วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ย้ำดีลปล่อยเชลย
เขมรต้องทำให้ชัด2ใน4ข้อ
‘ถอนอาวุธ-เก็บกู้ระเบิด’
นายกฯไม่ตอบข่าวเตรียมปล่อย 18 เชลยศึกเขมร ก่อนบินเยือนสิงคโปร์ “บิ๊กเล็ก”ปัดข่าวปล่อยเชลย 12 พฤศจิกายน ชี้แค่คาดการณ์ ไม่รู้ข่าวออกมาจากไหน ย้ำเขมรต้องทำตามเงื่อนไข 2 ใน 4 ข้อคือ “ถอนอาวุธ-เปิดทางกู้ระเบิด 5 พื้นที่” ตามที่รับปากให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ค่อยมาพิจารณา ส่วนปราสาทตาควาย เขมรต้องทำทั้ง 5 เงื่อนไข เพิ่มประเด็นทำรั้วให้จบก่อน ค่อยเคลียร์ สำหรับเรื่องเปิดด่านไม่แตะ ย้ำ 5 ข้อตกลงเรียบร้อยค่อยมาว่ากัน ลั่นตราบใดที่ยังเป็นรมว.กลาโหม เรื่องอธิปไตยยึดถือแน่นอน ขณะที่ “สีหศักดิ์”รับจ่อปล่อยตัวเชลย 12 พย. ซึ่งต้องว่าตามเงื่อนไข “ถอนอาวุธ-กู้ระเบิด” รอฝ่ายทหารยืนยันอีกครั้ง ปัดไร้ข้อแลกเปลี่ยน-แรงกดดันจากต่างชาติ ยันไม่เกี่ยวภาษีนำเข้าสินค้าไทย
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6 ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–สิงคโปร์
นายกฯปัดตอบข่าวปล่อย18เชลยเขมร
ก่อนออกเดินทาง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีกระแสข่าวการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชาทั้ง 18 คน แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถาม โดยใช้มือชี้ที่นาฬิกา เพื่อเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ต้องเดินทางแล้ว
ทั้งนี้ นายกฯและคณะมีกำหนดการเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย พิธี VIP Orchid Naming Ceremony ณ Singapore Botanic Gardens พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ พร้อมหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และร่วมพิธีแลกเปลี่ยนความตกลง โดยมีนายกรัฐมนตรีไทยและสิงคโปร์ร่วมเป็นสักขีพยาน และการแถลงข่าวร่วม
ย้ำเขมรต้องทำให้ครบ4ข้อตกลง
ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชา 18 คนว่า เรื่องนี้เป็นผลมาตั้งแต่การประชุมวันที่ 10 กันยายน โดยตกลงเงื่อนไข 4 ข้อคือ 1.ถอนวาวุธหนัก 2.เก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.จัดการสแกมเมอร์ และ4.บริหารจัดการบริเวณชายแดน โดยเราให้เขากลับไปคุยกัน แต่เขาคุยกันไม่สำเร็จ ทำให้ต้องนำกลับมาในที่ประชุมเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งคุยกันเรื่องเดิมอีกและมีความคืบหน้า โดยเห็นว่ารายละเอียดให้ไปตกลงกันในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เช่น การถอนอาวุธหนักจะถอนอย่างไร หรือที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้วจะทำอย่างไร ซึ่งหลังจากที่นายกฯไปลงนามถ้อยแถลง (Joint Declaration) หลังส่วนล่วงหน้าไปคุยกันแล้วกับเขมรและประเทศที่เป็นพยาน โดยมีการระบุว่าเขาอยากให้ปล่อยเชลยศึก เพราะเป็นเรื่องมนุษยธรรมและเก็บไว้ก็ไม่มีอะไร แต่เราได้ต่อรองขอให้ปฏิบัติข้อตกลงทั้ง 4 ข้อให้เป็นรูปธรรมก่อน
ถอนอาวุธ-กู้บึ้มต้องเห็นผลรูปธรรม
“คำว่ารูปธรรมไม่ได้หมายความว่าจบ แค่ให้เห็นสัญญาณว่าเป็นรูปธรรมว่า เขาจริงใจที่จะทำกับเรา ซึ่งหลังจากนายกฯลงนามถ้อยแถลงแล้ว จึงให้ทางกองทัพไปพูดคุยกัน ซึ่งปัจจุบันการติดตามเรื่องนี้นายกฯได้มอบให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเหล่าทัพ รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปคุยกัน โดยให้ตั้งเป็นคณะกรรมการขึ้นมา มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ซึ่งล่าสุดในที่ประชุมดังกล่าวได้ตกลงกันว่า เรื่องการถอนอาวุธหนักและเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราอยากให้เขาทำให้เป็นรูปธรรม โดยทำให้เสร็จในเฟสแรก แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องการปล่อยเชลยศึก ส่วนการเก็บกู้วัตถุระเบิดเดิมเสนอให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด 13 พื้นที่ แต่ในระดับพื้นที่คุยกันต่อรองเหลือ 5 พื้นที่ กัมพูชายอมให้เข้าเก็บกู้ใน 5 พื้นที่ได้ ฉะนั้น 2 เรื่องหลักนี้ทางกัมพูชายอมรับและตอบรับมาแล้ว ฉะนั้นเราจะปฏิบัติตามถ้อยแถลงที่นายกฯได้ลงนามไว้” รมว.กลาโหมกล่าว
ข่าวปล่อยเชลย12พย.แค่คาดการณ์
ส่วนกระแสข่าวปล่อยเชลยศึกวันที่ 12 พฤศจิกายนนั้น รมว.กลาโหมกล่าวว่า เป็นเพียงการคาดการณ์กัน ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยวันที่ 12 พฤศจิกายน เพราะเราต้องมาดูอีกทีว่าเฟส 1 ที่วางไว้สำเร็จหรือไม่เพราะกำหนดไว้ว่าจะจบวันที่ 21 พฤศจิกายน แต่เขมรบอกว่าจะทำให้เสร็จเร็วขึ้น น่าจะอยู่ประมาณวันที่ 10-12 พฤศจิกายน ซึ่งเราแจ้งเขาไปว่า ถ้าเขาทำเสร็จเร็วเราจะปล่อยเชลยศึกเร็ว เราจะดูที่ตัวเงื่อนไขไม่ใช่ดูวันที่
รมว.กกล่าวด้วยว่า ข่าวที่ออกมา ตนไม่ทราบว่าออกมาจากไหน ถ้าวันที่ 12 พฤศจิกายน ถ้าเฟส 1 คือ การถอนจรวดหลายลำกล้องและปืนใหญ่ระยะยิงไกล ถ้าถอนไม่หมด เราก็ไม่ปล่อยเชลยศึก ส่วนการเก็บกู้วัตถุระเบิดถ้า 5 พื้นที่ ที่รับปากไว้ว่าจะเก็บ ถ้าเราเข้าไปเก็บไม่ได้ เราก็ไม่ปล่อย ฉะนั้น ถ้า 2 เรื่องนี้เป็นรูปธรรมก็จะมาดูกันอีกที ส่วนเรื่องสแกมเมอร์ตอนนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้ว มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการ และล่าสุดที่มีผู้เสียชีวิตจากคอลเซ็นเตอร์ เขมรก็ให้ความร่วมมือดีขึ้นมากเป็นรูปธรรม
เคลียร์หนองจาน-หนองหญ้าแก้วตามสเต็ป
รมว.กลาโหมยังกล่าวถึงเรื่องบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้วว่า จะทำไปตามสเต็ป โดยขั้นแรกคือ ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวที่เราจะปักหมุดชั่วคราว ซึ่งเราคาดว่าจะเสร็จวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่จะสามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดแนวนั้นเสร็จ และหลังจากวันที่ 17 พฤศจิกายนแล้ว กรมแผนที่ทหารจะเริ่มไปปักหมุดชั่วคราว ซึ่งการปักหมุดนั้นจะมี 2 แนวคือ แนวที่เรายึดถือและแนวที่กัมพูชาอ้างมา ซึ่งเราตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมว่า ระหว่างสองแนวขอให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี )ว่ากันไป แต่ใต้แนวที่เขาเตรียมมาก็ต้องออกไป ซึ่งเขาก็ยอมรับ นี่คือความเป็นรูปธรรม
ลั่นตราบใดที่ผมอยู่ยึดประโยชน์ปท.
“ผมขอความร่วมมือสื่อช่วยอธิบายสังคมว่า บางทีเราก็ต้องปฏิบัติเหมือนประเทศที่มีวุฒิภาวะ มีอารยะ เพราะผมเคยบอกไปแล้วว่าจากการที่รมว.การต่างประเทศไปแถลงที่องค์การสหประชาชาติ(UN) เราได้รับการปรบมือ แสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้วคือ เราใช้ความเป็นวุฒิภาวะ ฉะนั้น เราต้องแสดงถึงความเป็นประเทศที่มีวุฒิภาวะประเทศอารยะ แต่ยืนยันได้เลยว่า ถ้าตราบใดที่ผมยังอยู่ตรงนี้ เรื่องอธิปไตยเรายึดถือแน่นอน ผลประโยชน์ของประเทศชาติเราต้องยึดถือ แต่เราทำตามขั้นตอน ตามอารยะประเทศที่เขาทำกัน”พล.อ.ณัฐพล กล่าว
ย้ำเขมรต้องทำ5เงื่อนไขก่อนคุยเรื่องตาควาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีปราสาทตาควาย จะดำเนินการอย่างไร รมว.กลาโหมกล่าวว่า ขั้นต้นตนขอทำใน 5 อย่างนี้ก่อน ที่เพิ่มมาเรื่องที่ 5 คือ เรื่องรั้ว ซึ่งจะทำเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเสร็จเรื่องทั้งหมดแล้วจะมาเริ่มเก็บรายละเอียดทั้งปราสาทตาควาย ปราสาทคนา หรือเรื่องทางชำรากทั้งหมด ตนจึงขอความเห็นใจสื่อ เพราะเหตุเกิดสั่งสมมา 15 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 54 ตอนปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาก็รุกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านมา 15 ปีรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะตนในฐานะรมว.กลาโหม กำลังจะแก้รายละเอียดเหล่านี้ ขอให้เวลาตน ถ้าทำเร็วจะไม่เรียบร้อย ยืนยันว่า 5 อย่างนี้จะทำให้เรียบร้อย และถ้าเสร็จ 5 อย่างนี้แล้วจะทำต่อไปเรื่อยๆ และหลังจากนั้นถ้ามีจังหวะจะพิจารณาทำอย่างอื่นคู่ขนานกันไป
ยันยังไม่แตะเรื่องเปิดด่าน-5ข้อจบถึงคุย
เมื่อถามว่าการปล่อยตัวเชลยศึกต้องทำให้ครบทั้ง 5 ข้อหรือเพียงข้อใดข้อหนึ่ง รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตามถ้อยแถลงกำหนดไว้ 4 ข้อ ซึ่ง 2 ข้อเรื่องการถอนอาวุธหนักและเก็บกู้ทุ่นระเบิดเราให้ความสำคัญมาก เราให้หน่วยในพื้นที่คุยกัน โดยคณะผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปตกลงกันไว้ที่ 2 ข้อหลักนี้ ต้องเป็นรูปธรรม แต่ไม่ใช่ว่าข้ออื่นไม่สำคัญ ต้องมีเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกัน ถ้าเราบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดนี้เราจะปล่อย นอกจากนี้ ที่สำคัญยังเหลือมาตรการเปิดด่าน เราจะไม่แตะมาตรการนี้เลย จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ถ้าจะเปิดด่านทั้ง 5 ข้อต้องเรียบร้อย
กต.ปัดปล่อยเชลยไม่เกี่ยวถูกสหรัฐกดดัน
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ว่า ทราบว่าจะมีการปล่อยตัววันที่ 12 พฤศจิกายน แต่ต้องยืนยันกับฝ่ายทหารอีกครั้ง ซึ่งการจะปล่อยตัวเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางการไทยกำหนดไว้คือ การเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก และการเปิดพื้นที่ให้ไทยเข้าไปเก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข ทั้งนี้ ไม่ได้มีข้อแลกเปลี่ยนอะไร และไม่มีแรงกดดันจากต่างชาติ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าไทย นายสีหศักดิ์ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน
แนะรบ.รอบคอบปมปล่อยเชลย
ส่วนพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีข่าวไทยเตรียมปล่อยเชลยเขมรว่า ถ้าพูดถึงเรื่องกัมพูชาอเราต้องไม่ไว้วางใจเอาไว้ก่อน ฉะนั้นการที่เราจะปล่อยตัวเชลยทั้งหมด ต้องให้บรรลุผลตามข้อตกลงที่เราทำไว้ 4 ข้อ ทั้งเรื่องการถอนอาวุธหนัก เรื่องอื่นอีก ต้องให้มีผลครบถ้วนก่อนถึงปล่อยตัว ถ้าเราปล่อยไปโดยที่เขมรยังไม่ได้ดำเนินการหรือทำไม่ครบถ้วน จะทำให้คนไทยรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป เราคงต้องทำอย่างรอบคอบ ให้มีผลก่อน
“การปล่อยตัวเชลยต้องปล่อยอยู่แล้ว แต่เราจะลดอารมณ์ความรู้สึกของคนไทยได้ ต้องให้บรรลุข้อตกลงก่อน เขมรเขาคงไม่จริงใจ แต่เขาคงต้องแสดงการกระทำที่เป็นรูปธรรม อย่างถอนอาวุธหนักก็ไม่ใช่แค่เอารถถังมาวิ่งคันสองคัน แล้วถ่ายรูปลงว่าเคลื่อนย้ายอาวุธกลับไปแล้ว ส่วนนี้ด้านความมั่นคงไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหารก็ต้องตรวจสอบ ยืนยันการข่าวให้ชัดเจน ผมคิดว่าคนไทยเข้าใจ อะไรที่เราต้องเป็นไปตามข้อตกลง ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้ารีบร้อนปล่อยหรือใครมากดดันคงไม่ถูกต้อง ไม่น่าจะให้มีลักษณะนี้เกิดขึ้น” พล.อ.สวัสดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี