เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ช่วงนี้ใกล้วันตำรวจ อยากขอของขวัญจาก นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้ช่วยผลักดันกรณีปรับนายร้อย 53 จากยศสูงสุด "ร.ต.อ." เป็น "พ.ต.ต." สืบเนื่องจากมติ ครม.เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2555 เห็นชอบในหลักการให้ข้าราชการตำรวจ ชั้นประทวนยศ นายดาบตำรวจ อายุตั้งแต่ 53 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเลื่อนยศเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศ ร้อยตำรวจเอก ก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ตำรวจชั้นประทวนที่ทำงานมานาน ให้มีโอกาสก้าวหน้าในสายงานและได้รับยศที่สูงขึ้น โดยให้อยู่ในตำแหน่ง สายงาน และสถานีตำรวจเดิมที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น โดยให้ผ่านการฝึกอบรมเพื่อเลื่อนตำแหน่งและเลื่อนยศแบบเลื่อนไหล เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
"โครงการปรับเลื่อนยศ "นายร้อย 53" จากนายดาบตำรวจ (ด.ต.) เป็นร้อยตำรวจตรี และรับราชการอีก 7 ปี ติดยศร้อยตำรวจเอก (ร.ต.อ.) ก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจชั้นประทวน ที่ทุ่มเททำงานมาจนวัยใกล้เกษียณนั้น เริ่มต้นจากช่วงปลายปี 2554 สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีแนวความคิดและมีการศึกษาเรื่องดังกล่าว และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี (ในสมัยนั้น) ได้ผลักดันเรื่องดังกล่าวจนผ่านการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2555 จากปี พ.ศ.2555 จนปัจจุบันนี้ มีการอบรมและประดับยศ ร.ต.ต.ไปแล้วรวม 14 รุ่น" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
"การปรับโครงการดังกล่าวเพื่อให้ ข้าราชการชั้นประทวนยศ ด.ต.ได้ติดยศ ร.ต.ต.และเลื่อนไหลไปจนถึง พ.ต.ต. (ระดับสารวัตร) จากเดิมแค่ ร.ต.อ. (ระดับรองสารวัตร) ทำได้ไม่ยาก และอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยดำเนินการการปรับระดับตำแหน่งควบ ผบ.หมู่ - รอง สว.จากเดิม เป็น ผบ.หมู่ - สว.
ถ้าอยากให้ 3 เดือน หรือ 6 เดือนก่อนเกษียณ ให้แก้ กฎ ก.ตร.ที่ว่าด้วยการแต่งตั้งและระยะเวลาตำแหน่ง แต่ถ้าอยากให้ดำรงตำแหน่ง 1 ปีก่อนเกษียณ ก็ให้ปรับโครงการจากนายดาบตำรวจอายุ 53 ปี เป็นอายุ 52 ปี เพื่อที่จะมีเวลาหนึ่งปี เลื่อนชั้นตำแหน่งเป็นสารวัตรก่อนเกษียณ 1 ปี โดยอาศัยแนวทางและหลักการเดิม คือ จะต้องดำรงตำแหน่งควบในสายงานเดิม และสถานีตำรวจเดิม/หรือสถานที่ทำงานเดิม จะทำให้ไม่มีปัญหาด้านงบประมาณและการขาดแคลนกำลังพล ซึ่งกรณีดังกล่าว สามารถทำได้เลยโดยโครงการนี้ไม่ต้องเสียงบประมาณอะไรเพิ่มเติม และสามารถทำได้ใน 4 เดือนนี้ เพียงแต่แก้ไขกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งยศ พ.ศ.2554 แก้ไขเพิ่มเติม ในข้อ 8 และ ข้อ 13 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ในข้อ 17 วรรค 2 เท่านั้น
"การดำเนินการดังกล่าวเป็นการให้เกียรติ และเพิ่มขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และกรณีดังกล่าว นอกจากจะเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจแล้ว ยังได้มาตรการควบคุมความประพฤติให้อยู่ในกรอบระเบียบ วินัย ที่ได้ผล เพราะหากข้าราชการดังกล่าวถูกลงโทษทางวินัย อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาการเลื่อนยศได้ การคำนวณจำนวนปีที่รับราชการ บางกรณีอาจมีการงดนับจำนวนปีที่รับราชการ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางวินัย ซึ่งจะทำให้ข้าราชการดังกล่าว ไม่ทำผิดวินัย และอยู่ในระเบียบวินัยมากขึ้น"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี