วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"ผบ.ฉก.นย.ตราด"ซัด"เขมร" ใช้ยุทธวิธีสร้างข่าวลือกระพือข่าวชั่ว นำ"AOT ปลอม"ลงพื้นที่ พร้อมจุดประทัดใส่ร้ายไทยโยนระเบิดใส่สร้างสถานการณ์
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นาวาเอกธรรมนูญ วรรณนา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) เปิดเผยภายหลังกัมพูชาอ้างว่า นําคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT ลงพื้นที่ แต่ได้ยินเสียงระเบิดจากฝั่งไทย ต้องยกเลิกภารกิจ ว่า ตนอยู่ในพื้นที่ตอนเกิดเหตุ เนื่องจากไปตรวจพื้นที่เพื่อคุ้มกันการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่บ้านชําราก อ.ชําราก จ.ตราด ซึ่งในระหว่างตรวจพื้นที่มีการรวมกลุ่มกันของคนกัมพูชาในพื้นที่เป็นฐานของเขาประมาณ 30 นาย มีการใส่หมวกสีฟ้า จึงนำกล้องส่องทางไกลส่องดู พร้อมใช้โดรนบินเพื่อไทยถ่ายภาพระยะไกล จากนั้นมีเสียงดังเกิดขึ้น
"สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ นำคนมาใส่หมวกสีฟ้า มาร่วมตัวกันที่ฐานปฏิบัติการของเขา แล้วจุดประทัด มีเสียงดัง และไปให้ข่าวว่าทหารไทยโยนระเบิดใส่ ซึ่งหากเป็นคณะ AOT จริง เขาจะเดินมาหาที่แนวของไทย แต่วันนี้อยู่ห่างไกลประมาณ 200 เมตร เพื่อให้เห็นชัด และมีการตัดภาพ นำภาพเก่าของคณะ AOT จริง ลงพื้นที่มาประกอบ ซึ่งหากเป็นคณะ AOT จริง เขาจะเดินเข้ามาเพื่อประสานว่าจะมาขอดูพื้นที่ ซึ่งครั้งก่อนก็มา เขาก็ทําแบบนี้ แต่ครั้งนี้ไม่เข้ามา กัมพูชามีการจัดฉาก นําคนมาปลอมตัวเป็น AOT และก็โยนประทัดใส่เพื่อให้มีเสียงดัง นี่คือยุทธวิธีที่ผู้ก่อการร้ายเขาใช้กัน สร้างข่าวลือกระพือข่าวชั่ว"
ด้าน พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่าตามที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 ว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของกัมพูชา (ASEAN Observer Team: AOT) ได้ยุติภารกิจตรวจสอบการหยุดยิงบริเวณช่องทางผ่านแดนในเขตจังหวัดโพธิสัตว์ ภายหลังได้ยินเสียงคล้ายการใช้อาวุธจากฝ่ายไทยนั้น สำนักงานโฆษกกองทัพเรือขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในระยะที่ 1 ของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (TMAC) ซึ่งปฏิบัติการอยู่ ที่บ้านชำราก ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในเขตอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และเป็นพื้นที่เดียวกับที่ฝ่ายไทยสามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดได้จำนวนมาก รวมทั้งระเบิด PMN-2 ที่มีสภาพใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการลับลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ตราด (ฉก.นย.ตราด) ที่ลาดตระเวนคุ้มกันชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดอยู่นั้น ตรวจพบว่าทหารกัมพูชาหลายนายได้นำคณะ AOT–Cambodia มาปรากฏตัวบริเวณแนวรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยจัดทำไว้ เพื่อป้องกันอันตรายจากทุ่นระเบิดและเพื่อมิให้ฝ่ายกัมพูชาสามารถรบกวนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยได้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา และได้พยายามขอข้ามแนวลวดหนามมา ซึ่งทางฝ่ายไทยไม่อนุญาตให้ทหารกัมพูชานำคณะดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติการได้ของฝ่ายไทยได้
ต่อมาเมื่อวันนี้ (19 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 11.00 น.) ระหว่างที่หน่วย TMAC ของไทยกำลังปฏิบัติงานต่อเนื่อง ได้สังเกตเห็นกลุ่มทหารกัมพูชากำลังสังเกตการณ์อยู่ภายในฐานจอมวย ซึ่งห่างจากแนวรั้วลวดหนามประมาณ 150 เมตร ได้เกิดเสียงดังคล้ายประทัดหรือเสียงไม่ทราบที่มา บริเวณไม่ไกลจากบริเวณนั้น กำลังพลทั้งสองฝ่ายก็ได้หลบและเข้าสู่ที่กำบังตามมาตรการความปลอดภัย ภายหลังตรวจสอบโดยละเอียดของฝ่ายไทยพบว่าไม่มีการใช้อาวุธหรือการปฏิบัติการใดๆ จากฝ่ายไทย โดยเบื้องต้นจากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าเสียงดังกล่าวมีลักษณะคล้ายประทัดมากกว่าเป็นเสียงจากอาวุธปืน ซึ่งอาจเป็นการสร้างสถานการณ์โดยฝ่ายกัมพูชาเอง
กองทัพเรือยืนยันว่าไทยดำเนินการด้านมนุษยธรรมตามมาตรฐานสากล และมุ่งลดปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ชายแดนมาโดยตลอด โดยจะเดินหน้าปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนต่อไป ทั้งนี้ กองทัพเรือยังคงยึดมั่นในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน และพร้อมประสานงานผ่านกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและไม่ให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี