‘เด็กธนาธร’ มอง ภท. คือ พปชร.62  กล้าธรรมคือพลังประชารัฐ 66 จบลงที่เป็นฝ่ายค้าน

‘เด็กธนาธร’ มอง ภท. คือ พปชร.62 กล้าธรรมคือพลังประชารัฐ 66 จบลงที่เป็นฝ่ายค้าน

วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.09 น.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน บุคคลใกล้ชิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความระบุว่า 

ภูมิใจไทยคือพลังประชารัฐ 2562 


กล้าธรรมคือพลังประชารัฐ 2566
...
(1)
มีโอกาสได้สนทนากับ ผู้เชี่ยวชาญ การเมืองไทยท่านหนึ่ง ให้ความเห็นที่น่าสนใจ เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย ของอนุทิน เนวิน และพรรคกล้าธรรมของธรรมนัส  ที่มีการกวาดต้อน สส. มาไว้ในสังกัดจำนวนมาก ไว้อย่างน่าสนใจว่า เวลาบริหารประเทศ 4 เดือนของพรรคภูมิใจไทย  เร็วเกินกว่าที่จะ สร้างผลกระทบอะไรมากมายได้ การที่บอกว่าพรรคภูมใจไทยจะชนะเลือกตั้งอันดับ 1 หรือพรรคกล้าธรรม จะได้ถึง 70ที่นั่ง ทั้ง 2 พรรคถูกประเมินเกินจริงไปมาก 

(2)
เพื่อให้เห็นภาพ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองท่านนี้ได้ยกตัวอย่าง พรรคพลังประชารัฐ ที่ก่อกำเนิดมาในฐานะ เครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร 2557 ซึ่งพร้อมไปด้วยอำนาจรัฐและอำนาจทุน ในมือตัวเอง  แถมมีผู้นำอย่างประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่าสามารถครองใจ “ฝ่ายอนุรักษ์” ได้จำนวนไม่น้อย

ขณะเดียวกัน การก่อตัวของพรรคพลังประชารัฐก็เป็นลักษณะของพรรคเฉพาะกิจ ที่รวบรวมการเมืองบ้านใหญ่ มาไว้ในมุ้ง แถมแต่ละคนมีคดีต่างๆไว้แบล็คเมล์ บรรดานักการเมือง ให้ต้องสยบยอม 

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ต้องเหินห่างจากทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย (ธรรมนัสเป็นผุ้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยในปี 2557 ที่ผมเคยไปเลือกมาแล้วด้วย) มาที่สยบยอมใต้ปีก พรรคพลังประชารัฐ

แต่ผลการเลือกตั้ง 2562 ในระบบบัตรใบเดียว   

พลังประชารัฐ  ที่ส่ง สส. 350 เขต  มีคะแนน8,441,274 คิดเป็น 23.74%  สส.เขต 97   บัญชีรายชื่อ 19 รวม 118 คน  มาเป็นอันดับ 2 เท่านั้นตามหลังพรรคเพื่อไทย ที่ส่ง สส. เพียง  200  เขต  ที่ได้ 7,881,006   คิดเป็น 22.16 %  มี สส.เขต 136  คน

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ที่ตั้งมาเพียง  1 ปี และ คนหน้าใหม่ทั้งหมด  อนาคตใหม่ ได้ 6,330,617 คิดเป็น 17.80 % สส.เขต 31 บัญชีรายชื่อ 50 คำถามก็คือว่า ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ 2562 กับพรรคภูมิใจไทย 2569 ที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง

พรรคไหนมีอำนาจรัฐ มีอำนาจทุน  และมีผู้นำทางการเมืองที่เหนือกว่ากัน  ไม่เพียงแต่เท่านั้น ในเวลา 5 ปี นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ ที่ใช้เงินอย่างมหาศาล ผ่านโครงการสวัสดิการของรัฐในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนเอาง่ายๆระหว่างประยุทธ์ จันทร์โอชา 2562 กับอนนุทิน ชาญวีรกุล  2569 ใครมีคะแนนนิยมมากกว่ากัน ผมคิดว่าคำตอบน่าจะเป็นประยุทธ์ จันทร์โอชาถ้าพรรคพลังประชารัฐ ของประยุทธ์ ได้ สส.  118 คน แล้วพรรคภูมิใจไทย 2569 จะได้ สส.กี่คน ผมให้ 118+ 10  คนไปเลย ก็ได้ไม่ถึง  130  ด้วยซ้ำ

(3)

ขณะที่พรรคกล้าธรรมองธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองท่านนี้ก็ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ก็คือ เปรียบเสมือนพรรคพลังประชารัฐ 2566 ที่มีเพียงแค่บ้านใหญ่และ อำนาจรัฐ อำนาจเงินล้วนๆ ขณะที่ผู้นำทางการเมืองก็คือประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความไม่โปร่งใส และเมื่อเทียบพรรคพลังประชารัฐ 2566 กับพรรคกล้าธรรม 2569 ที่มีธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นผู้นำ มาถึงจุดนี้ถ้าเทียบความเทากันระหว่างประวิตร วงษ์สุวรรณและธรรมนัส พรหมเผ่า  ผมคิดว่าคนไม่น้อยต้องเลือกคนหลังอย่างแน่นอน

ลองมาดูจำนวน สส. พรรคพลังประชารัฐ  2566 สส. เขต 39 คน สส.บัญชีรายชื่อ 537,625 คะแนน คือ 1 คน คือประวิตร พรรคกล้าธรรมของธรรมนัส  ต้องลงมาแข่งกับพรรคที่มีสเปคตรัมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น  ภูมิใจไทย  และเพื่อไทย  ที่เล่นเกมบ้นใหญ่เต็มตัว  ผมไม่คิดว่าจะมี สส. ถึง  39 คนแบบที่พรรคพลังประชารัฐทำได้ในปี  2566 ด้วยซ้ำส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อ ผมคิดว่าต่ำกว่า 3 แสนคะแนนสูงสุดของพรรคกล้าธรรมคือ 35 นี่บังไม่รวมชะตากรรมของธรรมนัส ก่อนเลือกตั้ง  2569 ด้วยซ้ำ ว่าจะได้ลงเลือกตั้งหรือไม่ 

กล่าวโดยสรุป 

ผมคิดว่าพรรคภูมิใจไทย  ไกลสุดคือพรรคอันดับ  2 ซึ่งจะจบลงที่เป็นฝ่ายค้าน และถ้าอยากจะร่วมรัฐบาลครั้งหน้า ควรจะต้องเป็นพรรคอันดับ  3 ลงไปส่วนพรรคกล้าธรรม ความฝันที่จะเป็นรัฐบาล อยู่ที่พรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย จะเป็นแกนนำในการตัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top