ยกระดับสูงสุด! ‘บิ๊กเล็ก’สั่งยึดกฎใช้กำลัง เขมรกร่างล้ำเส้นยิงทันที

ยกระดับสูงสุด! ‘บิ๊กเล็ก’สั่งยึดกฎใช้กำลัง เขมรกร่างล้ำเส้นยิงทันที

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ยกระดับสูงสุด!
‘บิ๊กเล็ก’สั่งยึดกฎใช้กำลัง
เขมรกร่างล้ำเส้นยิงทันที

“พล.อ.ณัฐพล” ถกสภากลาโหม สั่งยกระดับสูงสุด ป้องกันรุกล้ำอธิปไตย เผยปักหมุดชั่วคราวบ้านหนองจาน เสร็จแน่ กลางเดือนธันวาคม ก่อนเข้าโหมดเจรจาปรับถือครองที่ดิน คนเขมรที่อยู่ใต้เส้นสีแดงกว่า 200 ครอบครัวต้องออกจากพื้นที่ โดยใช้เวทีจีบีซี วางแนวทางปฎิบัติ ผบ.ทสส.ย้ำกฎการใช้กำลัง “เตือนด้วยวาจา – รุกล้ำยิงเตือน – ล้ำมายิงตรง” ด้านทบ.นำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่สระแก้ว ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่กองทัพไทย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2568 โดยมีพลเอกอุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และผบ.เหล่าทัพเข้าร่วม


ปักหมุดเสร็จธค.-200ครัวเขมรต้องย้ายออก

หลังประชุมพลเอกณัฐพลแถลงว่า การแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในห้วงการระงับ การปฏิบัติตามข้อตกลงปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทัพมีเรื่องสำคัญอยู่สองประเด็นคือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนในเขตอธิปไตยของไทย และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเสร็จเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน จากนั้นเป็นการปักหมุดชั่วคราวเริ่มตั้งแต่วันที่19 พฤศจิกายน จะเห็นได้ว่าบริเวณตามแนวชายแดนจะมีเส้นสีน้ำเงินเส้นสีแดง ซึ่งการปักหมุดชั่วคราว จะปักที่เส้นสีแดง ซึ่งใช้เวลา 1 เดือนจะดําเนินการเสร็จกลางเดือนธันวาคม เสร็จแล้วก็จะไปเจรจาการปรับถือครองที่ดิน หมายถึงว่าคนกัมพูชาที่อยู่ใต้เส้นสีแดง ซึ่งมีประมาณกว่า 200 ครอบครัว ต้องออกไปจากพื้นที่ ส่วนวิธีการให้ออกไปต้องเจรจาว่าจะดําเนินการอย่างไร ซึ่งวันที่ 18 พฤศจิกายน คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา (GBC) รับผิดชอบเรื่องนี้

ย้ำพาAOTไปดูกู้ระเบิดสกัดเขมรบิดเบือน

นอกจากนี้ ตนเน้นย้ำกับหน่วยว่าการปฏิบัติ ทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน ให้เชิญคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT เข้าไปร่วมสังเกตการณ์เป็นพยาน เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชาสร้างสถานการณ์ เหมือนที่ผ่านมาแล้วนำไปขยายผลควบคู่ไปกับการดูแลกำลังพลตามแนวชายแดนตามโครงการ น้ำไหลไฟสว่างทางดี มีอินเทอร์เน็ตของรมช.กลาโหม เพิ่งจะดําเนินการใน 8 กองกําลัง แต่เบื้องต้นให้ความสําคัญพื้นที่ด้านตะวันออกก่อน

นายกฯสั่งตั้งกก.นโยบายชายแดน

พลเอกณัฐพลกล่าวต่อว่า เพื่อให้การทํางานเป็นเอกภาพนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกฯและรมว.มหาดไทยสั่งตั้งคณะกรรมการนโยบายความมั่นคงชายแดน ซึ่งจะมีนายกฯรมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศ ปลัดกระทรวง กลาโหม ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการสูงสุดและ ผบ.เหล่าทัพ ผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกรรมการ เพื่อพูดคุยวงเล็ก ในเรื่องเฉพาะความมั่นคงโดยตรง ก่อนนําเรื่องเข้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขณะนี้อยู่ระหว่างยกร่างคําสั่ง ซึ่งในอนาคตหากมีปัญหาข้อขัดข้อง จะหารือกันทันที เพื่อให้การแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น มีลักษณะคล้ายกับศบ.ทก.

มติครม.ให้จีบีซีถกอพยพเขมรกลับปท.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าถ้ากัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงจะไม่มีการประชุมGBC ขัดแย้งกันหรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่า การประชุม GBC มีขึ้นปีละครั้ง แต่การประชุม GBC ที่ผ่านมาเป็นการประชุมวิสามัญ ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ระบุว่าจะไม่คุยด้วยแล้ว แต่การประชุม ครม. ที่ผ่านมามอบหมายให้ที่ประชุมGBC เป็นผู้ดําเนินการ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ขัดกับคําพูดเดิมที่พูดเอาไว้ แต่เมื่อครม.สั่งตนก็ต้องปฏิบัติ

ถามย้ำว่าการประชุม GBC ที่จะมีขึ้นจะกําหนดกรอบเฉพาะเรื่องบ้านหนองจานใช่หรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่า ใช่ หลังปักหมุดชั่วคราวแล้ว ก็ต้องมาหารือว่าจะอพยพคนออกอย่างไร

สั่งยกระดับสูงสุดป้องกันล้ำอธิปไตย

เมื่อถามว่าที่สั่งการให้ที่ประชุมเตรียมพร้อมระดับสูงสุด เพื่อรองรับการรุกล้ําอธิปไตย หลังกัมพูชามีการเพิ่มเติมกําลัง พลเอกณัฐพลกล่าวว่า ตนขอไม่ลงรายละเอียดการปฏิบัติ เพียงแต่หากมีกําลังของฝ่ายกัมพูชาล้ำเส้นปฏิบัติการ ก็ให้ยึดกฎการใช้กําลังได้ทันที

ถามต่อว่ากฎการใช้กําลังถ้าล้ําเส้น ปฏิบัติการสามารถยิงได้ทันทีใช่หรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่า เตือน ด้วยวาจาก่อน หากรุกล้ําเข้ามาอีกก็ยิงเตือน หากล้ำเข้ามาอีกก็ยิงตรง

แค่ประณามต่อเนื่องทำเด็ดขาดไม่ได้

ส่วนกรณีกัมพูชานําตัวเชลยศึกที่ทางการไทยปล่อยตัวไปกลับมาสู้รบนั้น รมว.กลาโหมกล่าวว่า ได้ประสานให้กระทรวงต่างประเทศประณาม ผิดอนุสัญญาเจนีวารวมถึงสัญญาออตตาวา ผิดมาหลายอย่างแล้ว เขาก็ไม่ให้ความสําคัญเรื่องนี้ แต่เราก็ต้องประณามไปเรื่อยๆ ยอมรับว่าไม่สามารถทําอะไรได้อย่างเด็ดขาด แต่การประณามจะทําให้กัมพูชาขาดการยอมรับต่อนานาชาติ ขาดความน่าเชื่อถือ และยืนยันเชลยศึกที่เหลือยังไม่ปล่อยตัว เนื่องจากกัมพูชายังไม่สิ้นสุดความเป็นปรปักษ์

ครม.สั่งสอบคนไทยในเขมรจ่อพากลับปท.

พล.อ.ณัฐพลยังกล่าวถึงแนวทางรัฐบาล ที่จะนําคนไทยในกัมพูชา ซึ่งมีตัวเลขประมาณ 5,000 - 6,000 คนกลับประเทศ หลังมีผู้เสียชีวิตปริศนาว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ และสั่งให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ไปดําเนินการ โดยใช้กลไกกระทรวงต่างประเทศในการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติอาจต้องใช้คณะกรรมการของอีดี ที่เกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์ดําเนินการ เมื่อไหร่ก็ตามหากรัฐบาลหรือ ครม.มอบให้กองทัพหรือกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดําเนินการพร้อมให้การสนับสนุน

ย้ำกู้ระเบิดจนถึงเส้นปฎิบัติการเขตไทย

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เปิดเผยผลการผู้บัญชาการทางทหารโดยยึดผลประชุม 3 ครั้ง ตั้งแต่ยุคพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งอัพเดทกฎการใช้กำลัง การสร้างรั้ว-สร้างทาง เพื่อเตรียมรองรับเหตุที่จะเกิดขึ้น ที่เป็นไปตามกฎการปะทางยุทธวิธี ส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณที่เป็นเส้นปฏิบัติการ ฝ่ายไทยก็จะเข้าไปใช่หรือไม่ แม้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะอ้างสิทธิก็ตาม พล.อ.อุกฤษฎ์กล่าวว่า ก็ต้องมองว่าเราอ้างอะไร บ้านของเรา เขตดินแดนของเรา อธิปไตยของเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่าบริเวณเส้นแดนที่มีการอ้างสิทธิ ที่จะวางหมุดชั่วคราวมีบ้านเรือนเยอะหรือไม่ พล.อ.อุกฤษฎ์กล่าวว่า ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้วมีเยอะ ถามย้ำว่าถึงร้อยหลังหรือไม่ พล.อ.อุกฤษฎ์พยักหน้ารับแทนคำตอบ พร้อมระบุว่าการวางหมุดชั่วคราวจะเริ่ม 2 พื้นที่คือ บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พร้อมกัน

ทบ.นำผช.ทูตทหาร17ปท.ลุยสระแก้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบก (ทบ.) นำคณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยรวม 20 นาย จาก 17 ประเทศ เดินทางลงพื้นที่กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้กิจกรรม Army Open House ของกรมข่าวทหารบก ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยมีพลโทธีรนันท์ นันทขว้าง เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง

ในการลงพื้นที่กองกำลังบูรพา คณะเดินทางไปกองพันทหารราบที่ 12 กรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อรับทราบข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติการ และการดำเนินงานของกองกำลังบูรพา หลังรัฐบาลมีมติระงับข้อตกลงในปฏิญญาร่วม และทางการไทยยืนยันดำเนินการในส่วนของไทย เพื่อความปลอดภัยให้ประชาชน มีพลตรีเบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ให้การต้อนรับ

หลังบรรยายสรุป คณะเดินทางไปเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ซึ่งเป็นด่านชายแดนสำคัญในการควบคุมการสัญจรและการค้าชายแดนฝั่งตะวันออก ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริเวณดังกล่าวสังเกตเห็นอาคาร Entertainment Complex ได้ชัดเจน โดยคณะรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับแหล่ง Scam Center ในฝั่งปอยเปต สถานการณ์และการปราบปรามขบวนการ จากนั้นเดินทางไปบ้านหนองจาน เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และบ้านหนองหญ้าแก้ว ในการจัดการชายแดน และสำรวจสภาพความเสียหายจากการยิงยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาที่ผ่านมา

กิจกรรม Army Open House ครั้งนี้ทำให้คณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และเข้าใจบริบทความซับซ้อนของปัญหาชายแดนระหว่างไทยและเขมร รวมทั้งเห็นถึงความพยายามของฝ่ายไทยในการแก้ปัญหา และสนับสนุนการสร้างสันติภาพตามกรอบข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซึ่งข้อมูลสำคัญดังกล่าวจะทำให้คณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ สามารถสื่อสารขยายผลไปยังประเทศของตนได้อย่างถูกต้อง และทันสถานการณ์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top