ประกาศสงคราม‘สแกมเมอร์’  ‘อนุทิน’ลั่นกลองรบ  ยกเป็นวาระแห่งชาติ  ยืนกรานไม่มีเกี๊ยะเซียะ

ประกาศสงคราม‘สแกมเมอร์’ ‘อนุทิน’ลั่นกลองรบ ยกเป็นวาระแห่งชาติ ยืนกรานไม่มีเกี๊ยะเซียะ

วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ประกาศสงคราม‘สแกมเมอร์’

‘อนุทิน’ลั่นกลองรบ

ยกเป็นวาระแห่งชาติ

ยืนกรานไม่มีเกี๊ยะเซียะ

ไม่ทำตายตาไม่หลับ

นายกฯนำ 14 หน่วยงานลงนามMOUประกาศสงครามสแกมเมอร์ยกเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องชนะอย่างเดียว เดินหน้า 5 ข้อปฏิบัติการเชิงรุก ขอคนไทยมั่นใจไม่มีเกรงใจใคร บอกมีอำนาจแล้วไม่ทำตายตาไม่หลับ ลั่นเคลียร์ไม่ได้-ไม่มีเกี๊ยะเซียะ ลุยลูกเดียว ด้าน “ไชยชนก”เผยยกระดับวอร์รูม ปราบอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมเดินหน้าหลายมาตรการ “จำกัดซิมการ์ด–เพิ่มขั้นตอนเปิดบช.ธนาคาร”ชี้บช.ม้าเปิดได้คนละ 1 บช. ถ้าทำผิดซ้ำในช่วง 3 ปี ห้ามเปิดบช.จตลอดชีพ ส่วนร่างพ.ร.ก.ใกล้เสร็จ หวังใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้สแกม

เมื่อวันที่ 6พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจ 14 หน่วยงาน  ประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีคือ


นายกฯนำเซนMOUปราบสแกม

1.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) 3.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 4.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) 5.กระทรวงยุติธรรม 6.กระทรวงมหาดไทย 7.กระทรวงการคลัง 8.กระทรวงการต่างประเทศ 9.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 10.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

11.สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) 12.กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 13.สมาคมธนาคารไทย 14.สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และ 15. กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดํา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

ประกาศต้องชนะสงครามปราบโกงออนไลน์

จากนั้นนายกฯเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ และประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้ตนในนามรัฐบาลและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและตัวแทนภาคเอกชนร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างพร้อมเพรียงวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ประเทศไทยของเราได้รวมตัวประกาศสงครามกับอาชญากรรมออนไลน์สงครามนี้เป็นสงครามที่เราต้องชนะเท่านั้น เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยสแกมเมอร์ที่กำลังบ่อนทำลายประเทศอยู่ทุกวัน เพราะเมื่อหนึ่งคนเป็นเหยื่อครอบครัวทั้งครอบครัวก็ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของคนจำนวนมากต้องประสบความทุกข์ร้อนความเครียดแสนสาหัสศักยภาพชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประเทศถูกบ่อนทำลายจากการกระทำของมิจฉาชีพ ชื่อเสียงที่ต้องเสื่อมเสียภาพลักษณ์ที่ถูกบั่นทอน มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ความเสียหายที่ซ่อนอยู่จากภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเหล่านี้มีมากมายจนไม่สามารถจะประเมินค่าได้

ยกเป็นวาระแห่งชาติลุย5ด้าน

นายกฯกล่าวต่อว่า นี่คือภัยแห่งความมั่นคงอันดับต้นของประเทศ ซึ่งรัฐบาลของตนประกาศชัดเจนว่าอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องแก้ไขป้องกันและปราบปรามให้สูญสิ้นไปให้จงได้ ดังนั้นการรวมพลังลงนามบันทึกความเข้าใจวันนี้สิ่งที่เราได้ร่วมกันลงนามไปนั้นไม่ใช่เป็นแต่เพียงเอกสาร แต่คืออาวุธที่เราจะใช้ต่อสู้กับอาชญากรอย่างเป็นระบบ เพราะนี่คือวาระแห่งชาติ ไม่ใช่ภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมกันของประเทศ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกด้านทั้งงบประมาณเทคโนโลยีและนโยบายทรัพยากรทุกสิ่ง เพื่อให้การปฎิบัติภารกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งออนไลน์สแกมเมอร์ให้เห็นผลจริงทั้งระยะสั้นและยั่งยืนระยะยาว เพื่อประเทศไทยของเราเป็นพื้นที่ปลอดภัย จากภัยสแกมเมอร์ให้ประชาชนและต้องทำให้เป็นดินแดนต้องห้ามของอาชญากรรมทุกรูปแบบ ประเทศไทยต้องปลอดภัยจากสแกมเมอร์ซึ่งเอ็มโอยูอยู่ที่ว่าด้วยความร่วมมือป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับนี้เพื่อเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุก 5 ด้านหลักคือ

1.บังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดไม่ว่าจะเป็นผู้ทำผิดหรือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง 2.สร้างระบบประสานงานแบบบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรองและการสืบสวน 3.ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทันทีตัดเส้นทางการเงินอาชญากรไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานฟอกเงินได้อีก4.ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเอไอตรวจจับเส้นทางเงินและพฤติกรรมมิจฉาชีพ เพื่อสกัดก่อนเกิดเหตุ 5.สร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนรู้เท่าทันและต้องแจ้งกระแส เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศระวังพร้อมช่วยเป็นหูเป็นตาเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับสงครามป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครั้งนี้ให้สำเร็จ

ลั่นไม่ทนอาชญากรรมออนไลน์อีกต่อไป

นายกฯกล่าวต่อว่า วันนี้น่าจะชัดเจนรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาก ที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญ เราเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นเจ้าของสแกมเมอร์ เป็นผู้มีส่วนร่วมตนคิดว่าภาพวันนี้คงปรากฏและทำให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ว่าไม่มีใครที่จะอดทนต่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทำร้ายประเทศไทย ผู้บริหารทุกหน่วยงานที่ปรากฏตัวร่วมกันลงนามบนเวทีนี้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เดินทางมาถึงจุดสูงสุดในการเป็นผู้บริหารองค์กร ที่รับผิดชอบอยู่ไม่มีอะไรที่ต้องทำให้ท่านหวั่นไหวในอนาคต

มีอำนาจหน้าที่ไม่ทำให้สำเร็จตายตาไม่หลับ

“สิ่งที่ทุกท่านรวมถึงตัวของผมด้วยมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะปฏิบัติคือต้องร่วมกันปราบปรามปกป้องประชาชนให้ปลอดภัยจากภัยสแกมเมอร์เหล่านี้ให้จงได้ พวกเราทุกคนมีอายุราชการเหลือไม่กี่ปีแล้ว ผมมั่นใจว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นิ่เป็นเพื่อนกันหมด เป็นพี่น้อง ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชา เป็นแต่เพียงสายงานเท่านั้น แต่ความรู้จักความผูกพันความสัมพันธ์ที่มีต่อกันคือเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ เป็นน้องที่เราสามารถแสวงหาความร่วมมือและสร้างพลัง ใช้โอกาสนี้และใช้ความเป็นพี่น้อง เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นเพื่อนรักกับผบ.ตร. เป็นพี่ของอธิบดีดีเอสไอ เป็นพี่ของผู้ว่าฯแบงค์ชาติเป็นเพื่อนร่วมงานของปลัดกระทรวงหลายคน และเป็นคนตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ฉะนั้นผมจะไม่มีวันที่ต้องเกรงใจใครที่ตั้งใจจะมาทำร้ายประชาชนของผมต้อง ขอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ผมรู้จักเพื่อนของผมเหล่านี้ดีพวกเราจะไม่มีวันหมดหน้าที่ หรือแม้เกษียณอายุราชการไปแล้ว บอกกับตัวเองว่าขณะมีอำนาจมีหน้าที่ มีภารกิจอยู่ไม่ทำเรื่องให้สำเร็จปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน ตายตาไม่หลับ”นายกฯกล่าว

ยันเรื่องนี้เคลียร์ไม่ได้ไม่มีเกี๊ยเซียะ

และว่า พวกเราทุกวันมาถึงจุดนี้ได้เราต้องทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ด้วยเกียรติยศและเต็มความสามารถ ฉะนั้นวันนี้รัฐบาลและคณะรัฐบาลทุกคนขอให้ความมั่นใจเรื่องนี้เคลียร์ไม่ได้และเรื่องนี้ไม่มีเกี้ยเซียะ เรื่องนี้มีแต่ลุยลูกเดียวเท่านั้น และเราจะถือว่าสิ่งเหล่านี้คือผลงานของเรา คือบุญคุณของประชาชนที่เราจะนำมาทดแทนและเป็นสิ่งที่เราต้องทำขึ้นมา เพื่อขออภัยประชาชนในสิ่งที่เกิดความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา เราตั้งใจจะทำอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจในทีมของเรา ทีมไทยแลนด์

ด้านนายอรรษิษฐ์สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 10 พ.ย.นายกฯ จะเดินทางลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อส่งตัวผู้ที่ข้ามแดนผิดกฎหมาย ซึ่งข้ามจากเคเคพาร์ค (KK Park) เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมายังประเทศไทย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นแหล่งอาชญากรรมร้ายแรงระดับโลก ที่เมียนมาได้กวาดล้าง และบุคคลเหล่านี้ได้ข้ามมาสู่ประเทศไทย

ยกระดับสู้สแกมจำกัดซิมการ์ด-ยุติเปิดบช.ใหม่

ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวก่อนลงนามความร่วมมือ 15 หน่วยงานเพื่อประกาศสงครามกับสแกมเมอร์ว่า สิ่งแรกที่ทำคือ การยกระดับวอร์รูมที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนธนาคารทั้ง 7 ธนาคาร โดยประสานข้อมูลการกระทำต่างๆ ก่อนเกิดอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเรื่องไหนที่ปรากฏเป็นผลงานเป็นรูปธรรม จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงชี้แจงส่วนที่ถือเป็นสิ่งสำคัญคือ การยุติการเปิดบัญชีใหม่ หรือเพิ่มขั้นตอนเปิดบัญชีให้ละเอียดขึ้น และที่เพิ่มมาตรการไปแล้วคือจำกัดจำนวนซิมการ์ดให้เหลือเพียง 5 ซิมต่อบุคคล หากจำเป็นต้องเพิ่มเติม ต้องขอเป็นการเฉพาะราย โดยบุคคลที่จะขอเพิ่มซิมมากกว่า 5ซิม ต้องส่งชื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบก่อน และยังเพิ่มกฎระเบียบการลงทะเบียนซิมด้วย เพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยีฝ่ายสแกมเมอร์

ระดมสมองยกระดับกม.ดูแลซิมบ๊อกซ์

นายไชยชนกกล่าวต่อด้วยว่า นายกฯสั่งการเรื่องสัญญาณระหว่างประเทศ ที่ได้รับการยืนยัน และรับรองจากกสทช. ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบ เมื่อเปิดปิดของสัญญาณเกิดขึ้น ก็จะตรวจสอบว่าสัญญาเล็ดลอดได้อย่างไร และจะขออัพเดทข้อมูลใน 3 วันข้างหน้า ส่วนจุดเริ่มต้นของกระบวนการสแกมเมอร์คือ ซิมบ๊อกซ์ เป็นเครื่องมือรวบรวมสัญญาณให้สามารถใช้ในพื้นที่เดียวกันได้ ที่ผ่านมามีกฎหมายขึ้นมากำกับดูแลเรื่องซิมบ๊อกซ์ แต่ก็ยังคงตรวจพบการกระทำที่ฝ่าฝืน ตอนนี้อยู่ระหว่างการเชิญตัวแทนเข้าหารือวิธีป้องกัน ซึ่ง กสทช.ออกระเบียบว่า แม้จะเป็นชิ้นส่วนที่แยกกันมาประกอบซิมบอกซ์ ก็ต้องลงทะเบียนชี้แจงที่มาและการนำเข้า เพื่อนำข้อมูลส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำประวัติ เพื่อนำไปอ้างอิงหาจุดเริ่มต้นของกระบวนการสแกมเมอร์ จากนั้นจะนำมาประกอบข้อมูลจากoperator ซิมการ์ด และธนาคาร

คุมบช.ม้าเปิดได้แค่1-ผิดซ้ำห้ามตลอดชีวิต

ส่วนความคืบหน้าการปราบบัญชีม้า นายไชยชนกกล่าวว่า หลังตรวจสอบแล้วว่าเป็นบัญชีม้าแถว 1 และแถว 2 ผู้ที่มีชื่อจะเปิดบัญชีธนาคารได้อีกแค่ 1 บัญชี เพื่อใช้ครองชีพ ไม่สามารถเปิดบัญชีได้อีกจนกว่าคดีจะจบ กรอบเวลา 3 ปี และหากพบการทำผิดซ้ำในช่วง 3 ปี นายกฯมอบนโยบายว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถเปิดบัญชีได้ตลอดชีวิต โดยนโยบายนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา

นายไชยชนกกล่าวว่า กระบวนการสแกมเมอร์จะเริ่มจากแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยจะให้เอ็ตด้าไปดูเรื่องกระบวนการร่างกฎหมาย อันดับแรกต้องยืนยันตัวตน หากจะทำธุรกรรมซื้อขายออนไลน์ หรือหากโดนรีพอร์ตต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง อีกส่วนจะยกระดับ พรก. ให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ตอบโต้กระบวนการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้มากขึ้น ตอนนี้การจัดทำรก.ใกล้เสร็จแล้ว

หลอกวันละพันคน-สูญ70ล้านบาท

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) และประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์สแกมเมอร์ของประเทศไทยในปัจจุบัน สถานการณ์ Scammer ในประเทศไทยปัจจุบันยังทรงตัว โดยเฉลี่ยมีผู้ตกเป็นเหยื่อวันละ1,000ราย ความเสียหายเฉลี่ย 70ล้านบาท แต่การอายัดหรือระงับบัญชีของผู้เสียหายเพิ่มสูงขึ้น และการนำเงินไปคืนตามโครงการ Money cash back สูงขึ้นโดยเฉพาะตั้งแต่ 1 ตุลาคม ที่นายกฯประกาศให้การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นวาระแห่งชาติ โดยการปราบปรามช่วงที่ผ่านมา เราสามารถนำเงินส่งคืนผู้เสียหายตาม โครงการ money cash back ได้มากกว่า 60 ราย รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 200 ล้านบาท

บิ๊กโจ๊กยื่นกมธ.มั่นคงปมแก๊งพนันออนไลน์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายการพนันออนไลน์และคอลเซนเตอร์ ต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมกล่าวหาว่ามีตำรวจในสังกัดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT 4) ส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้รับหนังสือด้วยตนเองทีอาคารรัฐสภา

ผบ.ตร.ปัดตอบปมบิ๊กโจ๊กแฉ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปฏิเสธตอบคำถาม หลังสื่อพยายามสอบถามกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแฉว่าภายในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นแหล่งอาชญากรรมที่พัวพันสแกมเมอร์ และพนันออนไลน์

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ยกมือขึ้นมาปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก่อนเดินเข้าห้อง เพื่อร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทันที

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top