‘อภิสิทธิ์’ โชว์วิสัยทัศน์ ปลุกพลังปชป.อย่าหวั่นไหวพลังดูด เปรียบกองหน้าค่าตัวแพง ย้ายสโมสรแต่ยิงไม่ได้ ลั่น แก้วแตกคมมากขึ้น
เมื่อเวลา16.40น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวหลังได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ว่า ก่อนอื่นขอขอบพระคุณทุกคนอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจให้ตนมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีกระบวนการการเลือกตั้งแบบนี้ และทำให้คนที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคสำนึกเสมอว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นเป็นได้เพราะความยินยอมพร้อมใจของสมาชิกทั่วประเทศที่เป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง และจนถึงวันนี้ตนยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองอื่นที่มีกระบวนการเช่นนี้ ฉะนั้น ตนขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่เป็นส่วนสำคัญในการตอกย้ำว่าในประเทศไทยยังมีความเป็นประชาธิปไตยในพรรค ขอบคุณรักษาการหัวหน้าพรรค รักษาการเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคที่พยายามทำทุกวิถีทางให้การเลือกตั้งในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและกระชับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้กฎระเบียบของข้อบังคับพรรคที่มีอยู่ รวมถึงขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกคนที่ทำให้วันนี้เกิดขึ้นได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนขอใช้เวลานี้ขอบคุณนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่ตนอยากบอกว่าไม่ว่าตนและนายเฉลิมชัยเราจะมองหรือคิดต่างกันในบางเรื่อง ในบางครั้งบางคราว แต่ตนไม่เคยตั้งคำถามเรื่องความทุ่มเทของท่านที่มีให้บรรดาสมาชิกพรรค และเชื่อว่าสส. อดีตผู้สมัคร บรรดาสาขาทั้งหลายเป็นพยานที่ดีที่สุดในเรื่องของความทุ่มเทของนายเฉลิมชัย ขอให้ทุกคนช่วยกันปรบมือให้นายเฉลิมชัยด้วย สัจฺจํ เว อมตา วาจา คือข้อความที่ปรากฎอยู่บนสัญลักษณ์พรรคปชป. ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายและกาลเวลาพิสูจน์ความจริงเสมอ เมื่อ 10 ปีที่แล้วตนจำได้ตนใส่เสื้อเชิ้ตตัวนี้และทำในสิ่งที่ในชีวิตนี้ ตนไม่เคยคิดที่จะทำคือการลาออกจากพรรคปชป. แต่ก่อนที่ตนจะลาออก ตนบอกว่าตนไม่มีพรรคอื่น ตนไม่ไปพรรคอื่น กรีดเลือดตนออกมาก็เป็นสีฟ้า ตนจะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้พี่น้องและประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ท่านอาจเห็นภาพที่ตนไปออกรายการทีวีเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนตนเข้ามาเป็น สส.สมัยแรก เขาถามตนว่าตนจะมีโอกาสย้ายพรรคหรือไม่ ซึ่งตนพูดตั้งแต่อายุ 27 ว่าตนยึดถือการเมืองในระบบพรรคการเมือง ในชีวิตนี้ตนจะมีพรรคการเมืองเดียว 30 ปีกว่าจะเป็นอย่างไรตนก็อยู่แบบนั้น ฉะนั้น ขอให้ท่านมั่นใจในยุคนี้ที่นักการเมือง อย่าว่า 30 ปีเลย แต่ 3 ชั่วโมงก็เปลี่ยนแล้ว ตนเป็นลูกพระแม่ธรณี ตนจะยึดถือสัจจะและความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งตลอดไป นอกจากนี้ วันนั้นตนเคยพูดด้วยว่า ตนพร้อมจะกลับมาเสมอหากสมาชิกเห็นว่าตนสามารถทำประโยชน์ได้ ตนทราบดีถึงสถานการณ์ในวันนี้ว่าทุกคนหวั่นไหวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความเสียเปรียบหลายประการของพรรคประชาธิปัตย์
“ผมอยากบอกว่าผมกลับมาเที่ยวนี้ ส่วนตัวไม่มีทางได้กำไร อย่างมากสุดก็เสมอตัว ขาดทุนไม่มากก็น้อย น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่ผมระลึกอยู่เสมอว่าชีวิตผมมาถึงตรงนี้ได้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ จะลำบากอย่างไร จะขาดทุนเท่าไหร่ ผมก็ต้องกลับมา เพื่อทำให้พรรคการเมืองนี้อยู่คู่กับประเทศไทยต่อไปให้ได้ ผมไม่ได้คิดเฉพาะเรื่องพรรค แต่ผมเป็นหนี้ประเทศนี้ แผ่นดินนี้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเติบโตมาแล้วเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศจนรู้ว่าประเทศนี้มีอะไรดีๆ มากมาย ผมไม่เคยคิดถึงที่อื่น บางคนแซวผมด้วยซ้ำว่าหากผมไปเล่นการเมืองที่อื่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว น่าจะรุ่งกว่าในประเทศนี้ แต่ไม่ ที่นี่คือที่ๆ ผมรักและเชื่อว่า พวกเรารักที่สุด หลายครั้งเราบ่นอะไรเกี่ยวกับประเทศ คนทั่วโลกยังเห็นคุณค่าของประเทศไทย และน้ำใจของคนไทย ที่ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอด ผมจึงต้องชดใช้หนี้แผ่นดินนี้ เหมือนที่ผมต้องชดใช้หนี้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เศรษฐกิจติดหล่ม สังคมเหลื่อมล้ำ ความยุติธรรมหดหาย หลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนภายนอกมองประเทศไทย หรือจะเป็นการที่พวกเราสัมผัสอยู่กับความเป็นจริงของชีวิตพี่น้องประชาชน ทุกคนห่วงใยว่าประเทศเราจะเดินต่อแบบนี้ได้หรือ ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปีสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล 2554 เป็นปีแรกที่ประเทศไทยมีรายได้ปานกลางขั้นสูง แต่เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ 14 ปี วันนี้แม้กระทั่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่มีใครมั่นใจเลยว่าเราจะขยับขึ้นไปอีกขั้นได้เมื่อไหร่ เป็นไปได้อย่างไรที่วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจหากขยับได้ 2% ก็ดีใจและโล่งใจแล้ว มันไม่พอ ในการที่จะยกระดับความเป็นอยู่ชีวิตของพี่น้องประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เป็นไปได้อย่างไรที่เศรษฐกิจติดหล่มมาเกือบ 10 ปีแล้ว เราลุ้นกันได้คนละครึ่งพลัส ซึ่งอาจจะช่วยพี่น้องได้ในยามยากลำบาก แต่หลังจาก 3-4 เดือนที่โครงการจบสิ่งที่ทิ้งไว้คือหนี้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น เป็นไปได้อย่างไรในวันนี้สังคมไทยผู้สูงอายุจำนวนมาก ทำให้สังคมเราเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่โลกเปลี่ยนชีวิตของคนหนุ่มสาวขาดความมั่นคงและความแน่นอน ทุกคนเพราะประสงค์จะมีสวัสดิการที่ดีเกือบทั้งสิ้น แต่การเมืองเราหลอกตัวเอง หลอกประชาชนหรือไม่ว่ากำลังจะยื่นสวัสดิการให้ประชาชนได้ แต่กลับเก็บภาษีได้ไม่ถึง 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศทุกวันนี้แม้เศรษฐกิจโต แต่โตแล้วไปอยู่ที่ไหน นับวันการผูกขาดไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจหรือทางการเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างการผูกขาดทางเศรษฐกิจกับการผูกขาดอำนาจทางการเมืองมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ เรานิ่งดูดายปล่อยให้ประเทศเดินไปแบบนี้ไม่ได้ และอย่างที่ตนบอกขณะที่ทุกคนเชื่อมั่นในกลไกประเทศ การเมืองเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ตนนำคนรุ่นใหม่เข้ามา ต้องขอบคุณทุกคนที่ยกเว้นคุณสมบัติและข้อบังคับพรรค เพื่อให้โอกาสเข้ามาทำงาน เพราะวันนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการที่สุด คือเครื่องจักรที่ทำให้ประเทศไทยโตได้ เราพึ่งพาสิ่งที่เคยมีบุญจากอดีตต่อไปไม่ได้ ภาคเกษตรเราเคยภูมิใจว่าเราอุดมสมบูรณ์ วันนี้ประสิทธิภาพการผลิตเราตามหลังเพื่อนบ้าน ภาคอุตสาหกรรมและไม่สามารถแข่งขันจากค่าแรงที่ไม่ถูกเหมือนเดิมได้ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวจีนหายไปครึ่งหนึ่ง ก็เดือดร้อนกันไปทั่วในหลายสาขาธุรกิจเครื่องจักรใหม่บางครั้งก็เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโลก ตนนำคนอย่างนางการดี เลี่ยวไพโรจน์ เพราะเทคโนโลยีจะชี้นำการเปลี่ยนแปลงของโลกและเศรษฐกิจ คนไทยใช้เทคโนโลยีเก่งมาก เรามีซิมโทรศัพท์มือถือกว่าเท่าตัวของประชากร เราเป็นประเทศที่ใช้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ขอให้ไปดูสิ่งที่เรียกว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมูลค่าเพิ่ม ตกอยู่กับมือคนไทยเพียงน้อยนิด ตนไม่อยากให้พรรคการเมืองคิดได้แค่ว่านโยบายอะไรที่ฟังดูแล้วถูกใจ มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นแค่ชั่วครู่ชั่วยาม เราต้องนำตรงนี้มาเป็นตัว เทคโนโลยีมีศักยภาพมหาศาล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้รำลึกภาพว่าภาคเกษตรกรของเราโดยเฉพาะเกษตรกรที่ยากจน สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นการใช้โดรน ใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือระบบอัจฉริยะทั้งหลาย ผลผลิตรายได้ภาคการเกษตรของเราจะเพิ่มขึ้นได้อย่างมหาศาล และจะต้องเป็นสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกกีดกันจากประเทศที่พัฒนาแล้ว ตนจึงนำคนอย่างนายวีระพงษ์ ประภา เข้ามาเพราะรู้ว่าประเด็นที่โลกต้องการและกดดันประเทศไทยคืออะไร หนุ่มสาวที่เติบโตมาไม่ได้มองหาโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นคนรุ่นตน วิถีของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไป เพราะต้องการสร้างโอกาสของตัวเองให้มีอิสระ จึงได้นำคนอย่างนายจูรี นุ่มแก้ว ซึ่งเป็นคนมีชื่อเสียงในติ๊กต็อกเข้ามาช่วยงาน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การเมืองต้องเปิดประตู การที่จะทำได้นั้นต้องมาแข่งขันด้วยการนำเสนอด้วยวิสัยทัศน์ ไม่ใช่นโยบายเป็นชิ้นๆ ปราศจากการคิดเป็นระบบ หรือมีกรอบความคิด หรืออุดมการณ์รองรับ วันนี้ตนจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ตกอยู่ในวังวนวาทกรรม ไม้ต้องมาถามว่าเราอนุรักษ์ หรือเราประชาธิปไตย หรือเรากั๊กจะเป็นอนุรักษ์ก้าวหน้า ไม่ต้องถามเรา เพราะเราประกาศอุดมการณ์มาตั้งแต่ปี2489 ว่าเราคือต้นตำหรับของพรรคเสรีประชาธิปไตยในประเทศไทย วันนี้ตนไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่นำเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาอยู่ในวังวนของความขัดแย้งทางการเมือง กล่าวหาฝ่ายหนึ่งว่าล้ม กล่าวหาฝ่ายหนึ่งว่าโหน ไม่ใช่เรื่องของการเมืองเลย เพราะสถาบันฯคือศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยที่ต้งอยู่เหนือการเมือง ไม่ว่าเราจะมีความคิดแบบใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องไม่เอาองค์กรอย่างกองทัพ เข้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง กองทัพจะทำหน้าที่ได้อย่างไร ถ้าพรรคการเมืองมีอคติกับกองทัพ และกองทัพเวลากป้องแผ่นดินไทยอย่างเข้มแข็ง การเมืองไปโหนไม่ได้ การเมืองต้องช่วยสนับสนุนโดยการดำเนอนการนโยบายการต่างประเทศ การทูตเชิงรุก เพื่อให้การทำงานของทหารและกองทัพทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสบายใจมากยิ่งขึ้น เราไม่ควรนำเรื่องความมั่นคงของประเทศ หรือนโยบายการต่างประเทศมาเสี่ยง ผลักภาระให้ประชาชนลงประชามติ อย่าบอกว่าประชาชนจะเข้าใจหรือไม่ ตนยังไม่แน่ใจคนที่คิดให้ถาม ตัวเองเข้าใจหรือยัง เราจะปล่อยให้การเมืองที่ฉุดรั้งทุกสิ่งทุกอย่างจากการทุจริตคอร์รัปชั่นเดินต่อไปไม่ได้ ถ้าประชาธิปไตย ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม แต่เป็นการประมูลซื้อเสียงซื้อสส. คอร์รัปชั่นกัดเซาะไปทุกองค์กร เป็นต้นทุนมหาศาล ไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่ความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในสังคมที่จะถูกทำลาย และนำมาสู่กฎระเบียบกติกาที่ซับซ้อนยุ่งยากดพื่อพยายามแก้ไขสิ่งนี้ แต่กลายเป็นเปิดช่องให้ทุจริตช่องทางใหม่ไม่จบสิ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะผลักดันให้ความซื่อสัตย์ และการบริหารบ้านเมืองที่สุจริตกลับมาให้ได้ ตนพูดเสมอช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย จริยธรรมเป็นเรื่องสำคัญแต่จริยธรรมต้องไม่เป็นอาวุธทางการเมืองมาทำลายฝ่ายการเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ประชาธิปัตย์2489มาจนถึงวันนี้ อุดมการณ์ที่เขียนไว้ตั้งแต่ตอนนั้นชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด ตนคิดว่าบางทีเราลืมอุดมการณ์พรรคของผู้ก่อตั้งพรรคเราสั้นๆ10ข้อ ตนอ่านทุกครั้งขนลุกทุกครั้งว่าคน80ปีที่แล้วเขียนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรที่ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการคนในประเทศถึงทุกวันนี้ และอุดมการณ์10ข้อคือหลักประกันที่จะเกิดการเมืองโปร่งใส ประชาธิปไตยที่ไม่ทรยศต่อประชาชน เศรษฐกิจที่จะมีความเชื่อมั่น ยั่งยืน และสังคมที่เกื้อกูลกัน
“สิ่งเหล่านี้โจทย์ใหญ่กว่าเรื่องพรรคเราจะมีสส.กี่คน โจทย์เหล่านี้คือหน้าที่ของพรรคการเมือง ที่ผมมั่นใจว่าถ้าเราแก้ได้ เราจะอยู่คู่ประเทศไทย เราจะไม่หายไปไหน เราจะเป็นหลัก เป็นความหวังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง แต่มันเป็นเส้นทางที่เหนื่อย เหมือนวันนี้หากพรรคอื่นประชุมแบบนี้2ชั่วโมงเสร็จแล้ว แต่เราเหนื่อย เพราะเรามีหลักการระบบตัวแทนทั้งหลายที่เป็นเจ้าของพรรคผ่านรูปแบบต่างๆในพรรค ทุกคนเป็นเจ้าของพรรคต้องมีที่ยืนอยู่ในกรรมการบริหารพรรค สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สังคมกำลังต้องการ ประชาชนโหยหาทางเลือก เขาเบื่อหน่ายกับพรรคการเมืองที่เขามองว่า มีไว้เพียงแค่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ดีลลับ สับปลับวันเว้นวัน เขาต้องการนักการเมืองอาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้เขาอย่างแท้จริง สถานการณ์วันนี้เป็นโจทย์หลักอย่างยิ่ง เพราะถ้าเป็นไปตามกำหนดการที่วางเอาไว้ อีกเพียงไม่กี่เดือนต้องเลือกตั้งแล้ว หลายคนวันนี้เครียด มากระซิบกับผมว่ากำลังกังวลเรื่องสส.ที่จะย้ายพรรค ผมเป็นนักการเมืองมา30ปี ผมเข้าใจ เหตุผลแต่ละคนมีหลากหลาย อย่าไปเครียด เพราะประชาธิปัตย์ถ้าอยากจะอยู่คู่ประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี