'ดร.จักษ์' ชี้ คนละครึ่งพลัส ไม่ใช่แค่ 'แจกเงิน' แต่คือการ 'ปลุก' สู่เศรษฐกิจแบบร่วมสร้าง

'ดร.จักษ์' ชี้ คนละครึ่งพลัส ไม่ใช่แค่ 'แจกเงิน' แต่คือการ 'ปลุก' สู่เศรษฐกิจแบบร่วมสร้าง

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.01 น.

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า #การเมืองไทย

คนละครึ่งพลัส: เมื่อรัฐไม่หว่านเงิน แต่หว่านความคิด


บางคนบอก “ก็แค่โครงการแจกเงินอีกแล้ว”

แต่ถ้ามองดี ๆ — “คนละครึ่งพลัส” มันไม่ใช่แค่การแจก

มันคือ การยื่นมือให้คนไทยมาจับ แล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

เพราะต่างจากโครงการแจกเงินที่โยนลงมากลางถนนให้คนแย่งกัน

“คนละครึ่งพลัส” บอกว่า —

“รัฐจะช่วยครึ่งหนึ่ง แต่เธอต้องยืนด้วยขาของตัวเองอีกครึ่งหนึ่งนะ”

มันไม่ใช่เศรษฐกิจแบบขอทาน แต่คือเศรษฐกิจแบบ มีศักดิ์ศรีของผู้ร่วมสร้าง

“แจกเงิน” ทิ้งไว้ มันก็จบตรงนั้น

แต่ “คนละครึ่งพลัส” ทำให้เงินหมุน

จากมือประชาชน → ร้านค้าในชุมชน → แรงงาน → ผู้ผลิต

กลายเป็น วงจรชีวิตใหม่ของเศรษฐกิจฐานราก

เพราะเงินไม่ได้ไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัว หรือหายไปในคอนโดหรู

แต่มันไหลเข้า “ร้านชำหน้าปากซอย”

คนขายข้าวมันไก่ ลูกจ้างร้านกาแฟ ช่างตัดผมในตลาด

พวกเขาคือฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ทำให้เครื่องจักรทั้งประเทศยังหมุนอยู่ได้

บางคนชอบถามประชดว่า

“ทำไมรัฐไม่แจกให้หมดเลย จะให้ครึ่งเดียวทำไม?”

คำตอบมันง่ายและแรงพอ ๆ กับกาแฟดำตอนเช้า —

เพราะ “ของฟรี” มันแพงที่สุดไง

มันทำให้คนเคยชินกับการรอ

มันทำให้เรากลายเป็นผู้บริโภคความช่วยเหลือ

แทนที่จะเป็นผู้ผลิตโอกาส

คนละครึ่งพลัสเลยพลิกกระบวนทัศน์

จากการ “รอรัฐ” → เป็นการ “ร่วมรัฐ”

นี่แหละเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม (Participatory Economy) ของจริง

ไม่ได้หวังแค่เงินหมุน — แต่หวังให้ “สมองคน” หมุนด้วย

รัฐช่วยครึ่งหนึ่ง

ไม่ใช่เพราะรัฐใจแคบ

แต่เพราะรัฐอยากให้คนรู้คุณค่าของเงิน

อยากให้รู้ว่า เงินทุกบาทที่เราจ่าย คือการต่อชีวิตให้ระบบเศรษฐกิจของเราเอง

ในโครงการนี้ รัฐบาลยังคิดละเอียด

คนอยู่ในระบบภาษี ได้สิทธิ์มากกว่า — เพราะเขาคือคนเสียภาษี

ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการกว่า 13 ล้านคน ก็ได้เพิ่มอีก 1,700 บาท

นี่ไม่ใช่การแบ่งชนชั้น แต่มันคือ การออกแบบสมการแห่งความเท่าเทียมในเชิงเศรษฐกิจ

สุดท้าย…นี่ไม่ใช่โครงการแจกเงิน แต่คือการ “ปลุกสำนึกทางเศรษฐกิจ”

ใครอยากได้ของฟรี ไปต่อคิวเอาเศษกระดูกทางการเมืองเถอะ

แต่ใครอยากเห็นประเทศเติบโตอย่างมีราก

ต้องเริ่มยืนด้วยขาตัวเอง — แล้วรัฐจะจับมือพาเดิน

เพราะประเทศไม่ได้ฟื้นจาก “เงินที่แจก”

แต่มันฟื้นจาก “หัวใจคนที่ร่วมสร้าง”

จักษ์ พันธ์ชูเพชร

๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๘

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top