแรกกี่เปอร์เซนต์ และสมัยต่อ ๆ ไปกี่เปอร์เซนต์ การโกหก ใส่ร้าย ปลิ้นปล้อน จะลดลงกี่เปอร์เซนต์ ในระยะเวลาเท่าไร ?
3. รัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไร ? ใช้ตัวชี้วัดอะไรที่บ่งบอกว่า มีอัตราส่วนที่เชื่อมโยงกันและมีแนวโน้มที่สูงขึ้น
เอาแค่นี้ก่อนสั้น ๆ ไว้วันหลังจะมาเขียนถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ ..
วันนี้จะมาชี้ให้เห็นว่า . คุณสิริกันยุงและแก็งค์ส้ม กำลังกลัวคะแนนเสียงในอนาคต ที่อาจจะเปลี่ยนไป
ที่พวกคุณไม่ยอมเข้าร่วมรัฐบาล แต่ยอมเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม เป็นเพราะอะไรหรือ ?
ผมมานั่งคิดเล่น ๆ จึงได้สมมติฐาน ว่า
1. เป็นเพราะพวกคุณไม่คิดแก้ปัญหาให้ประเทศ การทำให้ประเทศดีขึ้นและเดินต่อไปได้ ไม่ใช่จุดประสงค์ของพรรคส้วม
● พวกคุณกำเนิดเกิดพรรคและอยู่ได้ เพราะการสร้างความแตกแยก เป็นจุดขาย
2. แท้จริงแล้วพวกคุณ บ่มิไก๊ .. ไม่มีน้ำยา ไม่มีฝีมือ พวกคุณเดินเป็นแต่ถนนทางเรียบ . พอเจอถนนขรุขระ เป็นหลุม เป็นโคลน ก็ถอยหลัง
● รอให้คนอื่นมาถมทาง แล้วตัวเองคอยตำหนิ แสดงคำแนะนำ เพื่ออวดตนว่าเหนือกว่า อยู่ข้าง ๆ
คนโง่ที่เดินผ่านไป ผ่านมา พอฟังสิ่งที่พวกคุณตำหนิคนถมทาง ก็ชมคุณว่า เก่งจัง
เสียงปรบมือแบบเบาปัญญาจึงเกิดขึ้น
การออกมาดักคอห้ามรัฐบาลหนู ด้วยไม่ให้ทำอะไรเลย แค่ให้นั่งไปเรื่อย ๆ แล้วรอวันยุบสภาเท่านั้น . นับว่าเป็นการคาดคะเนแบบ "อ้วนเสี้ยว" ผู้งี่เง่า อ้วนเสี้ยว มีกำลังพลเยอะ แต่มองเหตุการณ์ไม่ทะลุ ท้ายที่สุดอ้วนเสี้ยวก็พ่ายแพ้ กำลังพลของอ้วนเสี้ยวก็หนีไปอยู่กับก๊กอื่น ๆ ส่วนใหญ่มาอยู่ก๊กของโจโฉ โจโฉ เริ่มต้นมีกำลังพลแค่ 3,000 - 4,000 นาย แต่โจโฉอยู่ในระบบราชการ .
การคุ้นเคยในระบบ ความชอบธรรมในตำแหน่ง และตลอดจนความสามารถในการใช้ระบบราชการให้เป็นประโยชน์ ทำให้ต่อมาโจโฉมีกองกำลังมากที่สุดในแผ่นดิน ฉันใดก็ฉันนั้น .. การขับเคลื่อนโครงการคนละครึ่งในปัจจุบัน ก็เป็นการใช้ระบบราชการสร้างประโยชน์ให้ประชาชน และผลในสิ่งที่ทำ จะทำให้พรรคของก๊กหนู ได้ประโยชน์เต็ม ๆ ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร คุณสิริกันยุง ควรเอาผ้าเย็น ๆ มาเช็ดรอบ ๆ ดวงตาบ้างนะ รู้สึกว่า "ตาจะร้อน" จนออกนอกหน้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ห่วง'คนละครึ่ง'ซื้อเสียงล่วงหน้า 'ศิริกัญญา' ดักคอ 'อย่าฉวยโอกาส'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี