วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
กระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าใช้โมเดลประสานความร่วมมือ เชื่อมภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาสังคม ผลักดันระบบการพัฒนากีฬานักเรียนให้เป็นเส้นทางสู่อาชีพอย่างยั่งยืน
ตามที่ปรากฏกระแส "หมอนทองฟีเวอร์" จากการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน รายการ "แชมป์กีฬา 7HD แชมเปียน คัพ 2025" ซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ร่วมกับภาคเอกชน มีโรงเรียนจากทุกสังกัดทั่วประเทศกว่า 500 โรงเรียน ส่งนักเรียนอายุระหว่าง 15-18 ปี เข้าร่วมแข่งขัน โดยรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ณ สนามศุภชลาศัย กรุงเทพมหานคร เป็นการพบกันระหว่าง โรงเรียนหมอนทองวิทยา จังหวัดฉะเชิงเทรา และ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมโรงเรียน อบจ.ชัยนาท เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์ไปครอง ท่ามกลางแรงเชียร์แน่นสนามและความประทับใจของประชาชนทั่วประเทศ
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเห็นพลังของเยาวชน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนความฝันของเด็กไทยอย่างงดงาม จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทั้งประเทศชื่นชม ถือเป็นพลังบวกที่สะท้อนคุณค่าของระบบการศึกษาซึ่งเติบโตได้ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย พร้อมระบุว่าสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการมีแผนการดำเนินการต่อจากนี้ คือ เปลี่ยนพลังการสนับสนุนที่มาจากความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนเชื่อมต่อเป็นระบบสนับสนุนที่ยั่งยืน และเปิดโอกาสให้เด็กไทยทุกคน จากทุกพื้นที่ได้เติบโตเต็มศักยภาพ
โดยที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินโครงการห้องเรียนกีฬา เพื่อพัฒนานักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬาอย่างเป็นระบบ ปัจจุบัน มีโรงเรียนที่จัดให้มีห้องเรียนกีฬา กระจายอยู่ใน 8 จังหวัด 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้รับการสนับสนุนทั้งสนามฝึกซ้อม ที่พักนักเรียน อุปกรณ์กีฬา และงบประมาณสำหรับการแข่งขัน แม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณไม่สามารถดำเนินการให้ครบทุกพื้นที่ได้ แต่โครงการดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญของการสร้างโอกาสอย่างเป็นระบบที่กระจายในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาเด็กไทยให้มีพหุปัญญา สามารถต่อยอดสู่เส้นทางอาชีพด้านกีฬาอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมนำโมเดลการประสานพลังความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโรงเรียนกว่า 7,000 แห่ง ภายใต้โครงการ Connext ED และ โรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) มาปรับใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนด้านกีฬา เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับจังหวัดและเขตพื้นที่ สนับสนุนทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ฝึกสอน และโอกาสการแข่งขันสำหรับนักเรียนในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
"ขอขอบคุณความมุ่งมั่นของครู ชุมชน และเด็กไทย ที่ไม่ยอมให้ข้อจำกัดมาหยุดความฝันของตนเอง หน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการในวันนี้ คือทำให้ความทุ่มเทเช่นนี้ได้รับการต่อยอดเป็นระบบสนับสนุนที่มั่นคง เป็นพลังขับเคลื่อนระบบการศึกษาที่เปิดโอกาสอย่างเท่าเทียมทั่วประเทศ กระแส "หมอนทองฟีเวอร์" คือ พลังของเด็กไทยที่ไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัด กระทรวงศึกษาธิการจะทำให้พลังนี้ไม่จบลงแค่เสียงเชียร์ แต่กลายเป็นระบบที่สร้างโอกาสให้เด็กไทยทุกคน เพราะทุกสนามคือห้องเรียน และทุกโรงเรียนคือพื้นที่แห่งความหวังของประเทศ" ศ.ดร.นฤมล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี