‘นิกร’ยัน‘ชาติไทยพัฒนา’ยังเดินต่อ ดึง‘กัญจนา’นั่งหัวหน้าแทน‘วราวุธ’ เปิด 4 ข้อย้ายซบ‘ภูมิใจไทย’

‘นิกร’ยัน‘ชาติไทยพัฒนา’ยังเดินต่อ ดึง‘กัญจนา’นั่งหัวหน้าแทน‘วราวุธ’ เปิด 4 ข้อย้ายซบ‘ภูมิใจไทย’

วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.34 น.

‘นิกร’ยัน‘ชาติไทยพัฒนา’ยังเดินต่อ ดึง‘กัญจนา’นั่งหัวหน้าแทน‘วราวุธ’ เปิด 4 ข้อย้ายซบ‘ภูมิใจไทย’

23 พฤศจิกายน 2568 นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เปิดแถลงข่าวถึงทิศทางอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ชี้แจงข้อเท็จจริงและทิศทางในอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยปรากฏการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การยุบพรรค หรือ การล่มสลายของพรรคชาติไทยพัฒนา แต่เป็นการ “ปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่” เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับพี่น้องประชาชน


“ยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะยังคงดำรงสถานะความเป็นพรรคการเมืองและสถาบันทางการเมืองสืบต่อไป โดยทางพรรคเตรียมเสนอชื่อ นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค ให้หวนกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการรักษาบ้านหลังเดิมที่นายบรรหาร ศิลปอาชา และสมาชิกอาวุโสในอดีตได้สร้างไว้ ให้ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาและประชาชนทั่วไปที่ยังศรัทธาอยู่” นายนิกร กล่าว

สำหรับเหตุผลและความจำเป็นสำคัญที่คณะ สส. ต้องตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย โดยจำแนกเป็นประเด็นหลัก 4 ประการ ดังนี้

1.การก้าวข้ามข้อจำกัดของพรรคขนาดเล็ก

ที่ผ่านมา การดำเนินงานในฐานะพรรคขนาดเล็กถึงขนาดกลางต้องเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างมหาศาล โดยเฉพาะกติกาการเลือกตั้งและการคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ (บัญชีรายชื่อ) ที่ทำให้พรรคเสียเปรียบและยากที่จะรวบรวมเสียงให้ได้จำนวน สส. ที่มากพอจะเป็นพลังหลักในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านนิติบัญญัติ เพราะการที่รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้การเสนอญัตติเสนอร่างกฎหมายเพื่อประชาชนในนามพรรคต้องมี สส. ไม่น้อยกว่า 20 คนลงนาม ซึ่งที่ผ่านมาพรรคมีจำนวนไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถเสนอกฎหมายใดๆได้เอง ต้องคอยขอเสียงจากพรรคอื่นในการเสนอกฎหมาย

2.อุปสรรคทางด้านการทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชน

โดยปัญหาที่สำคัญที่สุดของคนทำงานทางการเมือง คือ การเห็นประชาชนเดือดร้อนแต่ไร้อำนาจจะช่วยเหลือ และยิ่งไปกว่านั้น ในยามวิกฤตที่พี่น้องประชาชนประสบภัยพิบัติ น้ำท่วม หรือราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เสียงของพรรคเล็กมักไม่ดังพอที่จะเร่งรัดมาตรการเยียวยาหรือจัดงบประมาณเข้าแก้ไขได้อย่างทันท่วงที การไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นพรรคใหญ่ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้จริงได้ทันการณ์เป็นรูปธรรม

3.อุดมการณ์ร่วมในการปกป้องสถาบันหลักของชาติและปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทย คือ จุดยืนที่ตรงกันกับพรรคชาติไทยพัฒนาอย่างแน่วแน่ในการ “เทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” การผนึกกำลังกันครั้งนี้ จะทำให้กำแพงแห่งความจงรักภักดีมีความเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อธำรงไว้ซึ่งศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ

4.การร่วมสร้างภารกิจประวัติศาสตร์ คือ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อดีตหัวหน้าพรรค นายบรรหาร ศิลปอาชา เคยสร้างตำนาน “รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540” ซึ่งเป็นฉบับที่มาจากประชาชนมากที่สุด การย้ายไปร่วมงานครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการขอการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทยที่มีฐานเสียงในสภาจำนวนมาก เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิด“รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”ฉบับใหม่ให้สำเร็จ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้โดยลำพังอย่างแน่นอน

นายนิกร ระบุว่า การไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เปรียบเสมือนการกลับไปพบปะคนกันเอง เพราะในพรรคภูมิใจไทยเต็มไปด้วยอดีตสมาชิกพรรคชาติไทยดั้งเดิมหลายท่าน ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและทำงานการเมืองเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ความสัมพันธ์แบบ “รู้มือ รู้ใจ” นี้ จะทำให้การเชื่อมต่อนโยบายและการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาปรับตัว

“วันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ เราตัดสินใจให้ขุนพลของพรรคออกไปสู่สมรภูมิที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้มีเครื่องมือทางการเมืองครบมือ ในการทำงานรับใช้ประชาชน ในขณะที่เรายังคงรักษา ‘ค่ายเดิม’ หรือพรรคชาติไทยพัฒนาไว้ด้วยความรักและศรัทธา ภายใต้การนำของคุณกัญจนา ศิลปอาชา ซึ่งได้รับการตอบยืนยันมาแล้ว ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในบริบทใด จิตวิญญาณความเป็นพรรคชาติไทยดั้งเดิม และความตั้งใจจริงในการพัฒนาประเทศจะยังคงเข้มข้น และดำรงอยู่เพื่อสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และพี่น้องคนไทยตลอดไป” นายนิกร กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top