วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
โอดอยากใช้นามสกุล‘หลีกภัย’
‘หนู’เจอ4ภัย!
ธรรมชาติ-มั่นคง-พิษศก.-สังคม
ชี้‘ยุบสภา’อยู่ที่สถานการณ์
ถ้าจำเป็นก็ไม่มีทางเลือก
นายกฯอนุทินมอบนโยบายจัดทำงบฯปี’70 กำชับใช้โปร่งใส คุ้มค่า ประโยชน์กลับสู่ปชช.เข้มงบฯประจำขอเท่าที่จำเป็น เตรียมปรับงบฯรับมือภัยธรรมชาติ ขอความร่วมมือรัฐ-เอกชนเลือกจัดอีเว้นท์ที่หาดใหญ่หวังเม็ดเงินช่วยในพื้นที่ โอดอยากใช้นามสกุล’หลีกภัย’แต่เจอ 4 ภัยทั้ง‘เศรษฐกิจ-มั่นคง-สังคม-ภัยธรรมชาติ’ลั่นรักษาอธิปไตยต้องไม่มีขาที่ 8 ถ้ายังต้องสู้ไม่มีช้อยส์อื่น ต้องชนะลูกเดียว ด้าน’จุลพันธ์’สยบลือ‘พท.’ยื่นซักฟอกรัฐบาลหลัง11ธ.ค.ไม่จริง ยันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 1ธ.ค. 68 ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2570 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2570 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญทั้งการจัดการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนและการวางรากฐานสำคัญสำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 โดยยึดแนวทางจากแผนการคลังระยะปานกลาง ซึ่งอยู่ในช่วงปี 2570-2573 ปีนี้แม้จะเป็นงบประมาณที่ถูกจัดทำแบบขาดดุล แต่รัฐบาลก็ตั้งใจที่จะลดการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในอนาคตและรักษาสัดส่วนหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม โดยอยู่บนหลักการรักษาวินัยการเงินการคลังรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ปีงบประมาณ2570 เป็นปีที่ประเทศไทยเจอกับความท้าทายทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมสูงวัย สังคมเหลื่อมล้ำ ผลกระทบสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ที่ต้องใช้งบประมาณอันมหาศาลในการปรับตัวป้องกันภัยพิบัติและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันภาครัฐต้องปรับตัวให้ทันสมัยโดยการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ มีการติดตามและประเมินผลเพื่อใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใส และแน่นอนต้องตรวจสอบได้
เน้นใช้งบโปร่งใส-คุ้มค่า-ตรวจสอบได้
ดังนั้นงบประมาณปี2570 เราจะต้องตอบโจทย์ได้ครบ สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การดูแลสังคม และการรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันภาครัฐต้องปรับตัวให้ทันสมัยโดยการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ มีการติดตามและประเมินผลเพื่อใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใส และแน่นอนต้องตรวจสอบได้ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศออกเป็น 5ด้าน ดังนี้ 1.ด้านเศรษฐกิจรัฐบาลจะดำเนินมาตรการให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นควบคู่กับการวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาวตามนโยบาย Quick Big Win ของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง ซึ่งนโยบายนี้ถ้าแปลเป็นไทยมีนัยว่าเป็นการกระตุ้นสั้น ได้ผลยาวและกระจายตัว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตในช่วงไตรมาสที่4 ได้แก่ กระตุ้นกำลังซื้อโดยเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งพลัส โครงการเที่ยวดีมีคืน มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจของเราไม่ต่ำกว่า 100,000ล้านบาท
ต้องรักษาแผ่นดิน-เราไม่มีทางเลือกอื่น
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ด้านที่2 ด้านความมั่นคง รัฐบาลมุ่งเน้นแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศของเราและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นรูปธรรม นอกจากนี้รัฐบาลยังมุ่งดำเนินนโยบายต่างประเทศเชิงรุกที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก นำประเทศไทยกับคืนสู่จอเรดาร์อีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างบทบาทประเทศไทยในเวทีโลก เรามีปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชา ซึ่งตนเห็นถึงความเสียสละทุ่มเท ความอดทนเป็นอย่างยิ่งของประชาชนคนไทย ตลอดจนความอดทนความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาปกป้องอธิปไตย รักษาบ้านรักษาเมือง ของทางกองทัพ ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ตนเข้ามาในช่วงที่กำลังพีคพอดี ก่อนประกาศว่าขาที่8จะต้องไม่มี ถ้ามีขาที่8เราก็ต้องแสดงความเป็นไทยให้กับคนที่คิดว่าประเทศไทย เป็นสิ่งที่ต่อรองได้ ตรงนี้ต้องกราบเรียนว่า เชื่อว่าพี่น้องในกองทัพคงทราบดีว่า เราควรต้องให้เขาได้ยินคำว่าประเทศไทยอย่างไร ตนเชื่อมั่นว่าแม้เรามีบทกลอนสอนใจ ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่เคยขลาด ตนได้พบปะพี่น้องเพื่อนข้าราชการฝั่งความมั่นคงมาตลอดเวลาเชื่อมั่นว่าประเทศไทยของเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องรักษาเอกราชของชาติ รักษาเกียรติภูมิ รักษาเกียรติยศของผู้ที่ปกป้องแผ่นดินทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่มีช้อยส์อื่นนอกจากชนะลูกเดียวถ้าเรายังต้องต่อสู้กัน นี่คือนโยบายที่รัฐบาลต้องสนับสนุนในการรักษาอธิปไตยของแผ่นดินอย่างเต็มที่
ขอให้จัดอบรมที่หาดใหญ่-เร่งฟื้นศก.
ด้านที่3 ด้านสังคม เราจะจัดการปัญหาเร่งด่วนอย่างพวกสแกมเมอร์ หรือการหลอกลวงทางเทคโนโลยี อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด รวมถึงการแก้ปัญหาการแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง โดยต้องยึดหลักนิติธรรมและความโปร่งใสเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น ด้านที่4 ภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจะพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติ เช่น พื้นที่น้ำท่วมประจำ พื้นที่มีความเสี่ยงสูง ควรต้องใช้แนวทางป้องกันก่อนเกิดเหตุ และเรื่องเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัยกลับสู่วิถีปกติและอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีตนได้ใช้เวลาในช่วง 2-3สัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลายครั้ง เพื่อหาความช่วยเหลือให้กับประชาชนในจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ จะเห็นได้จากปัญหานี้ประชาชนเผชิญกับภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้งเรื่องการเยียวยา ตนจะขอให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนที่สุด เพื่อให้เกิดความครอบคลุมและทั่วถึง หากจะมีการจัดประชุม งาน Event สัมมนา อบรม ปฐมนิเทศ ต่างๆในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงท้ายๆของปี อยากขอให้เลือกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ เพื่อให้เม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่พื้นที่มากที่สุด เช่น อ.หาดใหญ่ ซึ่งจริงๆเขาเตรียมรับนักท่องเที่ยว นักกีฬาซีเกมส์ ที่กำลังจะเปิดในสัปดาห์นี้ เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยโรงแรมต่างๆที่เตรียมรีโนเวทเรียบร้อยแผนการต่างๆต้องพับไป ขอให้เลือกไปช่วยเหลือจังหวัดที่โชคไม่ค่อยดีเหมือนจังหวัดอื่นๆและประสบภัยพิบัติต่างๆเหล่านี้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยให้เขามีรายได้ มีเม็ดเงินไหลเวียนในพื้นที่ให้มากที่สุด ด้านที่5 การบริหารงานภาครัฐ และปฏิรูปกฎหมาย ให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว เปิดเผยข้อมูลอย่างโปรงใส อำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนและประชาชน รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
เร่งจ่ายเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด
นายอนุทิน กล่าวว่า และอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีตนได้ใช้เวลาในช่วง 2-3สัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลายครั้ง เพื่อหาความช่วยเหลือให้กับประชาชนในจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ จะเห็นได้จากปัญหานี้ประชาชนเผชิญกับภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้งเรื่องการเยียวยาตนขอให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนที่สุด เพื่อให้ครอบคลุมและทั่วถึง ลดขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือหรืองบประมาณต่างๆนโยบายต่างๆไปถึงมือประชาชนผู้เดือดร้อนเร็วที่สุด หากหน่วยงานใดทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ทุกท่านได้พิจารณา จึงขอความเมตตาให้ช่วยพิจารณาเรื่องนี้ เพื่อพี่น้องเพื่อนร่วมชาติของเราที่มีเคราะห์ร้ายเจอภัยธรรมชาติ เราต้องเข้าไปเยียวยาพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อยากนามสกุล’หลีกภัย’แต่เจอ4ภัย
