วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รัฐบาลระดมช่วยเหลือทุกมิติ
ลุยฟื้นฟูหาดใหญ่
‘อนุทิน’หอบทีมศก.ลงพื้นที่
ปล่อยกู้1แสนปลอดดอกเบี้ย
เคลียร์ขยะ-คืนน้ำไฟ-เนต
ปภ.ชี้ใต้เดือดร้อน2.9ล้านคน
นายกฯ หอบทีมเศรษฐกิจบินหาดใหญ่ครั้งที่ 5 ลุยฟื้นฟูหลังน้ำลด “นายกแป้น” โผล่รับร่วมคณะก่อนขึ้นรถยกสูงเข้าพื้นที่-ลงเดินแจกอาหาร-ยารักษาโรคถึงหน้าบ้าน พร้อมให้กำลังใจ ย้ำอย่าลืมลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 9 พัน ศป.กฉ.บูรณาการทุกภาคส่วนระดมความช่วยเหลือลงพื้นที่หาดใหญ่ ฟื้นฟูทุกมิติ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ไฟฟ้า–น้ำประปา–สื่อสาร กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด พร้อมกระจายความช่วยเหลือสู่ผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง เตรียมสายด่วน 1584 1599และ191 รองรับประชาชนสอบถาม “รถที่ถูกเคลื่อนย้าย” ปภ.รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย9จังหวัดภาคใต้ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ปภ.เร่งช่วยเหลือบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ยังคงระดมกำลังแจกถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 30พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และอธิบดีกรมธนารักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผู้บริหารธนาคารออมสิน ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และรักษาการเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังกองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เป็นการเดินทางลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาของนายกฯ เป็นครั้งที่ 5
นายกฯนำทีมศก.ถกฟื้นฟูหาดใหญ่
เวลา 14.36 น.นายกฯพร้อมคณะ เดินทางถึงกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา มีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายณรงค์พร ณ พัทลุง (นายกฯแป้น) นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลารอต้อนรับ จากนั้นนายกฯ เดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนั่งรถยกสูงของทหารเข้าไปในตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อสำรวจความเสียหาย ช่วงที่ประชาชนเข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนในตัวเมืองหาดใหญ่ เต็มไปด้วยขยะ เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของที่เสียหาย เพื่อให้เทศบาลนครหาดใหญ่ เก็บเพื่อนำไปทำลาย
แจกอาหารยาน้ำดื่มคนทำความสะอาดบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั่งบนรถยกสูง นายกฯ ได้มีการพูดคุยกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายนิพนธ์ ที่ติดตามร่วมคณะมาด้วย ถึงการทำความสะอาดบ้านเรื่องของประชาชน และการให้ความช่วยเหลือในการดำรงชีพ ซึ่งนายนิพนธ์ บอกกับนายกฯว่า ชาวบ้านต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาแก๊ส เพื่อประกอบอาหารเอง
จากนั้นเวลา 15.20 น.นายกฯไปที่หน้าวัดโคกสมานคุณ และเดินนำอาหาร น้ำดื่ม และยาไปแจกให้ประชาชนที่ออกมาทำความสะอาดบ้านระหว่างนั้น นายกฯ ได้เดินเข้าไปสำรวจความเสียหายในบ้านของประชาชน พร้อมสอบถามถึงความเสียหาย พร้อมทั้งให้กำลังใจ และบอกถึงมาตรการเงินกู้ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0 % 6 เดือน - 1 ปี พร้อมกันนี้นายกฯได้สอบถามประชาชนทุกคนที่ขับรถผ่านว่า “ทานข้าวแล้วหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกนายกฯว่า ให้เร่งอนุมัติเงินเยียวยา 9,000 บาท เร็ว ๆ หน่อย ซึ่งนายกฯ ได้ตอบสั้นๆ ว่า สัปดาห์หน้า พร้อมให้ไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และจะมีเงินกู้ดอกเบี้ย 0 % ด้วยโดยตลอดเส้นทางรถยกสูงของนายกฯได้จอดเพื่อแจกอาหารและน้ำดื่มประชาชนตลอดทาง โดยช่วงหนึ่งได้มีชาวบ้านที่บ้านหลังหนึ่ง ตะโกนว่า “นายกฯมาไม่ต้องกินข้าวแล้วอิ่มแล้ว“
น้ำต่ำกว่าตลิ่ง4ม.-ปรับภารกิจเน้นฟื้นฟู
ส่วนที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.)ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ครั้งที่ 5/2568 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในเวลา 09.00 น.
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลหารือว่าพลเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ผู้แทน ศป.กฉ.ส่วนหน้าได้รายงานการฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนหลังภัยพิบัติ ว่า ฝนตกมีปริมาณน้อยลงและปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3-4 เมตร หากมีฝนตกสามารถระบายออกได้ ขณะนี้ส่วนหน้าได้ปรับภารกิจจากการกู้ภัยเป็น “การฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชน” โดยภายใน 48 ชั่วโมงย้อนหลังได้นำระบบ Jitasa.careมาช่วยตรวจสอบ (double check) พบว่าได้ช่วยเหลือประชาชนไปแล้วกว่า 1.8 หมื่นราย แม้ว่าน้ำลดลงแล้ว ยังแจกอาหารน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้ตั้ง “คลินิกเยียวยาจิตใจ” ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชาชนในศูนย์พักพิงประมาณ 14,500 คน ด้านการแก้ไขระบบสาธารณูปโภคนั้น ได้ประสานและติดตามความคืบหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกระบบกลับมาใช้การได้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2568
เร่งขนย้ายขยะ-รถกีดขวาง-ทำความสะอาดพื้นที่
ผู้อำนวยการ ศป.กฉ. สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพิ่มจุดพักขยะใน 4 โซนที่แบ่งไว้ และให้ขนย้ายขยะในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรในช่วงกลางวัน ซึ่งปัจจุบัน อบจ.สงขลา ได้แบ่งเครื่องจักรเป็น 5 ชุด และกำลังพลลงพื้นที่ทำความสะอาดต่อเนื่องตามเขตพื้นที่ และจะมีกำลังพล อส. ทหาร จากส่วนหน้ามาช่วยทำความสะอาดเพิ่มเติมในแต่ละโซน ประเด็นการย้ายรถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วมนั้น ตำรวจในพื้นที่ได้รับมอบหมายจาก ศป.กฉ.ส่วนหน้า ทำภารกิจย้ายรถที่กีดขวาง ปัจจุบันมีพื้นที่รองรับการขนย้ายแล้ว และจะประสานกับ สนทช.ขยายพื้นที่ให้มากขึ้น ตลอดคืนที่ผ่านมา ตำรวจเปิดช่องทางสัญจรได้มากขึ้น ส่วนการควบคุมอาชญากรรมได้ระดมกำลังตำรวจนอกพื้นที่มาช่วยเน้นใช้อุปกรณ์เครื่องมือจากนอกพื้นที่ เนื่องจากรถสายตรวจในพื้นจมน้ำหมด สำหรับการส่งศพคืนญาตินั้น ได้ดำเนินการประสานกับคณะแพทย์ยืนยันว่ามีความพร้อม
คมนาคมตั้งศูนย์ตรวจเช็ครถ
ด้าน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประสานบริษัทประกันภัยแล้ว เรื่องรถยก ปัจจุบันบริษัทประกันภัยมีรถยกขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80-90 คัน สำหรับการเคลมประกันภัยขณะนี้ ประชาชนผู้เอาประกันภัยทยอยแจ้งเคลมมาเป็นระยะ แต่เป็นช่วงเริ่มการติดต่อระหว่างผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย ยังไม่มีเรื่องร้องเรียน นอกจากนี้ จัดเตรียมพื้นที่สำหรับจอดรถที่ประสบภัยที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลาแห่งที่1 และ แห่งที่ 2 (หาดใหญ่) และตั้งศูนย์ประสานงาน “คมนาคมร่วมใจ ช่วยลดน้ำท่วม” เพื่อตรวจซ่อมสภาพรถยนต์จักรยานยนต์ที่เสียหายไม่มาก โดยจะให้บริการตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป และจะขยายศูนย์ฯ ไปยังจังหวัดรอบ ๆ ต่อไป ขณะที่กรมขนส่งทางบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำระบบข้อมูลรถไว้ทั้งหมดแล้ว เจ้าของรถตรวจสอบได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลาที่ 2 แห่ง หรือโทร. สอบถาม ที่โทรสายด่วน 1584 1599 และ 191
สำรวจบ้านเขต8ดูผู้เสียชีวิต-โยธาเล็งตรวจ
นายสิริพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ตรวจสอบเบอร์โท เมื่อประชาชนติดต่อเข้ามา ต้องมีคนรับสายให้ข้อมูลได้แน่นอน รวมทั้งให้เร่งประชาสัมพันธ์จุดซ่อมรถ และให้ส่วนหน้าสำรวจบ้านชั้นเดียว โดยเฉพาะเขต 8 เรื่องผู้เสียชีวิต รวมทั้งการทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับชุมชนดังกล่าว สำหรับเรื่องรายงานผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ทำการรายงานสรุปยอดในเวลา 16.00 น.
