‘อนุทิน’ลั่นกลางสภา
ไม่แทรกแซงสอบถนนยุบ-อุ้มเอกชน
ควง‘บิ๊กเล็ก’ตรวจชายแดน
‘สุรินทร์/บุรีรัมย์’3-4ต.ค.นี้
“อนุทิน”เข้าสภาฯตอบกระทู้สดครั้งแรก“สส.พรรคส้ม”ถามเรื่องถนนยุบตัวหน้ารพ.วชิระจี้ถามเอี่ยวโยง การเมือง2บิ๊กบริษัทผู้รับจ้าง’นายกฯ’ยันสั่ง’คมนาคม‘ ตั้งคกก.สอบสวนหาความจริงแล้ว ลั่นหากพบผิดฟันไม่เลี้ยงให้สัตยาบรรณกลางสภา ไม่แทรกแซงการตรวจสอบ-เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ไม่อุ้มช่วยเหลือใคร มีแต่จะกระทืบไม่มีมนุษย์หน้าไหนเอื้อประโยชน์ให้คนทำผิดเผยหน่วยเกี่ยวข้องเร่งคืนพื้นผิวจราจรใน9ต.ค. ลั่นเหมือนไม่รู้จัก‘ซิโน-ไทย’เหตุออกมา20ปีแล้ว เข้ามาเล่นการเมือง’การันตีไม่ขัดแย้งรธน.เปิดภารกิจ‘นายกฯ’ควง‘บิ๊กเล็ก’ลงตรวจชายแดน‘สุรินทร์-บุรีรัมย์’3-4 ต.ค. เตรียมเยือนสปป.ลาวประเดิมที่แรก ต่อด้วย ‘มาเลเซีย-สิงคโปร์’
เมื่อเวลา11.40น.วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง ขอให้ตรวจสอบสาเหตุกรณีถนนยุบบริเวณถนนสามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ของนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม.เขต1พรรคประชาชน ตั้งถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยซึ่งนายอนุทินได้เดินทางเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกภายหลังดำรงตำแหน่งนายกฯ
‘สส.พรรคส้ม’ตั้งกระทู้ถามถนนยุบตัว
โดยนายปารเมศ กล่าวว่าติดตามข่าวที่นายกฯลงพื้นที่ด้วยตนเองหลายครั้งที่จุดเกิดเหตุที่ถูกจับจ้องสร้างความหวาดกลัวให้คนไทย เมื่อวันที่24ก.ย.สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่หลุมขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการถล่มของความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อโครงการรัฐบาล วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือหลุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย มีความลึกกว่า50เมตร กว้าง30คูณ30เมตร ไม่ได้กลืนกินเพียงถนน แต่กลืนกินความรู้สึกความปลอดภัย ในการใช้ชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ โชคดีที่ไม่เกิดความสูญเสียครั้งหน้าโชคอาจไม่ได้อยู่ข้างเรา ผลกระทบที่เกิดขึ้นประชาชนรู้สึกหวาดผวา ไม่กล้าใช้ถนนเส้นนี้ที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ผู้ป่วย และบุคลากรโรงพยาบาลวชิรเป็นหมื่นคนได้รับผลกระทบ ทั้งการเข้าถึงการรักษารวมถึงการสัญจรการจราจรใจกลางเมืองปั่นป่วน เสียเวลา เศรษฐกิจเสียหายอย่างซ้ำซ้อน
ชี้สัญญาณเตือนโครงการรัฐขนาดใหญ่
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุทางวิศวกรรมธรรมดา แต่มันคือสัญญาณเตือนต่อโครงการของรัฐขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณนับหมื่นล้านบาท ทางสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้เสนอสาเหตุถนนยุบเกิดจาก 1.ชั้นดินรองรับอุโมงค์ชั้นบนไหลลงไปยังอุโมงค์ชั้นล่าง เพราะมีปัญหาจุดเชื่อมต่อ 2.ดินรองรับทั้งอุโมงค์บน-ล่าง สูญเสียกำลังรับน้ำหนัก ทำให้ดินอ่อนตัวกลายสภาพเป็นของเหลว จนไม่สามารถค้ำน้ำหนักได้ 3.วงแหวนรับน้ำหนักตัวที่6ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการรองรับน้ำหนัก หรืออาจจะเกิดจากความบกพร่องของโครงสร้าง เนื่องจากอุโมงค์ถูกประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ต่อกันหลายๆชั้น มีรอยต่อจำนวนมาก หากชิ้นใดชิ้นหนึ่งชำรุด อาจทำให้ทั้งโครงสร้างพังถล่มลงมาทั้งระบบ ดังนั้น ถ้าโครงสร้างหลักสร้างเสร็จและได้มาตรฐานต่อให้ฝนตกหนักแค่ไหน หรือต่อให้น้ำจากท่อประปาแตก ก็ไม่ควรที่จะมีดินถล่มลงมาแบบนี้
กระทุ้งถาม2ข้อเพื่อความมั่นใจปชช.
นายปารเมศ กล่าวว่ารัฐบาลมีหน้าที่ตามล่าหาความจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณโดยเร็วที่สุด ตราบใดที่รัฐบาลยังหาสาเหตุไม่เจอจะไม่มีวันแก้ไขปัญหานี้ได้เลย และจะไม่สามารถป้องกันเหตุเกิดซ้ำในอนาคต ประชาชนจะเชื่อมั่นในโครงการของรัฐได้อย่างไร คิดว่ากรณีนี้อาจแย่กว่ากรณีของตึกสตง.ถล่มเพราะกรณีตึกสตง.ถล่ม เรายังทราบเหตุผลชัดเจนว่าได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่กรณีนี้รฟม.ชี้แจงว่าโครงสร้างหลักของอุโมงค์สร้างเสร็จมาหลายเดือนแล้ว มีการเปิดให้มีการสัญจรทุกวัน นั่นแปลว่าหน่วยงานที่กำกับดูแล เชื่อว่าอุโมงค์โครงสร้างหลักนี้ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานที่ดี จึงมีคำถามชุดแรกไปยังนายกฯ
“1จะคืนผิวถนนที่มีคุณภาพให้ประชาชนเชื่อมั่นเสร็จเมื่อไหร่ รวมถึงการสร้างอุโมงค์ 2.รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ทั้งผู้กอบการ ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณรอบข้าง ผู้ป่วย หมอ บุคลากรทางการแพทย์ 3.รัฐบาลมีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกตุแบบนี้เกิดขึ้น สำหรับการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ ทั้งสายสีม่วง สายสีส้ม รวมถึงจะยกระดับมาตรฐานก่อสร้างที่มีความเสี่ยงลักษณะนี้อย่างไร”นายปารเมศ กล่าว
นายกฯยันสั่ง’คมนาคม‘ ตั้งกก.สอบ
ด้านนายอนุทินชี้แจงว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณดังกล่าวทั้ง ถนนสามเสน โรงพยาบาลวชิรฯและสน.สามเสนได้เร่งสั่งการให้รมว.คมนาคม ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็วเพื่อให้ทราบสาเหตุ ที่แม่นยำ และขอให้รายงานผลการตรวจสอบมายังตนทุกสัปดาห์ ในการตรวจสอบตนได้เน้นย้ำให้ใช้หลักเดียวกันกับกรณีตึก สตง.ถล่ม เนื่องจากโครงสร้างวิศวกรรมมีปัญหาแน่นอน โดยจะมีผู้แทนสภาวิศวกรจากวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ผู้แทนวิศวกรจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทน กทม. ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ เราจะต้องพบจุดบกพร่องและนำมาชี้แจงประชาชนได้รับทราบเพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในอนาคตอย่างแน่นอน
“ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดตั้งกรรมการสอบสวนและนำผลมาศึกษาวิเคราะห์หาความผิดพลาด บกพร่องและต้องออกมาตรการการดำเนินการก่อสร้างใหม่ หากพบความผิดพลาดจากเทคนิคต้องดำเนินการแก้ไข แต่หากเกิดจากความสะเพร่าหรือเลินเล่อของผู้รับจ้างผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบตามสัญญาที่กำหนดไว้ขณะเดียวกันการตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม ได้ติดตามทุกสัปดาห์ซึ่งผมเชื่อว่าจะได้คำตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”นายอนุทินย้ำ
คืนผิวจราจรได้9ต.ค.-สั่งเยียวยาเต็มที่
นายอนุทินกล่าวอีกว่าสำหรับการแก้ปัญหาพื้นที่ขณะนี้รฟม.เร่งรัดเพื่อคืนสภาพพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งขั้นตอนการเตรียมคืนพื้นที่ขณะนี้ได้หยุดการสไลด์ของดินแล้ว จากนั้นจะเติมหินคลุก ลาดยาว และคืนพื้นผิวให้ผู้สัญจร ซึ่ง รฟม.ให้ความมั่นใจว่าการคืนผิวจราจรได้ในวันที่ 9 ต.ค. นี้ และจะมีการติดตั้งเครื่องมือติดตามการเคลื่อนไหว สแกนโพลงใต้ดินและส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ 24 ชั่วโมง
สำหรับการเยียวยาผู้ที่เกี่ยวข้อง ตนกำชับให้ กระทรวงคมนาคมและ ผู้ว่าการ รฟม. แม้ไม่ระบุในสัญญาว่าจะทำอย่างไร แต่เมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้น ต้องหารือและสั่งการให้ผู้รับจ้างชดใช้ ช่วยเหลือ สนับสนุน ผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ สำหรับการเยียวยารวมถึงโอกาสของการสร้างรายได้ช่วงที่เกิดเหตุอย่างเต็มที่ด้วย
จี้ถามโยงการเมือง2บิ๊กบริษัทผู้รับจ้าง
นายปารเมศ ตั้งคำถามถึงความเกี่ยวพันทางการเมืองระหว่างนายกฯในฐานะอดีตผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)ขณะที่ผู้รับจ้างคือกิจการร่วมค้า ช.การช่าง และซิโน-ไทยว่า การตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะให้ความมั่นใจต่อการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาได้อย่างไร ตนขอให้คณะกรรมการฯที่ตั้งขึ้นทำงานเป็นอิสระและทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์รัฐ ไม่ใช่นายทุน นอกจากนี้ การตรวจสอบของเหตุการณ์ ยังไม่ได้ยินจากนายกฯว่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้รับจ้างอย่างไร หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความบกพร่องของการก่อสร้างหรือการออกแบบ ขอให้นายกฯ พูดให้ชัดเจนว่าจะดำเนินคดีหรือเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานภาครัฐ จะแบล็คลิสต์หรือระงับการรับงานโครงการภาครัฐหรือไม่ รวมไปถึงการเรียกร้องค่าเสียหายหากส่งมอบงานล่าช้า
เหมือนไม่รู้จัก‘ซิโน-ไทย’ออกมา20ปี
นายอนุทินชี้แจงว่าในประเด็นความเกี่ยวข้องของตนกับบริษัทผู้รับจ้างนั้น ตนอยู่ในการเมือง เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ปี2547 ตนมาจากภาคเอกชน ไม่ต่างจากผู้สถาปนาพรรคอนาคตใหม่ เมื่อตัดสินใจทำงานการเมือง รู้ถึงข้อจำกัดต้องเคลียร์ตัวเองให้เกลี้ยง ตนใช้เวลา21ปีในการเมือง ซึ่งการออกจากการเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนหลายแห่ง ไม่เฉพาะบริษัทซิโน-ไทย เท่านั้น และเมื่อมีการเลือกตั้ง2562รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสเข้าทำงานในสภา อย่างยั่งยืน สิ่งล่าสุดที่ทำเมื่อปีนั้นคือขายหุ้นในบริษัท ซิโน-ไทย ผ่าน กลต.จนหมด และไม่มีการถือหุ้นใดๆ ที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ กฎระเบียบที่ทำงานการเมือง
“ผมไม่เกี่ยวข้องกิจการภาคเอกชนใดๆตั้งแต่ลาออกมาทำงานภาคการเมืองและเมื่อพ้นตำแหน่งทางการเมืองปี2549 ผมไม่ได้กลับเข้าไปทำงานภาคเอกชนอีก กรณีนี้บริษัทรับจ้างที่ผมทำงาน 20 ปีก่อน การปกป้องเพื่อให้ประโยชน์ไม่มี ผมและซิโน-ไทย เหมือนไม่รู้จักกัน รู้แค่เป็นบริษัทก่อสร้างและทำธุรกิจอยู่ แต่เมื่อผมอยู่ในภาครัฐไปตรวจดูได้ว่าไม่มีตรงไหนที่ผมเคยใช้ความเกี่ยวข้อง อิทธิพล การโน้มน้าวใดๆช่วยเหลือบริษัทนี้”
ให้สัตยาบรรณไม่แทรกแซงตรวจสอบ
นายกฯยังกล่าวอีกว่า“ผมสบายใจที่จะตอบว่าผมให้สัตยาบรรณว่านอกจากจะให้อิสระในการตรวจสอบ รวมถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบความเสียหาย ที่เป็นสิทธิ์ของรมว.คมนาคม การตรวจสอบต้องเน้นประโยชน์ของรัฐของราชการเป็นสำคัญ”
