วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘อนุทิน’ประกาศ‘พรก.ฉุกเฉิน’แก้น้ำท่วมใต้ มอบอำนาจ‘ผบ.ทสส.’บัญชาเหตุการณ์ ยันไม่ซ้ำซ้อน‘ธรรมนัส ผอ.ศนภ.’ ลั่นรัฐบาลทำงานไม่ช้า เร่งแก้ปัญหาประชาชน บอกจะดูภาพรวมที่วอร์รูมทำเนียบฯไม่ลงพื้นที่ซ้ำ เพราะลง2รอบเห็นภาพชัด
เมื่อเวลา 12.55 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ น้ำท่วมภาคใต้ว่าวันนี้เราจะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดสงขลา และได้มอบให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ คือการบูรณาการความช่วยเหลือทั้งหมดในการสั่งการในการอนุมัติ และในการคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานทุกอย่างมีความเบ็ดเสร็จอยู่ในนั้น
เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่บางจุดการช่วยเหลือเข้าไม่ถึงประชาชนไม่รู้จะร้องขอความช่วยเหลืออย่างไรนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ที่พื้นที่ มีทุกหน่วยงานระดมความช่วยเหลือประชาชนอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว และเรากำลังกระจายคนเข้าไปรับพี่น้องประชาชนในทุกที่ตอนนี้โดยร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม โดยร.อ.ธรรมนัส และพล.อ.ณัฐพล อยู่ในพื้นที่แล้ว ส่วนนายพิพัฒน์กำลังเดินทางลงพื้นที่
เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องต้องการพื้นที่ดูเลยหรือไม่นายกฯ กล่าวว่า อยู่ในการปฏิบัติ ซึ่งเขากำลังทำหน้าที่อยู่
เมื่อถามย้ำว่าในเรื่องของกรมอุตุนิยมวิทยามีอะไรต้องแจ้งเตือนหรือไม่ เพราะปริมาณน้ำขึ้นสูง นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้เราก็ต้องไปบริหารสถานการณ์เรื่องการระบายน้ำ ทำหลายอย่างควบคู่กันไปและเรื่องของอาหาร เรื่องของวัสดุในการดำรงชีพทุกอย่างตอนนี้มีความพร้อมหมด ทางเหล่าทัพได้จัดเตรียมยานพาหนะต่างๆทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือและรถระดมกันลงไปช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่เกิดเหตุ
เมื่อถามอีกว่าความล่าช้าก่อนหน้านี้เป็นเพราะอะไรนายกฯกล่าวว่า ไม่ได้ล่าช้า แต่ในการปฏิบัติมันไม่ได้ล่าช้า
เมื่อถามต่อว่ามันติดขัดเรื่องอะไร นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้ติดขัดทำงานกันอย่างเต็มที่ ในช่วงที่มันเกิดเหตุใหม่ๆทุกคนต้องกระจายกำลัง กระจายทรัพยากรกระจายกำลังพลลงไปช่วยเหลือชีวิต ความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรกก่อน ตอนนี้เมื่อเราทราบปัญหาหลายเรื่องแล้ว เราถึงมาเร่งจัดตั้งกองบัญชาการทั้งส่วนหน้า ส่วนสนับสนุนและใช้สถานการณ์ฉุกเฉินใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)สถานการณ์ฉุกเฉินในการกำกับดูแล
เมื่อถามอีกว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลตั้งวอร์รูมศูนย์เผชิญเหตุค่อนข้างช้า นายกฯย้อนถามว่าใคร รัฐบาลไม่ได้ช้า แล้วแต่เขา คนทำงานไม่ได้ช้า
เมื่อถามต่อว่าความรู้สึกของประชาชน ณ ขณะนี้ อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ นายกฯ กล่าวว่า ช่วยเหลือเต็มที่ ตอนนี้ทุกอย่างที่ช่วยเหลือประชาชนระดมลงไปอย่างเต็มที่ งบประมาณทรัพยากรและการสนับสนุน จากทุกองค์กรที่รัฐบาลกำลังดูแลอยู่รวมถึงความร่วมมือที่เราได้จากทางองค์กรต่างๆภาคเอกชนเราสนับสนุนลงไปเต็มที่
เมื่อถามว่าสถานการณ์ใน 3 โรงพยาบาลถือว่าวิกฤติแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำงานร่วมกัน เพราะน้ำทำลายวงจรไฟฟ้าต่างๆ แต่เรามีรถปั่นไฟ ทั้งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เข้าไปสแตนบายรออยู่ และระดมคนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ในภาคส่วนอื่นๆลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างไฟ ให้มีความมั่นใจว่าในสถานที่ที่ต้องดูแลผู้ป่วยจะต้องมีไฟฟ้าโหลดไว้อยู่ตลอดเวลาและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะต้องวางแผน โดยทางแพทย์บอกว่าผู้ป่วยไอซียูไม่ใช่จะเคลื่อนย้ายกันง่ายๆ ฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะทำให้ มีสาธารณูปโภคที่ใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา เราก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย
เมื่อถามด้วยว่าทางหน่วยงานมีข้อมูลที่จะเข้าไปช่วยอพยพประชาชน แต่ละพื้นที่มีกี่จุดและยังมีประชาชนตกค้างจำนวนเท่าไหร่ นายกฯกล่าวว่า ในรายละเอียดจะให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลง มันมีหลายหน่วยงาน หลายภารกิจ เดี๋ยวจะตั้งเป็นคณะโฆษกที่จะแถลงเหตุการณ์ในแต่ละวันเหมือนสมัยที่เราทำช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทุกวันกำลังดำเนินการอยู่ โดยวอร์รูมจะเซ็ตไว้ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ใช่วอร์รูมเป็นศูนย์ปฏิบัติการที่เราจะเชื่อมต่อกับทางหน่วยงานส่วนหน้า โดยหน่วยงานต่างๆได้ลงไปจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติงานแล้ว แต่คนที่จะรวบรวมการดำเนินงานทั้งหมดคือผู้อำนวยการสถานการณ์
เมื่อถามต่อว่าตอนนี้รัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ใช่หรือไม่ ไม่มีอะไรเกินมือใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราก็ควบคุมสถานการณ์ และไม่ใช่แค่ควบคุมอย่างเดียว แต่ดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ องคาพยพทั้งหลายก็ระดมไปอยู่ในพื้นที่หมดแล้ว
เมื่อถามอีกว่ารัฐบาลจะบอกแผนให้ประชาชนรับทราบได้หรือไม่ว่าตรงไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย นายกฯ กล่าวว่า หน้างานเขาจะต้องไปดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างที่สุดเราตอนนี้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)อยู่ในพื้นที่และตอนนี้ยกระดับขึ้นมาเป็นระดับภัยระดับที่ 4 ซึ่งตรงนี้เท่ากับว่าปภ.ซึ่งตนจะมอบหมายปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพราะ ความจริงจะต้องเป็นรมว.มหาดไทย แต่รมว.มหาดไทย บัญชาการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว จึงให้ปลัดให้กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ในด้านงานของกระทรวงมหาดไทยที่สามารถขอความร่วมมือหรือสั่งการข้ามหน่วยได้
เมื่อถามต่อว่ามีเดทไลน์หรือไม่ว่าจะต้องเอาคนออกมาให้หมดภายในวันไหม นายกฯกล่าวว่า เดตไลน์ ไม่มีหรอก เราต้องพยามเอาคนออกมาจากบ้านเรือ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สถานการณ์หากที่คลายลง ต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟูดูแลและทำให้เขาเกิดความมั่นใจว่าในช่วงที่เขากำลังกลับเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเรือนของเขาต้องมีเครื่องยังชีพให้เขาด้วย
เมื่อถามว่าในหลวงทรงมีพระราชกระแสห่วงเรื่องการอพยพคน นายกฯ กล่าวว่า ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งมาและได้พระราชทานสิ่งของเครื่องใช้ให้ไปดูแลด้วย ส่วนในเรื่องของการระดมสรรพกำลังต่างๆ พาหนะ เครื่องมือต่างๆตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่เราได้เร่งดำเนินการไปแล้ว
เมื่อถามต่อว่าต้องกำหนดกรอบให้สั้นลงหรือไม่ในการช่วยเหลือประชาชน นายกฯ กล่าวว่าทุกอย่างต้องทำแข่งกับเวลาอยู่แล้ว ส่วนได้ประเมินสถานการณ์น้ำ และมีข้อเรื่องปริมาณฝนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีตลอด สถานการณ์ตอนนี้ที่นั่นก็รอการระบายน้ำออกไปให้เร็วที่สุด ถ้าไม่มีฝนเติมมา และฝนวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน ฉะนั้นถ้าไม่มีฝนเติมเข้ามาและไม่มีน้ำไหลมาจากที่อื่น เพราะอำเภอหาดใหญ่เป็นแอ่งกระทะ มันก็จะค่อยๆระบายมวลน้ำที่อยู่ในเมืองออกไปได้ เมื่อถึงระดับที่เราเข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยไม่มีอุปสรรคใดๆแล้ว เราก็ระดมเรื่องการช่วยเหลือเข้าไปอย่างเต็มที่
เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้ปริมาณน้ำจะลดลงใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ถ้าไม่มีฝนเติมเข้ามาและตอนที่ไปลงพื้นที่เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกว่าฝนจะหยุดแล้วเป็นช่วงฝนท้ายๆ แต่มันก็กลับมาอีก ตรงนี้เขาเรียกพยากรณ์อากาศ ตอนนี้เราเน้นเรื่องการรับมือให้การช่วยเหลือประชาชนและเป้าหมายตอนนี้ การช่วยเหลือ ช่วยชีวิตและสร้างความปลอดภัย ให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยให้มากที่สุดก่อน
เมื่อถามว่านายกฯจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ตนคิดว่าจะติดตามอยู่ที่นี่ เพราะมีบุคลากรเพราะมีบุคลากรที่อยู่หน้างานสั่งการและมีอำนาจโดยตรงอยู่ในพื้นที่เต็มแล้ว ที่ตนลงไปในพื้นที่ 2 วันแรกเพื่อจะได้เห็นสภาพ ซึ่งเวลามารับฟังรายงาน พอเห็นภาพก็มอบหมายงานสั่งงานได้คล่องตัวขึ้น ตอนนี้ภาพ 2 วัน ที่ตนได้ลงพื้นที่ไปอยู่ตรงนั้น ก็พอเห็นสภาพความเสียหาย ทำให้สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น
เมื่อถามย้ำว่าตกลงคนที่มีอำนาจตัดสินใจในพื้นที่ในพื้นที่เป็นของผบ.ทสส.หรือร.อ.ธรรมนัส นายกฯ กล่างว่า ร.อ.ธรรมนัส ถ้าเขาไปเจอหน้างาน อย่างเช่น ถ้าผ่านไปโรงพยาบาล สมมุติว่าเกิดเหตุการณ์ไฟดับ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงท่าน ท่านก็สามารถสั่งการได้เลย เพราะท่านทำในฐานะรัฐบาลคือนายกฯเป็นคนสั่งการ ตนบอกแล้วรัฐมนตรีทุกคนสั่งการเปรียบเสมือนนายกฯสั่งการก็ช่วยกันสั่งการไปไม่ใช่อำนาจอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งทุกคนอยู่หน้างานสามารถสั่งการได้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป้าหมายคือความปลอดภัยของประชาชน ส่วนผบ.ทสส. ทำหน้าที่บูรณาการทั้งหมด และย้ำว่าอำนาจไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน ตอนนี้เมื่อทุกคนกระจายความช่วยเหลือไปหมดแล้ว เดี๋ยวเค้าจะมารายงานสถานการณ์ความเป็นไปต่างๆ ซึ่งผบ.ทสส.ในฐานะผู้อำนวยการสถานการณ์ ก็จะรวบรวมสถานการณ์ทั้งหมดและจัดหน่วยงานความรับผิดชอบไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลกับ ผบ.ทสส.เป็นคนเดียวกัน และบูรณาการการทำงานร่วมกันภายใต้กฎหมาย
เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัสเป็น ผู้อำนวยการ แต่กลับไม่มีแผนบริหารจัดการ และการประชุมแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ทำไมไม่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยจังหวัดสงขลา แต่ไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายกฯ กล่าวว่า “ คุณพูดอย่างนี้ได้อย่างไรเขาลงไปคนแรกเลย ลงไปถึงก่อนผมอีก ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย ร.อ.ธรรมนัสลงไปพร้อมกับอธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมชลประทานยังอยู่ในพื้นที่ เพื่อบัญชาการเรื่องการระบายน้ำ ขณะนี้ยังไม่ได้กลับ และช่วงที่ตนลงพื้นที่ก็ได้หารือกับอธิบดีกรมชลประทาน และ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ร.อ.ธรรมนัส พยายาม ลงพื้นที่แต่ฟ้าปิด ทำให้เครื่องไม่สามารถลงได้ และท่านบอกกับตนว่าจะรีบลงไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี