เข้าร่องแข้ง! ‘พท.’ซัดแหลกรื้อใหญ่’บิ๊กมท.45ตำแหน่ง‘เอื้อวางฐานเสียงรับเลือกตั้ง เมินแก้ชายแดน

เข้าร่องแข้ง! ‘พท.’ซัดแหลกรื้อใหญ่’บิ๊กมท.45ตำแหน่ง‘เอื้อวางฐานเสียงรับเลือกตั้ง เมินแก้ชายแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.29 น.

เข้าร่องแข้ง! ‘เพื่อไทย’ซัดแหลกรื้อใหญ่’บิ๊ก มท.45ตำแหน่ง‘ เอื้อวางฐานเสียงรับเลือกตั้ง เอาแต่ประโยชน์ตัวเอง-พวกพ้อง เมินสารพัดปัญหาความมั่นคงชายแดน-แก๊งคอลฯ-สแกมเมอร์-เว็บพนันรุมเร้า ลามทำขรก.ขวัญหนีดีฝ่อ อย่ามาอ้างสวยหรู ‘คืนความยุติธรรม’ ไม่มีจริง หยันแรงเอาไว้พูดให้พวก‘ไร้เดียงสาทางการเมือง’ฟัง บี้ตอบใช้หลักไหนดำเนินการ ด้าน’ศักดิ์ดา‘ย้อนเกล็ดงัดเคส’อดีตอธิบดีปกครอง‘ อีก2เดือนเกษียณยังจับยัดเข้ากรุผู้ตรวจฯ แบบนี้ไม่ทำร้ายจิตใจเขาหรือ แจงเป็นเรื่องปกติ ทำช่วงล๊อตเกษียณ แนะหากไม่ได้รับเป็นธรรม สามารถร้อง-ฟ้องได้ ขออย่าดึงเป็นประเด็นการเมือง ทำปชช.สับสน ยันเข้มปราบแก๊งคอลฯเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.มหาดไทย แต่นายอนุทิน ติดภารกิจต่างประเทศ มอบหมายนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย เป็นผู้ตอบชี้แจงกระทู้แทน กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ครั้งใหญ่ 45 ตำแหน่ง เมื่อวันที่14ต.ค.ที่ผ่านมา 


โดยน.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ประชาชนถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมรัฐบาลถึงกล้าทำเพียงนี้ เพราะการโยกย้ายดังกล่าวไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประชาชน และประเทศชาติที่ประสบอยู่ขณะนี้ เรามีปัญหาความมั่นคงทั้งในและระหว่างประเทศ พื้นที่ชายแดนระส่ำระสาย ประชาชนส่วนมากต้องมานั่งรับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ หรือเว็บพนันที่กลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เราปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ชีวิตประชาชนดีขึ้น ไม่ได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลฯอีกเลย แต่วันนี้ประชาชนที่เก็บเงินทองมา ต้องถูกหลอกลวงโดยกลุ่มเหล่านี้ ไม่รู้จะพึ่งใคร นอกจากตัวเอง เหตุใดรัฐบาลไม่มุ่งแก้ไขปัญหาให้เกิดความต่อเนื่องจากที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้

“การโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ นอกจากไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ และประชาชน ยังถูกมองว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของพรรคฝ่ายรัฐบาลในขณะนี้ ดิฉันตอบแทนไม่ได้ว่าจริงหรือไม่ แต่ภาพปรากฎชัดว่าทำไปเพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการความคิดนี้เลย ในขณะที่ทั่วโลกกำลังกดดันกัมพูชา รวมถึงพรรคเพื่อไทยทำทุกทางในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราทำจนผู้นำของเราถูกตอบโต้กลับมา จนต้องลงจากตำแหน่งไปด้วย เป็นความน่าเสียดายยิ่ง หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ทำงานต่อ แก๊งคอลฯจะไม่สามารถกลับมาหลอกลวงคนไทยได้อีกเลย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า แต่รัฐบาลขณะนี้นอกจากไม่ใส่ใจ ยังเอาแต่โยกย้ายข้าราชการเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง ขอย้ำว่า มองถึงแต่ประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนทั้งโลก ควรโฟกัสกับปัญหาสำคัญของประเทศมากกว่าปัญหาส่วนตัวของพวกท่านเอง ขณะเดียวกันสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ประกาศจะเปิดโปงนักการเมืองไทยที่ไปเปิดบ่อนที่กัมพูชา ถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นภาพลักษณ์ประเทศไทย จริงหรือไม่เราไม่รู้ สมเด็จฮุน เซนอาจพูดเองไม่มีน้ำหนัก แต่เราไม่เห็นท่าทีของรัฐบาลไทยในการแก้ไขเรื่องนี้เลย ไม่เห็นถึงการให้ความสำคัญในสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยได้รับความสูญเสียเหล่านี้เลย รัฐบาลขณะนี้ควรออกมารับทราบปัญหา แล้วชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร ในขณะที่ประเทศอื่นใช้ยาแรงในการแก้ปัญหาแก๊งคอลฯ แต่รัฐบาลไทยเงียบมาก เงียบกริบ ไม่กระดิกเรื่องนี้เลย ตนอดสงสัยไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ มีส่วนร่วม รู้เห็น หรือช่วยเปิดทางแก๊งคอลฯ สแกมเมอร์ เข้ามาหลอกลวงคนไทยหรือไม่ 

“ท่านต้องออกมาตอบคำถาม เพราะประจวบเหมาะกับภารกิจแรกๆที่ท่านทำ คือสั่งยุบชุดปฏิบัติการการปราบปรามเว็บพนันและคอลเซ็นเตอร์ มันชี้ชัดว่านอกจากไม่ให้ความสำคัญ ยังอาจไปเป็นส่วนร่วมรู้เห็นในการหลอกลวงประชาชนครั้งนี้ มันอาจต่างจากข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย มันอาจเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศทีท่านเอารัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ในการที่ท่านขึ้นมาสู่อำนาจเป็นผู้นำรัฐบาลครั้งนี้ การโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ ยิ่งจะทำให้กิจการภายในประเทศอ่อนแอลง ข้าราชการขวัญหนีดีฝ่อ ขวัญกำลังใจอ่อนแอ หรือการโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้รัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวพันกับคดีต่างๆพ้นผิด มันเคลือบแคลงใจประชาชน ดังนั้นท่านจะต้องตอบว่าใช้หลักการใดในการโยกย้ายข้าราชการ หากตอบว่าเพื่อคืนความยุติธรรมทำไปเพื่อความถูกต้องที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง ดิฉันต้องเรียนว่าข้าราชการระดับ10เป็นอำนาจปลัดกระทรวงมหาดไทย ในการโยกย้ายครั้งที่แล้ว ก็ท่านปลัดกระทรวงฯที่เซ็นหนังสือ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ปลัดกระทรวงฯเป็นคนเซ็น ถ้าบอกว่าไม่ยุติธรรม คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่อดีต” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวด้วยว่า คำพูดที่สวยหรู หรือความยุติธรรมที่ท่านกล่าวถึง มันไม่มีจริง มันเป็นคำพูดที่ทำให้ดูดี อาจจะเป็นคำพูดที่ท่านพูดให้ผู้ที่ไร้เดียงสาทางการเมืองฟังเท่านั้น แต่ประชาชนที่ติดตามเข้าใจดีว่าเกิดอะไร ที่บอกว่ามาในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น คงไม่ทำอะไรมากกว่าไปกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ท่านไม่แสดงความจริงใจตรงนั้นให้เราเห็น 

ด้านนายศักดิ์ดา ชี้แจงว่า เรื่องการแต่งตั้งโย้กย้ายข้าราชการ เดือน ต.ค.เป็นเดือนสิ้นปีงบประมาณ คือ 30 ก.ย.มีข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยเกษียณ 20 กว่าตำแหน่ง เพราะฉะนั้นเรื่องการแต่งตั้งเมื่อมีตำแหน่งว่างก็ต้องมีคนไปแทน ทั้งนี้ ตนได้มาสืบค้นข้อมูลช่วงที่รัฐบาลที่แล้วมีการโยกย้ายถือว่าเป็นนอกฤดู ส่วนที่ครม.มีมติโยกย้ายเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในฤดูโยกย้าย แต่ก่อนหนเ้านั้นมีมติครม.3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 8 ก.ค.มีการโยกย้าย 4 คน เป็นการโยกย้ายที่รุนแรง ตนไม่ทราบว่าคนระดับอธิบดีถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจ ตนเป็นข้าราชการเก่ามา ถือว่าถ้าเขาย้ายอธิบดีไปเป็นผู้ตรวจ หากเป็นทหารก็เหมือนเนรเทศออกไปอยู่ที่อื่น หรือเข้ากรุ ครั้งที่2 และครั้งที่3 ในเดือนส.ค.ก็มีการย้ายอีก อย่างนี้ไม่ใช่ย้ายแล้ว แต่รัฐบาลนี้โยกย้ายในช่วงที่มีการเกษียณ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกคนได้รับความเป็นธรรม และเชื่อว่าปลัดกระทรวงคงพิจารณาดีแล้ว ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคนทราบว่าถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคำสั่งที่ผิด ก็สามารถไปร้องกับคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม หรือไปฟ้องศาลปกครองได้ ตนไม่อยากให้เอาประเด็นอย่างนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ทำให้ประชาชนสับสน

นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ตั้งการเลือกตั้งเรามีรัฐบาลมา 3 รัฐบาล แต่ตนคิดว่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์น่าจะมีมาก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เพิ่งมีรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ตนเห็นว่า2 รัฐบาลที่ผ่านมาปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จริงจังช่วงปลายรัฐบาลก่อนหน้านี้เอง มีรัฐมนตรีช่วยจากประเทศจีนมาให้เราไปปราบ แล้วเริ่มปราบเรื่อยมา และรัฐบาลนายอนุทินเพิ่งทำงานได้ 10 กว่าวันเรื่องการปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ยังทำอยู่ไม่ใช่ไม่ทำ แต่ก่อนหน้านั้นก็เป็นรัฐบาลร่วมกันมา หากพูดว่าเราไม่ทำตนคิดว่าไม่ถูกเสียทีเดียว 

น.ส.ธีรรัตน์ ถามต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำเห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นหลังจากการที่มีการเข้ารับตำแหน่งของข้าราชการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. และตำแหน่งที่โยกย้าย ไม่ใช่ตำแหน่งที่เกษียณ ที่ท่านบอกว่าท่านจะอยู่ไม่นาน อยู่แค่ระยะเปลี่ยนผ่าน แต่หน้าที่หลักที่ท่านทำคือการโยกย้ายข้าราชการ ขอให้หยุด ให้ข้าราชการได้ทำงานของเขา ให้มีกำลังใจที่ดี งานเดินหน้าต่อได้ต่อเนื่อง เอาเวลาที่ท่านมีไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดีกว่า และตำแหน่งที่ท่านโยกย้ายไป อธิบดีต่างๆ เขาทำอะไรผิดถึงไปย้ายเข้าออกจากตำแหน่ง และเรื่องคอลเซ็นเตอร์ที่สมเด็จฮุน เซน ระบุว่าจะประจานนักการเมืองไทย เปิดโปงว่าใครไปเปิดบ่อนที่กัมพูชาบ้าง ท่าทีของรัฐบาลเป็นอย่างไร จะปล่อยให้เขามาเหยียบย่ำบ้านเราแบบนี้หรือ เห็นหรือไม่ว่าเวลาไม่เยอะ แม้แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ก็เป็นบทที่แสดงให้เห็นแล้วว่าท่านไม่มีความจริงใจกับข้อตกลงที่ท่านบอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา เพราะเพียงแค่เลือกใช้ร่างของพรรคประชาชน หรือเลือกใช้ร่างของรัฐบาล สว. สมาชิกฝั่งรัฐบาลก็กลับบ้าน ทำให้คะแนนไม่พอ แสดงถึงความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาหลักของประเทศในขณะนี้ 

นายศักดิ์ดา ชี้แจงว่า ตนอยากขอเอกสารหรือการยืนยันว่ารัฐบาลที่แล้วมีการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หมดไปจริง เพราะไม่น่าเชื่อว่าหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนยังยืนยันว่ารัฐบาลนี้ก็ยังปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหมือนเดิมไม่มีลดละ เพราะการที่เราจะไปปราบแก๊งค์ขอเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้น โดยบอกว่าเหลือเป็นศูนย์เลยจากรัฐบาลที่แล้ว ตนว่าถ้าท่านไปพูดให้ใครฟัง เขาอาจจะฟังแต่ความเชื่อเขาอาจจะไม่แสดงออก ตนคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเมื่อวานนี้หรือวันก่อนก็มีคนบ่นว่าไหนบอกว่าเป็นศูนย์เพราะเดือนที่แล้วก็มี จึงอยากให้ท่านไปทบทวนใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

นายศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าตำแหน่งที่ย้ายเขามีความผิดอะไร ซึ่งมติครม.3 ครั้งที่มีการโยกย้ายในรัฐบาลที่แล้ว น.ส.ธีรรัตน์ ก็เป็นรมช.มหาดไทย เหมือนตน ตำแหน่งเดียวกันด้วย ก็มีคำสั่งย้ายเหมือนกัน เราไม่ได้ว่าใครย้ายใครผิดใครถูก ยืนยันว่าการโยกย้ายทางปลัดกระทรวงฯเสนอในช่วงนั้นมีเหตุผลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วันนั้นซึ่งก็เข้าใจได้ และเมื่อปลัดกระทรวงฯ มาเสนอต่อครม.วันที่ 14 ต.ค.ตนก็เชื่อว่ามีเหตุผล ส่วนใหญ่การโยกย้ายข้าราชการจะอ้างว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง 

“เราอย่าไปรื้อฟื้นเลย อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ท่านจะเกษียณอีก 2 เดือน ย้ายเขาไปเป็นผู้ตรวจ ไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขาเลยหรือ ถ้าพูดอย่างนี้มันก็ไม่จบ เรื่องโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ เรามีกฎเกณฑ์ กติกาของระบบราชการอยู่ ถ้าข้าราชการถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม มันมีฎีกา มีการลงโทษ ผู้ที่กระทำผิดถึงขั้นจำคุก คดีอาญา  และผมเชื่อว่าข้าราชการทุกท่านทมราบดี แต่เราจะเอามาเป็นประเด็นทางการเมืองโจมตีกันก็ไม่เกิดประโยชน์ ”นายศักดิ์ดา กล่าว

นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ส่วนที่พูดถึงสมเด็จฮุน เซน ตนก็ไม่อยากอธิบายว่าใครสนิทกับสมเด็จฮุน เซน ใครรู้จักสมเด็จฮุน เซน ใครรู้จักเขมร ตนว่าพูดอย่างนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ตนอยากให้ท่านพูดเรื่องที่ประชาชนลำบาก เรื่องปากท้องมากกว่า ถ้าพูดแต่ประเด็นทางการเมืองประชาชนไม่ได้อะไรเลย วันนี้ราคาสินค้าเกษตรทุกดีตัวขึ้น หลังจากปิดด่านชายแดนไทย กัมพูชา วันนี้ราคามันสำปะหลังตันละ 3,000 บาท ถ้าคุณภาพดีตันละ 3,500 บาท เมื่อก่อนเหลือตันละ 1 พันกว่าบาท ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเรื่องกัมพูชา รัฐบาลนี้ทำดีกว่ารัฐบาลที่แล้วแน่นอน ไม่มีลุง ไม่มีนายทุน มีแต่การต่อสู้เพื่อรักชาติ รักษาอธิปไตย

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ทุกอย่างคือการเมือง แต่ที่สำคัญคือการเมืองที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่การเมืองที่วนอยู่กับประโยชน์ของตัวเองพวกพ้องเท่านั้น สิ่งที่ท่านบอกว่าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าคือการปล่อยมากกว่า ปล่อยให้คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย เพราะในช่วงที่ผ่านมาหมดไปจริงๆ อาจจะไม่หมดเหลือศูนย์ เพราะอาจจะโยกย้ายฐานไปที่อื่น แต่ที่ผ่านมาลดน้อยลง และที่ท่านบอกว่ามติครม. ในเรื่องการโยกย้ายที่ผ่านมา ท่านจำผู้ว่าอุบลราชธานีได้ใช่หรือไม่ ตอนที่ที่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดน และมีการสั่งจ่ายงบประมาณออกไปตามจังหวัด และมีจังหวัดที่เกิดเหตุเป็นปัญหาอยู่จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานนั้น มีเหตุและผล ท่านอาจจะมัวอยู่แต่เรื่องตัวเองจึงไม่รู้เรื่องของประเทศชาติ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนมีกำลังใจที่ดีต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการดีๆ ที่ยืนหยัดทำงานอยู่กับความถูกต้องในสิ่งที่ควรทำ ดูแลประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top