และว่า ในการตรวจสอบหากพบว่าเป็นความบกพร่องจากการก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ซึ่งในขั้นตอนนั้นรฟม.มีบริษัทตรวจการจ้างดูแล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีทางที่มนุษย์หน้าไหนเอื้อประโยชน์ให้คนที่ทำผิด ผู้รับจ้างเหนื่อยแน่ ต่อให้เคลียร์ตัวเองได้ ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม หากพิสูจน์พบว่าบกพร่องรุนแรง มีขั้นตอนจะต้องเสียค่าชดใช้ตามสัญญาที่กำหนดไว้ชัดเจน เท่าที่ทราบ คือสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2570 หากส่วนที่เสียหายที่ต้องซ่อมเมื่อวันสัญญาสิ้นสุด ทำไม่เสร็จ ค่าปรับเดินแน่นอน
ไม่มีช่วยเหลือใดๆมีแต่จะกระทืบ
“ผมขอให้ความมั่นใจ เรื่องพวกนี้ ผมไม่เคยเสียหาย มีแต่เสียเพื่อนหลายคนแล้ว เพราะไม่ได้ใช้อิทธิพล หรือ ใช้อำนาจใดๆ ช่วยเหลือ หากใครขอผมจะเจอแต่ความว่างเปล่า แม้จะส่งไลน์มา ผมกดทิ้งไม่อ่านและจะบล็อกด้วย เพราะผมยึดถือการปกป้องประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งการตั้งกรรมการนั้นยืนยันว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน ไม่มีการช่วยเหลือใดๆมีแต่จะกระทืบและผมเองจะติดตามงานอย่างใกล้ชิด และทุกครั้งหลังประชุมจะเปิดเผยทุกครั้ง” นายกฯ กล่าว
‘นายกฯ-บิ๊กเล็ก’ตรวจชายแดนสุรินทร์
. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสุรินทร์ในวันพรุ่งนี้ (3 ตุลาคม) โดยมีแผนการรับฟังบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์เหตุความไม่สงบ ณ กองกำลังสุรนารี ก่อนจะเดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลตาเมียง อ.พนมดงรัก เพื่อตรวจสอบภูมิประเทศและให้กำลังใจกำลังพลที่ฐานปฏิบัติการสามเหลี่ยม อ.พนมดงรักจ.สุรินทร์
. จากนั้นนายกฯจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จ.สุรินทร์ และจะพบปะประชาชน หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครองในพื้นที่โรงเรียนพนมดงรักพิทยา ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
4ตค.ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่บุรีรัมย์
. ส่วนวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา13.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.กลาโหม เตรียมเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนที่เทศบาลตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
. พร้อมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์และผู้ว่าราชการชายแดนรวม 7 จังหวัด โดยนายกรัฐมนตรี จะมอบนโยบายแนวทางการเยียวยา และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
. เยือน3ปท.อาเซียนประเดิมสปป.ลาว”
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภารกิจเดินทางเยือนต่างประเทศของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เบื้องต้นจะเริ่มต้นด้วยการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในวันที่ 15 ต.ค.68 นี้หลังจากนั้น นายอนุทิน จะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.68 นี้ เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมที่มาเลเซีย นายอนุทิน จะเดินทางต่อเพื่อไปเยือนสิงคโปร์ในทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี