'เทพไท'ยก 6 เหตุผล รัฐบาลไม่ควรทำประชามติ MOU43-44 แนะทำเรื่อง'กาสิโน'ให้จบๆ ดีกว่า

'เทพไท'ยก 6 เหตุผล รัฐบาลไม่ควรทำประชามติ MOU43-44 แนะทำเรื่อง'กาสิโน'ให้จบๆ ดีกว่า

วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 08.18 น.

'เทพไท'ยก 6 เหตุผล รัฐบาลไม่ควรทำประชามติ MOU43-44 แนะทำเรื่อง'กาสิโน'ให้จบๆ ดีกว่า

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง"ในหัวข้อ "ไม่ควรทำประชามติ MOU43-44" ระบุว่า "ไม่ควรทำประชามติMOU43-44
ในช่วงที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งตอนหนึ่ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเรื่องการทำประชามติต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาว่า ในวันเลือกตั้งทั่วไป หลังจากรัฐบาลยุบสภาแล้ว จะมีบัตรลงคะแนน4ใบ คือ ใบที่1 ใช้สำหรับเลือกส.ส.ระบบเขต ใบที่2 ใช้สำหรับเลือกส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ใบที่3 ใช้สำหรับทำประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใบที่4 ใช้สำหรับการทำประชามติยกเลิก MOU43 และMOU44 ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเรื่องการใช้บัตรลงคะแนน4ใบ จนฝ่ายรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงว่า ประชาชนคนไทยไม่โง่ สามารถแยกแยะได้ว่า บัตรใบไหนใช้เลือกอะไร


ผมไม่ขัดข้องและเชื่อว่าประชาชนคนไทยสามารถแยกแยะได้ ว่าบัตรใบไหนใช้เลือกอะไร แต่ที่ติดใจก็คือ ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติยกเลิก MOU43 MOU44 ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ไม่เห็นด้วยจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก แต่ที่ไม่เห็นด้วยประเด็นนี้ก็เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ควรนำมาทำประชามติด้วยเหตุผล คือ

1.เรื่องMOU43 MOU44 เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลโดยตรง รัฐบาลสามารถจะตัดสินใจเองได้ เพราะMOUทั้ง2ฉบับเกิดขึ้น มาด้วยข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ภายใต้การตัดสินใจของรัฐบาลทั้ง2ประเทศ จะยกเลิกก็ไม่ควรถามประชาชน รัฐบาลมีอำนาจสามารถยกเลิกได้ เพราะเป็นแค่บันทึกข้อตกลงหรือMOUเท่านั้น

2.รายละเอียดของMOU มีความซับซ้อน มีความเกี่ยวโยงกับกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ มีเทคนิคทางกฎหมาย มีเทคนิคทางการเจรจา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะทำความเข้าใจ แม้ว่ารัฐบาลจะให้ข้อมูลกับประชาชนมากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่ประชาชนก็ไม่สามารถจะรู้ลึกไปถึงข้อมูลของMOUทั้ง2ฉบับได้อย่างถ่องแท้

3.รัฐบาลควรใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีความยึดโยงกับประชาชน ซึ่งในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาMOUอยู่แล้ว ที่มีนายไชยชนก ชิดชอบ เป็นประธานฯ สามารถจะให้คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ รวบรวมข้อมูล ข้อดีข้อเสีย สรุปความเห็นเสนอไปยังรัฐบาลได้ และรัฐบาลสามารถนำไปปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือบทสรุปของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาMOUได้ในทันที

4.การที่MOU43 MOU44 เป็นบันทึกข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้ทำกันมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ได้ใช้ปฏิบัติมาโดยตลอด ไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติจนถึงขั้นต้องยกเลิก ยังไม่มีรัฐบาลชุดใดเคลื่อนไหวยกเลิกMOUทั้ง2ฉบับ ถ้าหากMOUทั้ง2ฉบับ มีปัญหาในทางปฏิบัติจริง น่าจะมีการเสนอการยกเลิกบ้างแล้ว

5.รัฐบาลควรจะถามความเห็นจากผู้ปฏิบัติโดยตรง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กรมสนธิสัญญา กองทัพไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือคณะกรรมการชายแดน ถ้าMOU43 MOU44 มีปัญหาในทางปฏิบัติ ควรจะยกเลิกหรือควรจะแก้ไข หรือควรจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่

6.ถ้าหากรัฐบาลอยากจะทำประชามติ แต่MOU43 MOU44 มีความซับซ้อนประชาชนเข้าใจยาก ผลที่ออกมาอาจจะไม่ตรงกับเจตนารมย์ที่แท้จริง รัฐบาลควรจะใช้โอกาสนี้ทำประชามติเกี่ยวกับการมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ บ่อนคาสิโน หรือกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งไม่มีความสลับซับซ้อน สามารถถามประชาชนได้ และข้อสรุปเรื่องนี้ก็จะได้เป็นข้อยุติ จะได้ไม่ต้องถกเถียงกันต่อไปว่า ประเทศไทยควรจะมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ บ่อนคาสิโนหรือไม่ จะได้ข้อยุติจากประชามติของประชาชน

ผมอยากเสนอความเห็นไปยังรัฐบาลว่า การทำประชามติผมไม่ได้คัดค้าน แต่ถ้าจะทำประชามติเกี่ยวกับการยกเลิกMOU43 MOU44 ต้องมีความรอบคอบมากกว่านี้ และไม่ควรนำไปทำประชามติ ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่า เมื่อยกเลิกแล้วจะมีประโยชน์มากกว่าคงอยู่ ก็จะตัดสินใจยกเลิกได้ เป็นสิทธิ์เป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้ควรคงมีต่อไป เป็นเครื่องมือในการเจรจาปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาได้ ก็คงมีอยู่ต่อไป จึงไม่อยากให้รัฐบาลผลักภาระไปยังประชาชน ที่ไม่รู้ข้อมูลอย่างแท้จริง และจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top