‘โรม’ดักคอ‘หนู’  ชิงยุบสภาเข้าทาง‘โจรอุ้มโจร’  ปชน.ขู่ยื่นซักฟอกรอคุยพท.

‘โรม’ดักคอ‘หนู’ ชิงยุบสภาเข้าทาง‘โจรอุ้มโจร’ ปชน.ขู่ยื่นซักฟอกรอคุยพท.

วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“โรม”ดักคอ“อนุทิน”ชิงยุบสภาหนีซักฟอก เข้าทาง“โจรอุ้มโจร” ผิดหวัง“อนุทิน”สวนทางกับสิ่งที่พูดแก้สแกมเมอร์จี้ปลด“ธรรมนัส”พ้นครม.สังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรม ยันข้อมูลที่มีเอาผิดได้ทุกระดับปชน.พร้อมจะยื่นซักฟอก แต่ต้องพูดคุย “เพื่อไทย”ก่อน เพื่อให้ทำงานฝ่ายค้านมีประสิทธิภาพ“ไอซ์ รักชนก”ยันปชน.ไม่เสียค่าโง่ หากนายกฯชิง“ยุบสภา”เหน็บปชช.ไม่ต้องทนกับ‘รัฐบาลที่ไร้ความสามารถอีก2ปี‘วันนอร์’มั่นใจ‘รัฐสภา’จะผ่านร่างแก้ไขรธน.ภายในสิ้นปีนี้ ชี้อำนาจ‘ยุบสภา’เป็นของนายกฯ

เมื่อเวลา 09.00น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยออกมาระบุพร้อมที่จะยุบสภาทันทีหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ยอมให้โดนด่าฟรีว่าเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำได้ตามกฏหมายแต่อีกมุมหนึ่งสิ่งที่ประชาชนเชื่อ หรือมองจะเป็นอย่างไร


‘โรม’ฉะ’หนู’ชิงยุบสภาเข้าทาง’โจรอุ้มโจร’

นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่าเรื่องที่นายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทยบอกว่าตั้งโจรมาปราบโจร ส่วนตัวจึงตั้งคำถามว่าแล้วโจรจะอุ้มโจร อุ้มโจร อุ้มโจรนั้นมันก็หลายต่อ ซึ่งหากชิงยุบสภาหนีไปก่อน คำถามสำคัญประชาชนจะเข้าใจได้อย่างไร จะกลายเป็นว่าสุดท้ายคือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรือไม่ และทำเช่นนี้ใครจะได้ประโยชน์ กลุ่มสีเทาจะได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ตนแนะไปยังนายกรัฐมนตรีว่าต้องคิดให้ดี

ผิดหวัง‘อนุทิน’สวนทางกับสิ่งที่พูด

จากนั้นนายรังสิมันต์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามปัญหาสแกมเมอร์ว่า หลายประเทศมีความคืบหน้า แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความคืบหน้าน้อยที่สุด แต่ถ้านายกรัฐมนตรีเอาจริง ตนเชื่อว่าหน่วยงานหลายหน่วยงานพร้อมทำหน้าที่ ปัญหาขณะนี้ที่หน่วยงานเกียร์ว่างไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง ตนไม่มั่นใจว่าเพราะไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีข้อมูลหรือเป็นเพราะเชื่อมถึงใครหรือไม่แทบจะไม่มีความคืบหน้าเลย จึงต้องยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องพวกนี้จริง ก็อยู่ที่นายอนุทินว่าตกลงจะเอาอย่างไร จะปราบสแกมเมอร์อย่างไร

“ต้องยอมรับว่าคาดหวังมากกว่านี้ การที่นายอนุทินไม่ดำเนินการอะไร เป็นท่าทีที่น่าผิดหวังมากแล้ว สวนทางกับสิ่งที่พูดที่บอกว่านี่คือวาระแห่งชาติ เป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไรในเมื่อการแก้ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเลย และยังไม่นับว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับทางกรรมาธิการในการแก้ปัญหาเรื่องนี้”นายรังสิมันต์ กล่าว

จี้ปลด‘ธรรมนัส’พ้นครม.สังคมรับไม่ได้

เมื่อถามว่า คาดหวังว่านายกฯจะให้รัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาลาออกเพื่อให้มีการตรวจสอบตัวเองหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า การตรวจสอบมีสองระดับ คือ 1.การตรวจสอบทางการเงิน ตนเป็นกรรมาธิการการตรวจสอบทางการเมือง ไม่ได้หมายความว่าต้องผิด 100% หรือถูก 100% การตรวจสอบทางการเมืองแค่มีเพียงข้อบ่งชี้ ว่าถ้าให้คนเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปจะสร้างความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน นี่คือเหตุเพียงพอแล้วในการตรวจสอบและ 2.การตรวจสอบทางกฎหมาย เป็นขั้นตอนทางกฎหมายซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่หรืออำนาจต้องเป็นคนดำเนินการดังนั้นสิ่งที่กรรมาธิการทำได้คือรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้หน่วยงาน แต่ทั้งสองการตรวจสอบแม้แยกกันทำงานแต่สามารถเดินคู่ขนานกันไปได้

“จริงๆแล้วเราไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ลาออก เราคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีปลดออกจากคณะรัฐมนตรีเลย นี่คือความคาดหวังของเรา”นายรังสิมันต์ กล่าว

พร้อมยื่นซักฟอก หวังคุยกับ‘เพื่อไทย’

เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ ถ้าต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พวกเราพร้อมอยู่แล้ว ข้อมูลหลายอย่างเอาไปใช้เป็นข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯและพร้อมพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดคุย ส่วนหนึ่งก็มาจากกลไกวิปฝ่ายค้านดำเนินการได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าร่วมกับวิป นี่ยังเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่จบ ดังนั้น หากจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมีเสียงของฝ่ายค้าน 280 กว่าเสียง ถ้ายื่นไปแล้วไม่สำเร็จก็น่าเสียดาย ดังนั้นกลไกของการพูดคุยระหว่างพรรคฝ่ายค้าน มีความสำคัญมากว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร

“ผมยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถเอาผิด โดยเฉพาะทางการเมืองกับบุคคลต่างๆได้ เอาผิดในการขยายผลเครือข่ายต่างๆหรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทุกระดับ ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายการเมืองเท่านั้น แต่อดีตที่เป็นนายกฯ ที่เป็นรัฐมนตรี นักการเมืองต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้ ต้องยอมรับว่าฝ่ายการเมืองข้าราชการประจำเละเทะ ตำรวจที่มีการแฉออกมาไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน 200 คน กระทั่งคนที่มีหน้าที่ปราบเว็บพนันเข้าไปเกี่ยวข้อง กับการรับส่วยเว็บพนัน ดังนั้นต้องยอมรับว่ากลไกต่างๆ แทบจะไม่เหลืออะไรให้เราเชื่อมั่นแล้ว สิ่งที่พวกผมทำได้ในฐานะที่ยังมีเวลาทางการเมืองที่จะนับถอยหลังไปทุกๆวันเราก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา” นายรังสิมันต์ กล่าว

‘หนู’ย้อนปม‘โรม’จี้ปลด‘ธรรมนัส’

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เรียกร้องให้ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ออกจากรัฐบาล หลังประชาชนไม่เชื่อมั่น โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามสื่อมวลชนว่า“เกี่ยวข้องอะไรกับการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์”ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

‘ไอซ’อัด‘หนู’ไม่เข้าใจปลด’ธรรมนัส’

น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชนกล่าวถึงกรณีที่นายกฯตั้งคำถามการปลดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวข้องอะไรกับสแกมเมอร์ว่า ตอนนี้ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้ว การปลด ร.อ.ธรรมนัสออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี หรือรองนายกฯเกี่ยวข้องอย่างไรกับการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ เราไม่ได้บอกว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นสแกมเมอร์ แต่ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้ว ในเรื่องที่นายรังสิมันต์ โรม และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชนอภิปรายในสภา แต่นายกฯยังไม่เข้าใจเลย ตนจึงไม่แปลกใจเลยว่าการแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ เรื่องฟอกเงินหรือปัญหาอื่นในประเทศนี้ถึงแก้ไม่ได้เสียที นายกฯยังไม่ยอมรับความจริงว่า มีปัญหานี้

ยันปชน.ไม่เสียค่าโง่ นายกฯชิงยุบสภา

เมื่อถามว่าหากนายกฯชิงยุบสภาก่อน แสดงว่ารัฐบาลอุ้มคนผิดหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า เราไม่ได้มีหน้าที่กังวล หรือห่วงแทนนายกฯ ถ้ารัฐบาลยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับเรื่องสแกมเมอร์แบบนี้ ท่านห่วงตัวเองดีกว่า

เมื่อถามย้ำว่าหากชิงยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แก้พรรคประชาชนเสียค่าโง่หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนไม่คิดว่า จะเสียค่าโง่อะไร อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีรัฐบาลที่จะอยู่ยาวต่อไปอีก 2ปีแล้ว ถึงแม้การยุบสภาจะเกิดขึ้นภายใน 4 เดือนหรือเร็วๆนี้ แต่ตนคิดว่ามันคุ้มค่าที่สุดสำหรับประชาชนแล้ว เพราะเราไม่ต้องทนอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถต่อไปอีก 2 ปี

‘วันนอร์’มั่นใจแก้ไขรธน.ผ่านสิ้นปีนี้

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศฮังการี กล่าวถึงการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเรื่องการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ มี 2 เงื่อนไข คือรัฐบาลต้องประสานมายังรัฐสภา และร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ต้องพิจารณาให้จบในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯแต่ส่วนตัวเกรงว่าคณะกรรมาธิการฯจะพิจารณาเสร็จไม่ทันกลางเดือนนี้ แต่ตามที่คาดการณ์ น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนธ.ค.

หากมีการเปิดการประชุมในช่วงนี้อาจจะมีปัญหาในเรื่ององค์ประชุม เพราะกรรมาธิการที่เป็น สส. บางส่วนส่วนเดินทางไปราชการต่างประเทศเมื่อการพิจารณาวาระที่สอง เสร็จสิ้นจำเป็นต้องรอ15 วัน เพื่อลงมติวาระที่ 3 แต่ทั้งนี้กระบวนการในวาระที่ 2 ควรเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ และเมื่อมีการเปิดสมัยประชุมก็จะทันลงมติในวาระที่ 3 ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมด น่าจะเสร็จสิ้นก่อนปีใหม่

“อย่างน้อยที่สุด ผมอยากให้สภาฯชุดนี้ ผ่านการพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 เพื่อไปทำประชามติในการเลือกตั้งสส. แต่สิ่งสำคัญที่สุด รัฐธรรมนูญจะผ่านการพิจารณาจากสภาได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการฯ จะต้องมีการพูดคุยกัน ทั้งในรอบและนอกรอบ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ชี้อำนาจ‘ยุบสภา’นายกฯทำได้ตลอดเวลา

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้อาจมีการตัดสินใจยุบสภาประธานรัฐสภา กล่าวว่า อำนาจการยุบสภาเป็นของนายกฯซึ่งสามารถทำได้ตลอดเวลา ยกเว้นกรณีที่มีบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าสู่วาระการประชุมแล้ว แต่กระบวนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ญัตติอาจไม่สมบูรณ์ก็ได้ เช่นมีสส.ลงชื่อไม่ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด แม้ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว นายกฯก็ยังยุบสภาได้ จนกว่าจะมีการบรรจุญัตติในวาระการประชุมสภา ส่วนตัวมองว่า หากไม่มีประเด็นปัญหาที่จะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ การอภิปรายก็จะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top