นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุกสร้างความปลอดภัยสตรี

นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุกสร้างความปลอดภัยสตรี

วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.28 น.

นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุกสร้างความปลอดภัยสตรี รับบทบาทผู้หญิงเป็นพลังสำคัญของปท.

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพ็ค ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานในงาน Kick off มอบนโยบายการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการยุติความรุนแรงต่อสตรีในระดับพื้นที่ โดยมี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายกฯ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย ข้าราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


โดยนายกฯ กล่าวว่า เรามาประชุมกันในวันนี้ด้วยภารกิจที่สำคัญยิ่งคือภารกิจ คือการปกป้องประชากรเพศหญิงซึ่งมีจำนวน ซึ่งมีจำนวนเกินครึ่งหนึ่งของประชากร มากกว่าประชากรผู้ชายประมาณ 1.6 ล้านคน แปลว่าผู้หญิงเป็นพลังสำคัญยิ่งของประเทศ ทางด้านสังคมและเศรษฐกิจมีบทบาทมากมายที่เคียงคู่กับผู้ชายและบทบาทเหล่านั้นบางทีผู้ชายก็ทำได้ไม่ดีเท่ากับผู้หญิง เราต้องดูแลและส่งเสริมให้พวกเขาใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ ถ้าเราปล่อยให้ผู้หญิงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยหรือเจอกับความรุนแรงไม่ว่ารูปแบบใดเท่ากับว่าเรากำลังลดทอนศักยภาพของประเทศไทยในส่วนของนโยบาย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราคุยกันถึงเรื่องการป้องกันและการเยียวยามามาก แต่ในปีนี้รัฐบาลต้องการให้เกิดผลอย่างจริงจังในพื้นที่ ตนจึงได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนงานยุติความรุนแรงต่อสตรี เพราะเราเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล ไปจนถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน และเครือข่ายในชุมชน เราต้องการทำงานแบบป้องกันเชิงรุก สร้างความตระหนักรู้ในพื้นที่สนับสนุนโรงเรียน ครอบครัวและผู้นำชุมชนให้รู้จักสัญญาณความเสี่ยง และช่วยยับยั้งเหตุรุนแรงก่อนจะเกิดเหตุขึ้นจริง ทำให้ทุกชุมชนเป็นพื้นที่ที่ผู้หญิงและเด็กรู้สึกปลอดภัย

นายกฯ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่ตนขอเน้นย้ำคือการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังจังหวัดและอำเภอ ซึ่งได้ขอให้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ใช้ข้อมูลร่วมกันเพื่อให้การช่วยเหลือผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นการรักษาการแจ้งเหตุ การคุ้มครองให้ทำได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่องและมีหลายช่องทางที่ปลอดภัยทั้งสายด่วน ผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือภาคประชาสังคม ข้อมูลที่เป็นหัวใจสำคัญในการช่วยเหลือขอให้ทุกฝ่ายไม่นิ่งดูดาย และประสานงานให้ไร้รอยต่อสิ่งที่ตนอยากขอบคุณเป็นพิเศษ คือภาคประชาสังคมทุกองค์กรที่ทำงานอยู่หน้างานมาโดยตลอดหลายครั้งองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรแรกที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเติมเต็มงานของรัฐ  รัฐบาลมองเห็นคุณค่าและบทบาทนี้และเราจะทำงานร่วมกันต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งกระทรวงต่างๆท้องถิ่น เอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ เพื่อให้สตรีทุกคนมีความปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองเยียวยาอย่างเหมาะสมที่สุด ตนจึงขอฝากภารกิจสำคัญนี้ไว้กับทุกท่านด้วย

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top