ชำแหละ 3 ข้อใหญ่!!! 'อนุทิน'กล้าเกทับพรรคฝ่ายค้าน

ชำแหละ 3 ข้อใหญ่!!! 'อนุทิน'กล้าเกทับพรรคฝ่ายค้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 07.25 น.

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ระบุว่า อนุทิน เกทับพรรคฝ่ายค้าน

ผมเห็นข่าวการให้สัมภาษณ์ทางการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีพอจะจับสัญญาณได้ว่า นายอนุทินต้องการจะส่งสัญญาณทางการเมือง ไปยังพรรคฝ่ายค้านที่มีการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลชุดนี้ โดยการขู่ว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ


นายอนุทินจึงออกมาท้าทาย และพูดถึงความพร้อมของพรรคภูมิใจไทยให้พรรคฝ่ายค้านได้รู้ว่า ถ้ายุบสภาวันนี้ พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมมากที่สุด ส่วนพรรคฝ่ายค้านที่อยากจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีความพร้อมหรือไม่ โดยเห็นจากปรากฏการณ์ที่ออกมาจากการให้สัมภาษณ์ของนายอนุทิน 3 ข้อ คือ

1.นายอนุทินบอกว่า เคยได้ประกาศว่า จะยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569  ส่วนจะก่อนหน้านี้หรือไม่ อยู่ที่การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้าถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 จะชี้แจงดีขนาดไหนก็แพ้โหวตอยู่ดี ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะยุบสภาทันที เพราะอำนาจอยู่ในมือของตัวเอง แต่ถ้าต้องการจะพิสูจน์จะตรวจสอบกัน ต้องการให้รัฐบาลตอบคำถามฝ่ายค้าน ก็ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 152 โดยไม่ต้องลงมติ  รัฐบาลไม่หนีการอภิปรายแน่นอน แต่ถ้าหากว่าญัตติตามมาตรา 151 ก็จะยุบสภาทันที

2.นายอนุทินประกาศความพร้อมทางการเมือง เป็นพรรคการเมืองแรก ที่ประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ 3 คน คือ1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 2.นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส 3.นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ในขณะที่พรรคการเมืองอื่น ยังไม่มีการประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเลย แสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมเลือกตั้งทุกเมื่อ พร้อมแม้กระทั่งคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี

3.นายอนุทินตอบคำถามเรื่อง กรณีดึงบ้านใหญ่และกลุ่มการเมืองสำคัญ เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย อย่างน้อย2จังหวัด คือจังหวัดชลบุรี บ้านใหญ่คุณปลื้ม และจังหวัดสุพรรณบุรี บ้านใหญ่คุณวราวุฒิ ศิลปอาชา ซึ่งนายอนุทินได้ตอบรับว่า ให้รอดูวันอาทิตย์นี้ 

แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ พรรคภูมิใจไทยต้องการจะส่งสัญญาณให้ประชาชนเห็นว่า เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีความพร้อม และพร้อมจะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง และมีความได้เปรียบกว่าพรรคการเมืองอื่นทุกพรรค รวมทั้งเป็นการวัดใจกันว่า ฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 กล้าที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เพราะถ้ายื่นญัตติอภิปรายฯ ก็ถูกรัฐบาลประกาศยุบสภาตอบโต้ทันที พรรคเพื่อไทยพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วหรือยัง ในขณะที่ผู้นำจิตวิญญาณอย่างนายทักษิณ ชินวัตร ถูกกระหน่ำโดยคดีใหญ่2คดี

ในส่วนของพรรคประชาชน แม้ว่าจะแสดงความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ยังลังเลของพรรคประชาชน คือต้องการที่จะให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จด้วย จะต้องชั่งน้ำหนักว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 เสี่ยงหรือคุ้มค่าหรือไม่ กับการแลกญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนต้องการได้ผลงานจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอธิบายกับสังคมว่า พรรคประชาชนไม่ได้โหวตกับนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีแบบฟรีๆ อย่างน้อยก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญติดไม้ติดมือมาด้วย

เพราะฉะนั้นเกมการเมืองจากนี้ไป อยู่ที่3พรรคการเมืองใหญ่ คือพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนว่าพรรคใดจะชิงความได้เปรียบ เดินเกมการเมืองได้เฉียบคม และสามารถคุมเกมการเมืองได้มากกว่ากัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top