'สุริยะ'ฟ้อง'ไทกร'หมิ่นประมาท กล่าวหาบีบ'อิ๊งค์'พ้นหัวหน้าเพื่อไทย

'สุริยะ'ฟ้อง'ไทกร'หมิ่นประมาท กล่าวหาบีบ'อิ๊งค์'พ้นหัวหน้าเพื่อไทย

วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.38 น.

'สุริยะ'ส่งทนายยื่นฟ้อง'ไทกร'หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหาบีบ'อิ๊งค์'พ้นหัวหน้าเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มอบหมายให้ว่าที่ ร.อ.ปรเมศวร์ สุริยวรรณ เป็นทนายความ ยื่นฟ้อง นายไทกร พลสุวรรณ ต่อศาลอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่นายไทกร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ใส่ความกล่าวหาว่า คนตระกูล “จึง” บีบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย


โดยว่าที่ ร.อ.ปรเมศวร์ ทนายความได้กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2568 นายไทกร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองว่า "ตระกูล “จึง” บีบแพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หากไม่ลาออกจะพา 70 สส. ออกไปอยู่พรรคใหม่" ซึ่งนายสุริยะเห็นว่า ข้อความตามโพสต์ดังกล่าว นายไทกร ต้องการให้หมายถึงตนเอง ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะความจริงแล้ว ตนเองไม่ได้บีบให้ น.ส.แพทองธารลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และไม่มีใครบีบให้ น.ส.แพทองธาร ลาออก แต่เป็นการตัดสินใจของ น.ส.แพทองธารเอง โดยมีการยื่นใบลาออกต่อพรรคอย่างเป็นทางการ การกระทำของนายไทกร  ที่ใส่ความนายสุริยะดังกล่าว ทำให้นายสุริยะเสียหายอย่างมาก ซึ่งนายสุริยะก็ได้ประกาศต่อสื่อมวลชนมาก่อนแล้วว่าจะยื่นฟ้องนายไทกร วันนี้นายสุริยะ จึงได้แต่งตั้งให้ตนเองเป็นทนาย ยื่นฟ้องนายไทกรในวันนี้

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top