กกต.ขอเวลา75วัน  เตรียมจัดลต.ควบประชามติ  ก่อนหย่อนบัตร29มีนาคม69

กกต.ขอเวลา75วัน เตรียมจัดลต.ควบประชามติ ก่อนหย่อนบัตร29มีนาคม69

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กกต.พร้อมจัดเลือกตั้งควบประชามติ ขอเวลาทำงาน 75 วัน ก่อนหย่อนบัตร 29 มีนาคม ปีหน้า ขีดเส้นต้องส่งคำถามแรกไม่เกิน 13 มกราคม กำหนดสีบัตรสีหีบเดียวกัน ป้องกันหย่อนผิด ตั้งเป้า 5 ทุ่มรู้ผลลงประชามติมีนอกเขตแต่ต้องทำในวันจริง ส่วนนอกราชอาณาจักรกระทรวงต่างประเทศรับผิดชอบนับผลประชามติ แต่บัตรเลือกตั้ง สส.ส่งกลับนับที่ไทย “แสวง”ยังหวังรวมคำถามประชามติในบัตรเดียว สะดวกประชาชน ประหยัด55ล้านบาท

เมื่อวันที่ 30ตุลาคม2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงประเด็น “การเตรียมการเลือกตั้งและการทำประชามติ” ว่า กกต.มีความพร้อมจัดเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป และการออกเสียงทำประชามติไม่ว่าจะทำพร้อมกันหรือไม่ ถ้าจัดพร้อมกันก็ใช้หน่วยเดียวกัน ซึ่งระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้ง สส.ตามกฎหมายกำหนด 45 - 60 วัน ส่วนการทำประชามติกฎหมายใหม่กำหนด 60 ถึง 150 วัน ซึ่งถ้าจะจัดเลือกตั้ง สส.พร้อมกับทำประชามติ 60 วัน กกต.ก็ทำได้แต่จะเหนื่อย เพราะการทำประชามติต้องมีเวลาให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจกับประเด็นที่ทำประชามติ จึงเห็นว่าในส่วน กกต.ควรมีเวลาไม่น้อยกว่า 75 วัน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทำความเข้าใจ และจัดเวทีแสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่เห็นต่างด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบจำนวนคำถามประชามติ ที่จะส่งผลต่อการบริหารจัดการของ กกต.ทั้งเรื่องจำนวนบัตร กระดานนับคะแนน หากคำถามมาก ก็ใช้กระดานนับคะแนนมาก หากบริหารจัดการดีก็สามารถจัดคำถามให้อยู่ในบัตรเดียวได้ ก็จะลดจำนวนกระดานลง


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีคำถามส่งมาให้ กกต.กี่หน้า ก็ขอให้พอสมควรเพื่อให้ กกต.เกิดความเข้าใจ และใช้เวลาในการจัดพิมพ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนในการตัดสินใจ โดยไม่มีการชี้นำ รวมถึงจัดเวทีให้คนเห็นต่างแสดงความเห็นโดยไม่ชี้นำ ซึ่ง กกต.จะต้องรับมือ กับการพูดเรื่องประชามติในเวทีหาเสียง และพูดหาเสียงบนเวทีประชามติ ซึ่งจะต้องบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ควบคู่กับกฎหมายประชามติ

“กกต.ไม่มีปัญหาในเรื่องการจัดการเลือกตั้ง และทำประชามติ ในคราวดียวกัน แต่ถ้าเป็นไปตามที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ บอกว่าจะมีการเลือกตั้ง 29 มี.ค.2569กกต.ต้องการเวลาในการให้ความรู้ และเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจในประเด็นที่จะมีการทำประชามติทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ MOU ซึ่งกรอบตามกฎหมายกำหนดให้ทำไม่น้อยกว่า 60 วัน แต่ไม่เกิน 150 วัน หากกำหนดที่ 60 วัน กกต.ก็สามารถทำได้ แต่ค่อนข้างเหนื่อย จึงต้องการเวลา 75 วัน นับย้อนจากวันที่จะเลือกตั้งและประชามติ ในวันที่ 29 มี.ค.2569”

นายแสวง กล่าวต่อว่า ตามข่าวสถานการณ์เป็นปลายปิด คือ มีการประกาศเจตนารมณ์ของผู้มีอำนาจว่าจะยุบสภาวันไหน ซึ่งก็ต้องนับย้อนขึ้นมา สภาก็ต้องทำคำถามให้เสร็จย้อนขึ้นมา 4 - 5 เดือน ประเด็น MOU บอกได้เลย เพราะเป็นเรื่องที่ ครม.แต่ประเด็นร่างรัฐธรรมนูญยังไม่รู้ว่ามีกี่คำถาม ถามอะไรบ้าง จึงอยู่ที่ว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จวันไหน ตอนนี้จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นไปตามเวลาที่กำหนดหรือไม่ ถ้าล่าช้า บริหารไม่ดี เวลาตามกฎหมายที่กำหนดให้จัดเลือกตั้ง กับที่กำหนดให้ประชามติมีความเหลื่อมกัน กรณีการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น อยู่ที่รัฐสภาว่าจะส่งคำถามแรกมาที่ กกต.เมื่อไหร่ หากส่งช้า ก็จะกินเข้าไปในแต่ละขั้นตอนของระยะเวลา 75 วันที่วางไว้ก็จะทำให้การออกเสียงประชามติและการเลือกตั้ง สส.ไม่สามารถจัดในวันเดียวกันได้

ส่วนเรื่องงบประมาณ ไม่ว่าการเลือกตั้ง หรือประชามติต้องใช้เงินแน่นอน งบฯ ที่ตั้งทุกครั้ง จะใช้จ่ายตามหลักการของกฎหมาย เพื่อความโปร่งใส การมีส่วนร่วม การอำนวยความสะดวก เหตุที่งบฯ สูงเพราะมีจำนวนผู้มีสิทธิเพิ่มเป็น 53 ล้านคน จำนวนหน่วยเลือกตั้งต้องหาใหม่ เพราะมีการเพิ่มการทำประชามติควบคู่ไปด้วย โดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 แสนหน่วย จากเดิมมี 9 หมื่นหน่วย รวมถึงต้องมีการเพิ่มวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องมีการเพิ่มเติม ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ กปน.รวมแล้วประมาณ 14 คนต่อหน่วย การลงคะแนนก็บัตรสีไหนก็หย่อนลงกล่องสีนั้น การขานคะแนนทำพร้อมกัน บัตรสีไหนก็ให้หย่อนที่กล่องสีนั้น หย่อนผิดกล่อง ไม่ถึงเป็นบัตรเสีย สามารถนำไปนับคะแนนได้ การขานคะแนนทำพร้อมกัน

ทั้งนี้ ตั้งเป้าบริหารจัดการให้จบใน 23.00 น.ฉะนั้น โดยสรุปงบฯกว่า 90% จะลงไปตรงนี้หมด และครั้งนี้กฎหมายให้คนไทยในต่างประเทศออกเสียงประชามติด้วย หากเลือกตั้งพร้อมประชามติ การนับคะแนนจะแยกกัน บัตรเลือกตั้ง สส. สถานทูตจะต้องส่งกลับมานับที่ประเทศไทย ส่วนบัตรประชามติกฎหมายให้นับที่หน่วยเลือกตั้ง กระทรวงการต่างประเทศจึงค่อนข้างลำบาก เพราะมีจำนวนคนทำงานที่สถานทูต 30 - 40 คน เท่านั้น ทั้งนี้จะมีการจัดหน่วยเลือกตั้งจำลอง เพื่อทดลองทำประชามติ คู่การเลือกตั้ง สส. ว่าจะมีการบริหารจัดการ การใช้เวลานานแค่ไหน

“ข้อดีการออกเสียงพร้อมกัน คือ ประหยัดงบฯแน่นอน ไม่เป็นภาระประชาชน ออกมาวันเดียวก็ได้ออกเสียงไปเลย และอาจจะได้ความชอบธรรมมาด้วย เพราะสถิติการเลือก สส.มีเปอร์เซ็นต์ผู้มาใช้สิทธิ์สูง อย่างครั้งที่แล้วมาใช้สิทธิ์ กว่า 75% ส่วนการเลือกตั้งอย่างอื่น มีผู้มาใช้สิทธิ์ประ มาณ60% เท่านั้น” เลขาธิการ กกต.กล่าวและว่า เรื่องการกำหนดวันนั้นยังไม่มีการกำหนด แต่สิ่งที่ กกต.ทราบ คือเรามีความพร้อมในการจัดเลือกตั้งพร้อมการทำประชามติ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้จะมีความชัดเจน ซึ่งต้องหารือกับนายกฯ อีก 1 -2 ครั้ง ส่วนตอนนี้ที่คนพูดกันเพราะว่ามีการทำ MOA ว่าจะมีการยุบสภาในวันนั้นวันนี้เท่านั้นเอง

ทั้งนี้ การเลือกตั้ง สส.สามารถลงคะแนนล่วงหน้าได้ และลงนอกเขตได้ ส่วนการออกเสียงทำประชามติ ไม่สามารถออกเสียงล่วงหน้าได้ แต่ประชาชนสามารถออกเสียงนอกเขตได้และต้องทำในวันจริงเท่านั้น ดังนั้น ประชาชนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศก็ไม่ต้องไปลงคะแนน 2 รอบ หรือกลับภูมิลำเนาแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจะมีการรวบประชามติ 1 ใบ เท่ากับวันนั้นจะมีมีบัตร 3 ใบ คือบัตรลงคะแนน สส.เขต สส.บัญชีรายชื่อ และบัตรประชามติ จากก่อนหน้านี้บอก 4 ใบ ดังนั้น แนวโน้มเป็นอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้ยังตอบตอนนี้ไม่ได้ แต่มีเหตุผลของมัน ซึ่งจะให้มีกี่ใบไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เราต้องเอาประชาชนเป็นหลัก คือไม่เพิ่มภาระประชาชน ไม่ทำให้เกิดบัตรเสีย ยกตัวอย่างคำถามประชามติครั้งที่ 1 กับครั้งที่2นั้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจ ฉัยว่าให้ทำรวมกันได้ และถ้ารวมกับเรื่อง MOUได้ ก็จะประหยัดงบแน่ๆ กว่า 55ล้านบาท แต่สิ่งที่จะคิดตามมาคือ ประชาชนจะสับสนหรือไม่ เพราะมีคำถามเยอะ ซึ่งในช่วงการขาน การอ่าน 4คำถามก็ต้องมี 4 กระดาน ดังนั้น เรากำลังประเมินว่าอะไรจะดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากยึดเวลา 75วัน ตามที่ กกต.เสนอเท่ากับว่าผู้เกี่ยวข้องต้องส่งประเด็นคำถาม โดยเฉพาะรัฐสภา ต้องส่งคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กับ ครม.และส่งให้ กกต.ก่อนวันที่ 13ม.ค.2569 หรืออย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 28ม.ค.2569 ซึ่งยังอยู่ในกรอบ60-150วันของกฎหมายประชามติ2568

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top