'รวมพลังแผ่นดิน'ชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซีย จวกยับ 'อันวาร์' ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าอาเซียน และผลประโยชน์ส่วนตัว

'รวมพลังแผ่นดิน'ชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซีย จวกยับ 'อันวาร์' ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าอาเซียน และผลประโยชน์ส่วนตัว

วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.11 น.

22 พ.ย. 68 กลุ่ม"รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย" ได้ชุมนุมพร้อมออกแถลงการณ์ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย โดยแถลงการณ์ ระบุว่า นับตั้งแต่มาเลเซียเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียน เมื่อวันที 1 ม.ค. 68 นายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะผู้นำอาเซียน ได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยแก่ประชาคมอาเซียนและสังคมโลก ด้วยการแต่งตั้ง นายทักษิณ ชินวัตร และนายฮุน เซน เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ไม่มีผู้ใดเข้าใจการตัดสินใจครั้งนี้ และไม่มีใครทราบบทบาทที่แท้จริงของบุคคลทั้งสองในตำแหน่งนี้ต่อผลประโยชน์ของอาเซียน 

ต่อมาเมื่อเกิดการปะทะโดยการเริ่มต้นของกัมพูชาบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 ภายใต้การสั่งการของ นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ การกระทำของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ได้เรียกประชุมเจรจาหยุดยิงอย่างเร่งรีบที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ การริเริ่มของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ครั้งนี้ ดำเนินการไปอย่างไม่รอบคอบและไม่อยู่บนพื้นฐานที่มั่นคง ส่งผลให้การ ปฏิบัติตามข้อเจรจาหยุดยิงล้มเหลว การกระทำของนายอันวาร์ อิบราฮิม จงใจเปิดช่องให้นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดี แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในอาเซียน กระทบต่อความมั่นคงของภูมิภาคโดยตรง 


และได้ทำลายหลักการสำคัญ 2 ประการ ของสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือของ อาเซียน (TAC) ซึ่งประกอบด้วย 1. การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก และ 2. การละเว้นจากการข่มขู่หรือการใช้กำลังในมิติระหว่างประเทศ การกระทำของนายอันวาร์ อิบราฮิม ยังเป็นการคุกคามแนวคิดของอาเซียน ในฐานะกลไกป้องกันความขัดแย้งและแก้ไขปัญหาอย่างสันติตลอดจนเจตนารมณ์ดั้งเดิมเรื่องความเป็นกลาง โดยประเทศไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นหุ้น ส่วนด้าน 1 ความมั่นคงของสหรัฐและจีน หากอาเซียนไม่สามารถไกล่เกลี่ยความขัดแย้งผ่านกลไกภูมิภาคของตนเองได้ การแทรกแซงจากมหาอำนาจย่อมเสี่ยงทำให้อาเซียนถูกกันออกจากกระบวนการ นายอันวาร์ อิบราฮิม ได้อ้างหลักการแก้ไขข้อพิพาท ตามแนวทาง "วิถีอาเซียน" คือ การเจรจาผ่านกลไกภูมิภาค แต่ความคับแคบทางความคิดของ นายอันวาร์ อิบราฮิม กลับทำให้การไกล่เกลี่ย เพื่อสันติภาพล้มเหลวอย่างประจักษ์ชัดประการแรก การเจรจาหยุดยิงครั้งแรกที่กัวลาลัมเปอร์ นำไปสู่การประกาศ "ข้อตกลง สันติภาพกัวลาลัมเปอร์" เป็นการกระทำที่มุ่งสร้างภาพและขยายอิทธิพลทางการเมืองของ นายอันวาร์ อิบราฮิม

ขณะเดียวกันก็แสดงตัวเป็นผู้รับใช้ นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ อย่างไร้เกียรติศักดิ์ศรีในฐานะผู้นำอาเซียน ขัดต่อจุดยืนของประชาชนมาเลเซียที่ต่อต้านการรุกรานฆ่าล้างเผ่าพันธุ ์ชาวปาเลสไตน์ ภายใต้การสนับสนุนของนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ทั้งข้อตกลงดังกล่าวขาดองค์ประกอบสำคัญหลาย ประการของการหยุดยิงอย่างยั่งยืน เช่น เงื่อนไขการอ้างอิงเพื่อป้องกันการใช้กำลังรุนแรง การจัดตั้ง กลไกตรวจสอบ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของความช่วยเหลือทางการทูต เพื่อคลี่คลายเจตจำนงทางการเมืองของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหา แต่นายอันวาร์ อิบราฮิม กลับให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์มากกว่าการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ประการที่สอง หลังจากนั้น นายอันวาร์ อิบราฮิม ยังเชิญอำนาจภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้แนวทาง "วิถีอาเซียน" ในการบริหารจัดการข้อพิพาทภายในภูมิภาคไร้ความหมาย การกระทำ และวาระของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ที่มุ่งหวังผลประโยชน์ระยะสั้น

ด้านภาษีศุลกากรกับสหรัฐล้วนเกิดขึ้นโดยแลกกับความเป็นเจ้าของกลไกภูมิภาคของอาเซียน ผลประโยชน์ของ นายอันวาร์ อิบราฮิม คือ การสูญเสียของอาเซียนและการสูญเสียอำนาจอธิปไตยเขตแดนของไทย การกระทำของ นายอันวาร์ อิบราฮิม จึงเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าอาเซียนโดยตรง

นอกจากนี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนใต้ของไทยมาโดยตลอด ทุกครั้งที่การเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบ นายอันวาร์ อิบราฮิม จงใจส่งตัวแทนที่ 2 ไม่มีอำนาจสั่งหยุดยิงมาเจรจากับไทย ทั้งที่ทราบดีว่าใครเป็นผู้สั่งการตัวจริง และยังมีการเปลี่ยนผู้เจรจาอยู่เสมอ ทั้งเมื่อการเจรจามีความคืบหน้า นายอันวาร์ อิบราฮิม ก็จะปรับกระบวนการให้ไป เริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม มีส่วนสำคัญในการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย

"ในฐานะประชาชนคนไทย เรายืนยันอย่างหนักแน่นว่า มาเลเซียคือประเทศเพื่อนบ้านที่มีความผูกพันใกล้ชิด รวมทั้งเราไม่มีปัญหาใด ๆ กับประชาชนชาวมาเลเซีย แต่เราต่อต้านพฤติกรรมของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะผู้นำอาเซียน ที่ใช้เวทีอาเซียนเป็นเวทีส่วนตัวเพื่อประโยชน์ทางการเมืองภายในของตนเอง มากกว่าผลประโยชน์ของอาเซียนโดยรวม ดังนั ้น ในฐานะประชาชนคนไทย จึงขอประณามการกระทำของ นายอันวาร์ อิบราฮิม ใน ฐานะผู้นำอาเซียนที่แทรกแซงกิจการภายในของไทย ส่งผลให้ไทยสูญเสียอำนาจอธิปไตยเขตแดน และเปิดช่องให้ นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แทรกแซงอำนาจอธิปไตยไทยและความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียน  

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top