สื่อสารเชิงรุก! โฆษก รบ.ลั่นตรงประเด็น-รวดเร็ว ไม่มีอ่อนข้อแน่นอน

สื่อสารเชิงรุก! โฆษก รบ.ลั่นตรงประเด็น-รวดเร็ว ไม่มีอ่อนข้อแน่นอน

วันพุธ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.43 น.

"สิริพงศ์"ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ก่อนเริ่มงานโฆษกรัฐบาล ระบุเน้นสื่อสารตรงประเด็น-รวดเร็ว ส่วนปมชายแดนต้องคัดกรอง ประสาน"โฆษก กต.-กห." ลั่นไม่มีอ่อนข้อแน่นอน

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการ พร้อมถ่ายภาพกับครอบครัวที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า


นายสิริพงศ์ เปิดเผยว่า การทำหน้าที่ของโฆษกรัฐบาลมีหน้าที่นำเสนอนโยบายรัฐบาลที่เป็นภาษาทางการ หรือ ศัพท์เทคนิคที่ค่อนข้างเข้าใจยากให้สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจได้ ตรงประเด็นให้ได้มากที่สุด เพื่อให้การดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ไขว้เขว หากในการสื่อสารมีคนพูดหลายคนอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจที่แตกต่างและคลาดเคลื่อนกันบ้าง เราต้องมีหน้าที่ หากข่าวใดผิดเราต้องแก้ไขให้ถูกต้องและนำเสนอข่าวที่ถูกต้องให้กับประชาชนทราบ

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ส่วนการชี้แจงและตอบโต้ในกรณีชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ตนเป็นคนชายแดนต้องสื่อสารให้ตรงไปตรงมา แต่ประเด็นที่สำคัญในการสื่อสารสำหรับสถานการณ์ชายแดนจำเป็นจะต้องมีการคัดกรองข่าว อย่างกรณีที่กัมพูชาออกมากระทำการยั่วยุเพื่อให้ฝ่ายไทยโต้ตอบนั้น ทุกอย่างแล้วแต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เมื่อสถานการณ์ตึงเครียด จำเป็นจะต้องสื่อสารกับประชาชนโดยเร็ว แต่การทำงานของโฆษกคณะนี้มีความตั้งใจว่ากระทรวงที่มีส่วนในการสื่อสาร เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม จะต้องขอให้ทางทีมโฆษกของแต่ละกระทรวงทำงานใกล้ชิดกับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อการสื่อสารที่รวดเร็วและตรงประเด็น ส่วนเรื่องกลยุทธ์การสื่อสารนั้น จะต้องรวดเร็วและตรงประเด็น เนื่องจากทราบว่าความล่าช้าในอดีตที่ผ่านมาอาจจะทำให้ประชาชนมีความไม่เข้าใจ และการสื่อสารที่ไม่เป็นทางการอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนและความกังวลใจ เราจะเอาบทเรียนเหล่านั้นจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมามาปรับปรุงในการสื่อสารเชิงรุกให้มากขึ้น

เมื่อถามว่า มองว่าระยะเวลา 4 เดือนเพียงพอในการแก้ไขปัญหาชายแดนหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ปัจจัยไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว แต่อยู่ที่กัมพูชาด้วย นายกรัฐมนตรีมีเจตนาที่หนักแน่นว่าสถานการณ์ชายแดนจะไม่มีการเริ่มเจรจาเปิดด่านจนกว่ากัมพูชาจะถอนกำลัง และตนเชื่อว่ามาตรการ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหมหรือกระทรวงการต่างประเทศทุกอย่างที่ดำเนินการอยู่ก็หวังจะกดดันให้กัมพูชาถอนกำลังโดยเร็วและสถานการณ์เป็นปกติโดยเร็ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ และแนวทางของรัฐบาลไทยคือ ไม่ยอมที่จะอ่อนข้อให้กับเขาอย่างแน่นอน

นายสิริพงศ์ เปิดเผยว่า ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะยังคงมีอยู่ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดเดิม

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top