วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เปิดชัดๆ ดีเอสไอ ออกหมายเรียก ผู้ต้องหาคดีฮั้วสว. ตั้งปมสงสัย ไม่ระบุวัตถุประสงค์กระทำผิด

เปิดชัดๆ ดีเอสไอ ออกหมายเรียก ผู้ต้องหาคดีฮั้วสว. ตั้งปมสงสัย ไม่ระบุวัตถุประสงค์กระทำผิด

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.44 น.

เปิดชัดๆ! ‘ดีเอสไอ’ ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ‘คดีฮั้ว สว.’ ไม่ระบุวัตถุประสงค์ทำผิด ทั้งที่ก่อนหน้ารับเป็น ‘คดีพิเศษ’ บอกชัดทั้งสาเหตุ - ข้อกม.-ฐานความผิด จับตาการเมืองเปลี่ยนขั้ว-หาทางลง หลัง ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ นัดไต่สวน  ‘ภูมิธรรม - ทวี’ 24ธ.ค.นี้    

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่11พ.ย.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหารายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 ผู้ต้องหา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังสอบสวนพยานประมาณ 1200 คน  โดยมีพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง เป็นผู้กล่าวหา ในคดีฮั้ว สว. 


โดยให้เหตุผลมาสอบสวน ระบุว่า “ร่วมกันเป็นอั้งยี่และเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกติปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมาย เพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ฯลฯ”
 
จึงให้ผู้ต้องหารายนี้  ไปที่กองคดีการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 19  พย. 2568  เพื่อพบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงนามโดยนายเอกรินทร์ ดอนดง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ 

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการออกหมายของดีเอสไอครั้งนี้ เป็นการแจ้งข้อหาโดยไม่ระบุเหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับฐานความผิดหลักเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร อย่างชัดเจนเพื่อที่ให้ผู้ต้องหาชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนได้ถูกต้อง 

แตกต่างจากมติคณะกรรมการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ในสมัยที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ เป็นประธาน  ที่มติรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษและระบุฐานความผิดชัดเจน   ว่าเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547   ส่วนคดีอาญาใดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าว เช่น คดีความผิดฐานอังยี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 รวมทั้งความผิดตามมาตรา 116 และการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา77 วรรคท้าย ย่อมเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคสอง ที่จะทำการสอบสวนต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีมติให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แต่อย่างใด
 
นอกจากนี้ยังมีการคาดว่าสาเหตุที่กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่แจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาดังกล่าวอย่างชัดเจน เพราะอาจเกิดความกังวลและต้องการหาทางลง หลังรับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน นายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่องอดีตรมว.ยุติธรรม ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้หลัง สว. ยื่นให้ตรวจสอบฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)  และ (5) หรือไม่  เนื่องจากใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ  แทรกแซงอำนาจ กกต. ในกระบวนการตรวจสอบการเลือกตั้งวุฒิสภา  และรับเป็นคดีพิเศษใช่หรือไม่  

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top