ด้านกรมโยธาธิการและผังเมืองรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการซ่อมแซมอาคารหลังน้ำลด โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สงขลาเพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานสำหรับการตรวจสอบอาคาร” หากพื้นที่ใดพร้อม ทีมงานจะเข้าดำเนินการได้ทันที
ส่งช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าประจำ5จุด
กรมพัฒนาฝีมือแรงงานระดมช่างฝีมือในเครือข่ายลงพื้นที่ไปให้บริการซ่อมแซม รถจักรยานยนต์ ซ่อมเครื่องมือ เครื่องยนต์เล็กการเกษตร สร้างอุปกรณ์ไฟฟ้า และตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งในจังหวัดสงขลาจะมีจุดให้บริการอยู่ 5 จุด คือ 1.วัดเกาะเสือ 2. บริษัทสยามแบตเตอรี่ หาดใหญ่ 3.โรงเรียนแสงทองวิทยา 4.โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา และ 5. เทศบาลเมืองหาดใหญ่ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษาลงพื้นที่ให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ
สำหรับการกำจัดซากสัตว์ กรมปศุสัตว์สามารถกำจัดซากสัตว์ได้แล้ว ได้แก่ ซากโคกระบือและแพะประมาณ 200 ตัว สุกร 25 ตัว และสัตว์ประเภทอื่น ๆ อีกประมาณ 20 ตัว ทั้งนี้ การกำจัดซากสัตว์ดำเนินการในสองพื้นที่หลัก ได้แก่ ด่านกักกันสัตว์ และพื้นที่ของเอกชนที่ให้การสนับสนุน โดยพื้นที่ที่นำไปกำจัดจะอยู่ห่างจากชุมชนเพื่อความปลอดภัย คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 - 3 วัน
ประปาหาดใหญ่ดำเนินการได้แล้ว45%
ส่วนเรื่องการจ่ายน้ำประปาในพื้นที่หาดใหญ่ พบว่าการประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการแล้วประมาณ 45% ของพื้นที่ ครอบคลุมโรงพยาบาลหาดใหญ่ รวมทั้งบริเวณตลาดกิมหยง และจะเพิ่มการจ่ายน้ำประปาไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่น สนามบิน และพื้นที่รอบข้าง ส่วนเมืองสงขลาจะดำเนินการจ่ายน้ำประปาไปที่สถานีโคกสูงภายในวันนี้ โดยจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำให้ครบทั้งหมด คาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ครบทั้งหาดใหญ่และสงขลาในอีก 2 - 5 วันข้างหน้า
จ่ายไฟให้ปชช.ได้แล้ว85%-ย่านธุรกิจ100%
ความคืบหน้าการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนพบว่า จ่ายไฟได้แล้ว 85 - 86% และเหลือผู้ใช้ไฟประมาณกว่า 23,500 รายที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ โดยพื้นที่สำคัญ ๆ อย่างโซนธุรกิจ ได้มีการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าเกือบสมบูรณ์ 100% แล้ว ทั้งนี้ ภายใน 1 - 2 วันข้างหน้า การไฟฟ้าฯ จะพยายามจ่ายไฟคืนให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้บางพื้นที่ที่ยังไม่สามารถจ่ายไฟได้เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ต้องตรวจสอบและแก้ไขให้ปลอดภัยก่อนจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับเข้าสู่ระบบ ล่าสุดการไฟฟ้านครหลวงจะเข้าร่วมฟื้นฟูระบบไฟฟ้าร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคด้วย
สปส.จัดสินเชื่อเสริมจ้างงาน
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือของสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่ามีโครงการสินเชื่อส่งเสริมการจ้างงานเพื่อผู้ประกันตน ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้นายจ้างจ้างงานผู้ประกันตน โดยมีสถานประกอบการเข้าร่วมประมาณ 500,000 ราย มีเงื่อนไขต้องจ่ายเงินสมทบติดต่อกัน 12 เดือน มี ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ 7 แห่ง คือ ธ.ก.ส. EXIM Bank ธ.กรุงไทย ธ.กรุงเทพ UOB ธ.ไทยเครดิต และ ธ.ทหารไทยฯ ที่จะเริ่มในธันวาคมนี้ โดยเงื่อนในการปล่อยสินเชื่อคือให้สำหรับสถานประกอบการที่มีผู้ประกันตนแยกตามขนาดของสถานประกอบการที่มีผู้ประกันตน วงเงินจะแบ่งเป็น 15 ล้านบาท 30 ล้านบาท และไม่เกิน 50 ล้านบาท สำหรับอัตราดอกเบี้ย สำนักงานประกันสังคมได้ทำเอ็มโอยูไว้กับทั้ง 7 ธนาคาร
สัญญาณเน็ตอาจใช้ได้100%วันนี้
ด้าน กสทช. รายงานว่า ในพื้นที่ที่ยังไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ได้ใช้ระบบดาวเทียมเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนสื่อสารและติดต่อกันได้ หาก กฟภ.จ่ายกระแสไฟฟ้าให้ครบทั้ง 8 จุด ระบบสื่อสารจะสามารถกลับมาครอบคลุมได้เต็ม 100% ภายในวันนี้ ส่วนมาตรการลดค่าบริการนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้โอเปอเรเตอร์ต่าง ๆ นำไปปฏิบัติ นอกจากนี้ จะปรับปรุงและวางโครงข่ายเสาสัญญาณใหม่ในบางพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและรองรับสถานการณ์ในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
9จว.ใต้อ่วม-2.9ล้านคนเดือดร้อน
นายธีรพัฒน์คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น. ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กินพื้นที่ 89 อำเภอ 595 ตำบล 4,227 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,162,551 ครัวเรือน 2,963,894 คน ดังนี้
จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ กาญจนดิษฐ์ เคียนซา พระแสง เมืองฯ บ้านนาสาร และพุนพิน 35 ตำบล 239 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,254 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
จ.นครศรีธรรมราช ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 20 อำเภอ ได้แก่ ชะอวด เมืองฯ ท่าศาลา พรหมคีรี ร่อนพิบูลย์ นาบอน ฉวาง ทุ่งสง เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร ลานสกา บางขัน พระพรหม ช้างกลาง ปากพนัง จุฬาภรณ์ ทุ่งใหญ่ พิปูน เชียรใหญ่ และถ้ำพรรณรา 148 ตำบล 1,335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 233,787 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
จ.ตรัง ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ นาโยง ห้วยยอด รัษฎา ย่านตาขาว วังวิเศษ กันตัง เมืองฯ สิเภา และปะเหลียน 64 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,344 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลงจพัทลุง ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ ควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว ปากพะยูน และป่าบอน 14 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 152 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
จ.สตูล ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ควนโดน ละงู ท่าแพ ควนกาหลง เมืองฯ และทุ่งหว้า 29 ตำบล 212 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,146 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ระดับน้ำเริ่มลด-ปภ.ระดมกำลังเร่งฟื้นฟู
จ.สงขลา ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ รัตภูมิ เมืองฯ จะนะ คลองหอยโข่ง ระโนด กระแสสินธุ์สทิงพระ หาดใหญ่ ควนเนียง นาทวี สิงหนคร นาหม่อม บางกล่ำ สะเดา เทพา และสะบ้าย้อย 127 ตำบล 992 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 633,105 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
จ.ปัตตานี ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ สายบุรี แม่ลาน โคกโพธิ์ มายอ ยะรัง ไม้แก่น ยะหริ่ง ปะนาเระ ทุ่งยางแดง กะพ้อ หนองจิก และเมืองฯ 115 ตำบล 648 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 192,503 ครัวเรือนระดับน้ำลดลง จ.ยะลา ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองฯ รามัน และยะหา 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,436 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง จ.นราธิวาส ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ ยี่งอ เมืองฯ ระแงะ ตากใบ สุไหงปาดี ศรีสาคร รือเสาะ สุไหงโก-ลก เจาะไอร้อง สุคิริน และจะแนะ 58 ตำบล 320 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 40,824 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
นายธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ภารกิจเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย แม้สถานการณ์อุทกภัยในบางพื้นที่จะคลี่คลายลง ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าภารกิจช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกพื้นที่กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งในด้านการดำรงชีพและการบรรเทาทุกข์ โดยเฉพาะเร่งแจกจ่ายถุงยังชีพจำนวนมาก อาหารกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรค รวมถึงสิ่งของพระราชทาน
นอกจากนี้ ยังคงเร่งช่วยเหลือด้านการขนย้ายผู้ประสบภัย โดยใช้เรือท้องแบน รถยกสูง และเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการติดตั้งสะพานชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้ รวมถึงการระดมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อดำเนินการด้านการฟื้นฟูพื้นที่และระบายน้ำ โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำและลดผลกระทบในพื้นที่อย่างรวดเร็ว
สงขลาเซ่นน้ำท่วม131รายเหตุจมน้ำ
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา รายงานข้อมูล วันที่ 29 พ.ย.68 ว่า สถานการณ์ได้ส่งผลกระทบครอบคลุม 16 อำเภอ 127 ตำบล 992 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 1.3 ล้านคน ต้องอพยพ 42,472 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 131 ราย หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง พื้นที่คาบสมุทรสทิงพระที่ระดับน้ำยังสูงและทรงตัวมีน้ำทะเลสาบหนุน ประชาชนตกอยู่สภาวะน้ำท่วมหลายพันคน ใน อ.หาดใหญ่ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้ประสบภัยกว่า 243,000 คน และผู้อพยพกว่า 12,800 คน จังหวัดได้จัดตั้งศูนย์พักพิง 24 แห่ง พร้อมจัดระบบดูแลผู้ประสบภัยในสถานศึกษา วัด และศูนย์เด็กเล็ก รวมถึงสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพจำนวนมาก โดยมีโรงครัวพระราชทานและโรงครัวสนามทหารผลิตอาหารรวมวันละหลายหมื่นกล่อง ความเสียหายด้านโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 17 หลัง เสียหายบางส่วนกว่า 1,100 หลัง โรงเรียน วัด มัสยิด ถนน และสะพานหลายร้อยแห่งได้รับความเสียหาย ประปาบางพื้นที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่การจ่ายน้ำประปาฟื้นฟูได้ 35% ระบบโทรคมนาคมเปิดให้บริการได้ประมาณ 70%
หาดใหญ่หนักสุดแต่น้ำลดเกือบเข้าสู่ปกติ
ด้านการช่วยเหลือและฟื้นฟู กองกำลังทัพภาคที่ 4 พร้อมหน่วยงานภาครัฐระดมกำลังกว่า 650 นาย รถบรรทุก รถยกสูง เรือท้องแบน อากาศยาน รวมถึงทีมแพทย์เคลื่อนที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขนย้ายขยะได้แล้วกว่า 8,000 ตัน แจกอาหารและน้ำดื่มสะสมกว่า 240,000ชุด พร้อมจัดกำลังลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยตลอด 24ชั่วโมง เพื่อดูแลทรัพย์สินประชาชน แนวโน้มสถานการณ์วันที่ 29 พ.ย. – 5 ธ.ค. คาดว่าฝนลดลง ระดับน้ำในเขตเมืองหาดใหญ่ลดลงจนเกือบเข้าสู่ปกติ เว้นพื้นที่อุโมงค์ศรีภูวนาถที่ยังคงท่วมสูง คงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงใกล้ชิด พร้อมเร่งฟื้นฟูและให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง
ทบ.ระดมอากาศยานย้ายผู้ป่วย-ส่งเสบียง
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 42 (ศบภ.มทบ.42 ) โดยกองทัพภาคที่ 4 และกองทัพบก ได้ระดมอากาศยานทุกแบบที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกภารกิจ จัดโดยหน่วยบินทหารบกอโณทัย (บทบ.อโณทัย) 4 ภารกิจ ประกอบด้วย ฮ.ท.212/ ส่งเสบียง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ฮ.ลว./อว.550/ ภารกิจการ ปจว.ด้วยเครื่องขยายเสียงทางยุทธวิธี (LRAD) ฮ.ท.17/ ส่งเสบียง จำนวน 300 ชิ้น จำนวน ค่ายอิงคยุทธฮ.ท.212/ สนับสนุนแม่ทัพภาคที่ 4 ประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย กองพันเฉพาะกิจที่ 1 (พัน.บ.ฉก. 1 ) ภารกิจใช้อากาศยาน ฮ.ท.145/ สนันสนุนศบภ.ทภ.4 ส่งผู้ป่วยทางอากาศ รพ.หาดใหญ่ จำนวน 2 ราย ทุกภารกิจปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยอากาศยานพร้อมปฎิบัติในทุกภารกิจ
ทร.ส่งนาวิกโยธินลุยน้ำช่วยคนสิงหนคร
ด้านเพจกองทัพเรือ Royal Thai Navy โพสต์ภาพนาวิกโยธินลุยน้ำ! รถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ช่วยประชาชนต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมข้อความ “จะอยู่ลึกแค่ไหน ไกลแค่ไหน ลำบากแค่ไหน นาวิกโยธินจะไปให้ถึง”ทั้งนี้ นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังมีน้ำท่วมสูง โดยจัดรถ AWAV 4 คัน ลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นกระจายสู่ชุมชนที่เข้าถึงยากการปฏิบัติภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กำลังพลนาวิกโยธินยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะกลับสู่ภาวะปกติ
บิ๊กคลีนนิ่งวันแรกเก็บขยะกว่า300ตัน
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รายงานความคืบหน้าปฏิบัติการ “Big Cleaning คืนความสุข คนสงขลา” ซึ่งเป็นการบูรณาการทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. ภายใต้แนวคิด “ทส. หนึ่งเดียว” เพื่อเร่งฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่หลังสถานการณ์น้ำท่วมให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว วันแรกของการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่สามารถเก็บขยะ เศษวัสดุ โคลนตม และสิ่งปฏิกูลได้มากกว่า 300 ตัน พร้อมล้างทำความสะอาดอาคาร พื้นผิวถนน ทางเดิน และพื้นที่สาธารณะหลายจุดสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณวัดหงส์ประดิษฐาราม (วัดคอหงส์) และโรงเรียนเทศบาล 3 โสภณพิทยาคุณนุสรณ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 28,800 ตารางเมตร (18 ไร่) เพื่อป้องกันเชื้อโรคหลังน้ำลด การฟื้นฟูครั้งนี้ เป็นการสนธิกำลังของทุกหน่วยงานใน ทส.ทั้งกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมควบคุมมลพิษ รวมกำลังเจ้าหน้าที่ กว่า 780 นาย, ยานพาหนะ 88 คัน, และอุปกรณ์กว่า 4,000 รายการ เข้าทำงานต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนค่ำนอกจากนี้ ยังได้จัดทำอาหารปรุงสุกแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 5,500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างกำลังใจปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง “พลังการทำงานแบบทส.หนึ่งเดียว” ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง และรัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จนกว่าประชาชนในพื้นที่หาดใหญ่จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยเร็วที่สุด
กปน.เริ่มจ่ายน้ำได้แล้วบางส่วน
การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ ขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า จากการเร่งฟื้นฟูระบบผลิตน้ำประปาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้สามารถเดินเครื่องผลิตน้ำได้บางส่วนแล้ว และเริ่มเปิดจ่ายน้ำประปาในบางพื้นที่ตั้งแต่เวลา 22.40น เป็นต้นไป พื้นที่ที่จะเริ่มจ่ายน้ำประปา ได้แก่ ถนนศรีภูวนาทบริเวณห้างเซนทรัลพื้นที่หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่บริเวณเกาะหมีและบริเวณใกล้เคียงในช่วงแรก เนื่องจากเส้นท่อว่างจากการจ่ายน้ำ จึงต้องค่อยๆเพิ่มแรงดัน เพื่อป้องกันท่อแตก จะทำให้น้ำประปาไหลอ่อน และน้ำขุ่นในช่วงแรก อีกทั้ง โปรดระวัง ท่อรั่วหรือท่อแตกภายในบ้านอย่างไรก็ตาม กปภ.สาขาหาดใหญ่ กำลังเร่งฟื้นฟูระบบผลิตและจ่ายน้ำในส่วนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถกลับมาจ่ายน้ำได้ตามปกติในทุกพื้นที่โดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี