ชูใช้ฉบับ‘พรรคส้ม’ ‘เท้ง’วาดฝัน‘แก้ รธน.’เป็นการหมุนเข็มนาฬิกาแห่งชีวิต

ชูใช้ฉบับ‘พรรคส้ม’ ‘เท้ง’วาดฝัน‘แก้ รธน.’เป็นการหมุนเข็มนาฬิกาแห่งชีวิต

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.51 น.

"เท้ง"ยันพร้อมรับหลักการร่างแก้ไข รธน.ทั้ง 3 ฉบับ ชูใช้ฉบับ"พรรคส้ม"เป็นร่างหลัก วาดฝันเป็นการหมุนเข็มนาฬิกาแห่งชีวิต ปชช.ให้ประเทศเดินหน้าต่อ ไม่ใช่นักการเมือง นับหนึ่ง"ลบมรดกของ คสช.-เลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี-หยุดยั้งนิติสงคราม-ปิดช่อง สส.งูเห่า"

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่.. พ.ศ. .... 3 ฉบับ ของพรรคประชาชน , พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 เพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นวันที่ 2 เข้าสู่ช่วงท้ายก่อนลงมติในวาระรับหลักการ


โดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า เราอยากให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำได้ มากกว่าได้ทำ ยืนยันว่า ผู้ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมนั้นสามารถทำได้ และสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนสามารถทำได้ โดยไม่ขัดกับศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าการเมืองคือเรื่องของความเป็นไปได้ ที่ต้องทำควบคู่ไปกับการเมืองแห่งความจริง

"ตนอยากเน้นย้ำว่า เราไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานว่า เราอยากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรากำลังโหวตในวันนี้ เพื่อความเป็นไปได้ ในการหมุนเข็มนาฬิกาในประเทศไทย ให้เดินหน้าต่อหลังจากนาฬิกาเรือนนี้หยุดนิ่งไปเกือบ 20 ปี การลงมติในวันนี้จะเป็นการปลดโซ่ตรวนทุกอย่าง ของกระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ยากมากๆ และเข็มนาฬิกาที่ควรจะหมุนต่อด้วยมือของประชาชน จะไม่ใช่เข็มนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของนักการเมือง แต่เป็นเข็มนาฬิกาแห่งชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน ที่เราควรต้องเปิดโอกาสให้ตัวแทนของประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากที่สุดในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้" นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงความจำเป็นที่ต้องให้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญมีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด เพราะตนเชื่อว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่ยาวิเศษแต่คือสิ่งจำเป็น ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความน่าอยู่ เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องการผลักดันการกระจายอำนาจ ให้ปัญหาใกล้ตัวของประชาชนได้รับการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องที่รัฐจะต้องคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนทุกกลุ่มทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญยังเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำให้รัฐมีความทันสมัย มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพตอบสนองต่อประชาชนเกี่ยวข้องต่อการออกแบบระบบการเมืองและการถ่วงดุลตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักสากลและรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับการให้ประเทศไทย มีอนาคตที่เปิดกว้าง กับทุกคนไม่ใช่ถูกล็อกอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นี่คือใจความสำคัญของการลงมติโหวตในครั้งนี้นอกเหนือจากการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็คือ การหมุนเข็มนาฬิกาของประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไป

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรามี ส.ส.ร. 4 ครั้ง ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคประชาชนนั้น ผู้ยกร่างไม่ใช่ ส.ส.ร. แต่หัวใจไม่ได้อยู่ที่ชื่อของผู้ยกร่าง ว่าเราจะเรียกว่าอะไร แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตั้งแต่ชั้นการยกร่าง ผู้ยกร่าง การทำประชามติว่ามีความยึดโยงกับประชาชนมากน้อยแค่ไหน

"แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในครั้งนี้อาจไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับปลายทาง หรือฉบับในฝัน แต่จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อได้ นับเป็นการเริ่มนับหนึ่งในการลบล้างมรดกของ คสช.เช่น การยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นจุดเริ่มต้นในการหยุดยั้งกระบวนการนิติสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขในหมวดของศาลและองค์กรอิสระ ให้ยึดโยงกับประชาชนและเป็นไปตามหลักสากล เป็นการวางรากฐานในการสร้างสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ดี เช่น การออกแบบระบบการเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้จำนวน สส.สะท้อนกับคะแนนเสียงของประชาชนที่ออกไปเลือกตั้ง ออกแบบระบบพรรคการเมืองใหม่ เพื่อปิดช่องไม่ให้มี สส.งูเห่า ออกแบบที่มาและอำนาจของ สว.ให้เหมาะสม รวมถึงการแก้ไขในครั้งนี้จะเป็นกุญแจอีกดอกที่เปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในฉบับต่อๆ ไปในอนาคต" นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญจะไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำให้รัฐตอบสนองต่อประชาชนและไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคใดจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม หากพวกเรายังไม่ริเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่วันนี้เข็มนาฬิกาของประเทศไทยก็ยังคงหยุดนิ่งต่อไป วันนี้ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลและวุฒิสภาต่างแสดงเจตจำนงค์ ว่ายินดีที่จะรับทุกร่าง เข้าสู่การพิจารณาของชั้นกรรมาธิการในวาระที่สอง ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะนี่คือจังหวะสำคัญที่สุดที่จะให้เข็มนาฬิกาของประเทศเดินหน้าต่อ และตนอยากจะเสนอให้นำร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในการพิจารณา เพราะเรายืนยันว่าสิ่งที่คิดมานั้นทำได้ และมีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด หากเราให้ความกลัว เป็นตัวกำเนิดอนาคตของประเทศจะไม่มีวันเดินหน้าอะไรใหม่ได้ และตนมั่นใจ ว่าเราสามารถทำให้ร่างรวมจากทุกๆ พรรคที่จะออกมาจากวาระ2ในชั้นกรรมาธิการเป็นร่างที่ทำได้

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top