‘ปีนี้อาจต้องมุ่งเน้นเรื่องแก้ปัญหา4ภัยที่กล่าว ผมอยากจะนามสกุลหลีกภัย แต่กลายเป็นนามสกุลเจอภัย เจอเข้าไป 4ภัย คือภัยเศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยสังคมและภัยธรรมชาติ ตั้งแต่เดือนกันยายนมาจนถึงปัจจุบัน เราพบภัยเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เราถึงต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยกันทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งทุกท่านคงรู้สึกได้ว่าพี่น้องประชาชนมีความพึงพอใจเชื่อมั่นและเราจะยังทำต่อไปและจะทำเฟส2ให้ได้เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีขวัญกำลังใจ มีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นว่า ชีวิตของพวกเขารัฐบาลจะดูแลและเขาจะต้องเดินต่อไป รัฐบาลต้องอยู่เคียงข้างเขา ในการจะนำพาให้ผ่านพ้นภัยเศรษฐกิจ ชื่อของมันเป็นภัย แต่มันเป็นทุกข์แสนสาหัสของพี่น้องประชาชน เราเป็นข้าราชการ เราบริหารราชการแผ่นดิน คือความผาสุขของพี่น้องประชาชน จะต้องนำเขาเดินพ้นภัยเศรษฐกิจเร็วที่สุดและเดินไปด้วยกัน’นายอนุทิน กล่าว
พท.ลั่นไม่ใช่เวลายื่นซักฟอกรัฐบาล
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลังมีข้อมูลว่าพรรค พท.จะยื่นหลังวันที่ 11ธันวาคมนี้ ว่า ไม่มีข่าวเรื่องนี้ เป็นข่าวที่ไม่ได้ออกจากพรรค พท.ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาคุยในนาทีนี้ แต่ยืนยันการตรวจสอบไม่ได้หยุดนิ่ง ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดและติดตามการทำงานรัฐบาลเรื่องบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เรารวบรวมประเด็นทั้งหมดอยู่ แต่การพูดคุยยื่นหรือไม่ยื่นญัตติช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุย เพราะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลต้องขับเคลื่อนเรื่องแก้น้ำท่วม อยากให้เขามีสติ สมาธิ กลับไปทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สมบูรณ์กว่านี้อย่างเต็มที่ สำหรับประเด็นบริหารสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ของรัฐบาลจะนำไปอยู่ในเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ถือเป็นการบริหารของรัฐบาลที่ถือเป็นข้อบกพร่องผิดพลาด เป็นเรื่องปกติ
รบ.ไม่ได้มีหน้าที่หนีการตรวจสอบ
เมื่อถามถึง กรณีแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า หากพรรค พท.ยื่นซักฟอก จะเป็นเหตุให้รัฐบาลยุบสภาและไม่สามารถเยียวยาดูแลประชาชนที่ประสบผลกระทบจากน้ำท่วมได้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากเป็นนักการเมืองที่อยู่ในระบบประชาธิปไตยและมีประสบการณ์ทำงานด้านบริหารจะไม่พูดในลักษณะนี้ออกมา เพราะไม่ใช่เรื่องการโยนความผิดใส่คนอื่น เป็นความล้มเหลวของตน เรื่องยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบไม่มีเหตุใดๆที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอก ฉะนั้นหากพรรค พท.ยื่น รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการตอบเท่านั้น สภามีหน้าที่ในการตัดสินใจรับรองให้ดำเนินการในฐานะภารกิจรัฐบาลต่อหรือไม่ เป็นไปตามกลไกและไม่มีเหตุใดที่จะมาอ้างและหนีกระบวนการตรวจสอบ ตนมองว่าคนที่พูดเช่นนั้นอาจไม่เข้าใจกลไกตามระบบประชาธิปไตยจึงได้พูดคำนี้ออกมา
เลี่ยงตอบ’ยศชนัน’แคนดิเดตนายกฯ
นายจุลพันธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท.ว่า ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เมื่อถามว่า มีการจับตาถึงนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นักวิจัยด้านสมองและวิศวกรรมชีวการแพทย์ ลูกของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท.หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายยศชนัน เป็นนักวิชาการเข้ามาช่วยเรื่องนโยบายของพรรค พท.และคลิปข่าวที่มีการเผยแพร่เป็นกิจกรรมอบรมของพรรค พท. ชื่อโครงการYPPซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ สนใจทั้งการเมือง มีศักยภาพในการทำงานด้านการเมืองขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต ท่านรับเป็นหนึ่งในวิทยากร หลายคนก็ไปเป็นวิทยากร อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้พูดคุยในประเด็นนี้
‘ทสท.’เปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์
ที่พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) ถนนเทิดราชัน เขตดอนเมือง ทา
งพรรคไทยสร้างไทยได้เปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์ พร้อมประกาศแสดงจุดยืนและคำมั่นสัญญาในการสร้างการเมืองสุจริต โดยได้เปิดตัวบุคลากรสำคัญที่จะเข้าร่วมกับพรรค โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับทุกท่านที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งหัวหน้าพรรคได้ย้ำว่าไทยสร้างไทยมุ่งมั่นสร้างการเมืองสุจริต
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่าการเปิดตัวบุคลากรใหม่เข้าพรรค ทั้งอดีตสมาชิกวุฒิสภา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา การบริหารราชการ และผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ถือเป็นก้าวสำคัญของพรรคไทยสร้างไทย ในการสร้างทีมงานที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ตรง เพื่อผลักดันนโยบายและเจตนารมณ์ของพรรคให้ตอบสนองต่อประชาชนอย่างแท้จริง
‘พล.ท.ภราดร’ลุยนโยบายมั่นคง
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่าการเข้าร่วมทำงานกับพรรคไทยสร้างไทย จะเข้ามาช่วยผลักดันนโยบายด้านความมั่นคง และการร่วมสร้างการเมืองสุจริต พร้อมประกาศว่าจะนำกลุ่ม “คนไทยสวัสดี” เข้ามาสนับสนุนและร่วมทำงานกับพรรคไทยสร้างไทยอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมผลักดันแนวทางการเมืองที่โปร่งใสและตอบสนองต่อประชาชนอย่างแท้จริง
‘ดิเรกฤทธิ์-ตวง’ ดูแลกม.ความยุติธรรม
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีต สว.ในฐานะประธานสถาบันประชาธิปไตยสุจริต จะดูแลกฎหมายและความยุติธรรม นายตวง อันทะไชย อดีตสมาชิกวุฒิสภา 5 สมัย จะเข้ามาร่วมพัฒนานโยบายด้านการศึกษา โดยเน้นการสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพ พร้อมปรับระบบการศึกษาไทยให้ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของโลกยุคใหม่ และเน้นให้เด็กไทยค้นพบศักยภาพของตนเอง
นายกฤษฎา เฉลิมสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคนไทย จะเข้ามาสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ พร้อมวางแนวทางยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
‘เจนนี่’ตัวแทนคนรุ่นใหม่
ด้าน น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ของพรรค ได้กล่าวถึงบทบาทของเยาวชนในการพัฒนาประเทศ พร้อมเรียกร้องให้สังคมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ในการสร้างการเมืองสุจริต เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความมั่นใจและโอกาสในการพัฒนาตนเอง
บรรยากาศการแถลงข่าวเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความร่วมมือ โดยผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทยทั้งรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง การประชุมเน้นการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ เพื่อสร้างแนวทางการเมืองสุจริต โปร่งใสและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน
สำหรับการครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัว พล.ท.ภราดร ดร.ดิเรกฤทธิ์ และนายตวง ร่วมงานพรรคไทยสร้างไทย
พร้อมเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในทุกเขต เพื่อสร้างการเมืองสุจริตอย่างจริงจัง พร้อมยืนยันว่าการมีทีมงานที่เชี่ยวชาญคือกุญแจสำคัญในการปฏิรูปการเมืองไทยและสร้างการเมืองสุจิตให้เกิดขึ้นจริง
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เชื่อมั่นว่าการมีผู้ร่วมอุดมการณ์เข้ามาทำงานกับพรรค คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ ที่จะช่วยสร้างอนาคตประเทศไทยที่สุจริต ยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนทุกคน พร้อมเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายจะช่วยสร้างระบบการเมืองที่ตอบสนองต่อประชาชนได้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี