‘อนุทิน’บินเกาหลีร่วมประชุมเอเปก พบผู้นำมหาอำนาจโลก เล็งคุย‘สี จิ้นผิง’ขายข้าว 5 แสนตัน

‘อนุทิน’บินเกาหลีร่วมประชุมเอเปก พบผู้นำมหาอำนาจโลก เล็งคุย‘สี จิ้นผิง’ขายข้าว 5 แสนตัน

วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.37 น.

‘นายกฯอนุทิน’บินเกาหลีประชุมเอเปก พบผู้นำมหาอำนาจโลก หวังสร้างโอกาสการค้า สนับสนุนซึ่งกันและกัน เตรียมพบ‘สี จิ้นผิง’ขายข้าวให้จีน 5 แสนตัน

29 ตุลาคม 2568 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยกล่าวก่อนเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ถึงความคาดหวังที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการประชุมครั้งนี้ว่า เราจะได้เจอผู้นำหลายประเทศอาทิ จีน  แคนาดาเกาหลี บรูไน และคาดว่ารวมถึงญี่ปุ่นด้วย และคาดว่าจะได้เจอนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งลำดับที่นั่ง ตัวอักษรในการนั่ง T (Thailand) และ U หรือ (United States)น่าจะนั่งติดกัน ล้วนและเป็นโอกาสที่จะได้หารือโดยเฉพาะการค้าขาย และแสวงหาความร่วมมือสนับสนุนซึ่งกันและกัน


เมื่อถามว่ามีโอกาสเจอผู้นำจีนเพื่อพูดคุยเรื่องแร่แรร์เอิร์ธ หลังมีความกังวลว่าประเทศไทยจะต้องถ่วงดุลทั้งประเทศจีนและประเทศสหรัฐอเมริกา หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซียที่ผ่านมาได้เจอนายกฯของประเทศจีน ซึ่งก็ไม่ได้มีประเด็นอะไร แต่คราวนี้จะเจอกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านี้เยอะ เช่นที่จะต้องเสนอให้เขาเร่งพิจารณาซื้อข้าวจากประเทศไทย จำนวน5แสนตัน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

เมื่อถาม ว่าจะมีการเจอผู้นำประเทศเกาหลีใต้เพื่อหารือกรณีไทยเป็นเจ้าภาพหลักปราบปรามสแกมเมอร์ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราได้ประกาศที่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ผ่านมาแล้วว่าไทยเราจะจัดประชุมระดับนานาชาติเพื่อร่วมกันป้องกันสแกมเมอร์ ซึ่งมันคุกคามไปทั่วโลกแล้ว

นายกฯ กล่าวว่า อย่างวันนี้ทูตอินเดียประจำประเทศไทยก็จะหารือกับ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเราก็ไปช่วยชาวอินเดียจากฝั่งแม่สอดเข้ามาเกือบ 500 คน หลังจากประเทศอินเดียขอความร่วมมือประเทศไทยมา ซึ่งเขาไม่อยากเป็นภาระกับเราก็ขอให้ประเทศไทยเร่งตรวจสอบคดีต่างๆ และเขาจะส่งเครื่องบินมารับคนของเขากลับภูมิลำเนาถือเป็นความร่วมมือกันที่ทำให้การปราบปรามการกระทำเหล่านี้ได้ยกระดับขึ้นไป

ขณะเดียวกันที่ประเทศกัมพูชาก็จะมีการรื้อฟื้นสิ่งที่เราเคยร่วมมือกันมาก่อนแต่พอมีปัญหาก็เลิกกันไป ซึ่งตอนนี้ก็ปรากฏอยู่ในข้อสามของบันทึกข้อตกลงปฏิญญา ไทยกัมพูชาที่ลงนามที่ประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ กำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้หัวข้อหลัก “Building a Sustainable Tomorrow” หรือ “เสริมสร้างวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเชื่อมโยงภูมิภาคด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือเพื่อความรุ่งเรืองร่วมกัน

ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้เวทีเอเปก เพื่อแสดงบทบาทของรัฐบาลใหม่ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นถึงศักยภาพเศรษฐกิจไทยต่อประชาคมโลก พร้อมย้ำการสนับสนุนระบบพหุภาคีนิยม ที่มีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลาง ควบคู่กับการผลักดันสาขาความร่วมมือใหม่ที่เป็นโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาค เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การปรับตัวต่อโครงสร้างประชากร และการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน

สำหรับภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 ทั้ง 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1  ในวันที่ 31 ต.ค. หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” ซึ่งไทยจะเน้นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก และ ช่วงที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน หัวข้อ “Preparing a Future–Ready Asia–Pacific” ที่ไทยจะเสนอแนวทางเตรียมภูมิภาคให้พร้อมต่ออนาคตผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI นวัตกรรม และการสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจของเอเปก ประจำปี 2568 โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “Bridge. Business. Beyond.” , การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก กับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และการพบหารือกับ US - APEC Business Coalition ซึ่งเป็นสมาคมธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ  รวมถึง การหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และภาคธุรกิจสำคัญ  และเข้าร่วมงานเลี้ยงแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก

ทั้งนี้ การประชุมผู้นำเอเปกในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ 3 แนวคิดหลัก Connect – Innovate – Prosper เพื่อมุ่งเชื่อมโยงภูมิภาคด้วยนวัตกรรมและขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน โดยคาดว่าจะมีเอกสารผลลัพธ์สำคัญจำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ 1.ปฏิญญาคยองจูของผู้นำเอเปก ครั้งที่ 32 2.ข้อริเริ่มเอเปกด้านปัญญาประดิษฐ์ (APEC AI Initiative) 3.กรอบความร่วมมือรองรับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรในภูมิภาค 4.ถ้อยแถลงผู้นำว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ และ 5.ถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปก ครั้งที่ 36

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top