‘เสี่ยหนู’คาดเข็มขัดนิรภัย ยืนกรานอยู่ไม่เกิน31ม.ค.

‘เสี่ยหนู’คาดเข็มขัดนิรภัย ยืนกรานอยู่ไม่เกิน31ม.ค.

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘เสี่ยหนู’คาดเข็มขัดนิรภัย
ยืนกรานอยู่ไม่เกิน31ม.ค.

นายกฯระบุคาดเข็มขัดนิรภัย หลังสื่อถาม 12 ธันวาคม 2568 ไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่ แจงอยู่ไม่เกิน 31 มกราคม 2569 พร้อมทำตามกระบวนการ หาก“เพื่อไทย”ยื่นซักฟอก ด้าน“อภิสิทธิ์”เผยมีผู้แสดงความจำนงลงชิงสส.มาก ยันเร่งกระบวนการเฟ้นเลือกยึดหลักเกณฑ์-มีเหตุผลอธิบายได้ ให้ทันรับเลือกตั้ง ชี้ปชป.เวลาน้อย ต้องรีบแต่งตัว-เดินเกมเร็ว หากยุบสภาก่อนกำหนด สถานะ’ฝ่ายค้าน’หากมี”ซักฟอก”

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีในวันที่ 12ธ.ค.68 จะไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่ ว่า คาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณว่าจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วใช่หรือไม่ นายกฯ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ ก่อนตอบว่า ตนยังไม่ได้คุย แต่เรายังทำงานทุกวัน เผชิญเหตุได้ทุกสถานการณ์ เมื่อถามต่อว่า หากไม่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หมายความว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงวันที่ 31 ม.ค.2569 ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ไม่เกินวันที่ 31ม.ค.69ก็แล้วกัน เมื่อถามย้ำว่า แต่หากพรรคเพื่อไทยมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามา นายกฯ กล่าวว่า หากยื่นเข้ามาก็เป็นไปตามกระบวนการ กระบวนการเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามรัฐธรรมนูญและขั้นตอน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเปิดรับสมัครผู้มีความประสงค์ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ว่า หลังจากปิดรับสมัครพบว่า มีผู้แสดงความประสงค์เป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งกระบวนการสรรหาและรับฟังความคิดเห็น จากบรรดาสาขาพรรค ผู้แทนพรรคประจำจังหวัด มีการก็เปิดโอกาสให้ได้มาร่วมทำกิจกรรม แสดงวิสัยทัศน์ โดยจะพยายามเร่งรัดขั้นตอนเหล่านี้ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้มีความพร้อมทันการเลือกตั้ง ส่วนจะมีหลักเกณฑ์คัดตัวผู้สมัครอย่างไรในเขตที่มีผู้ประสงค์ลงสมัครมากกว่า 1คน นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่า มีหลายเขตที่มีผู้แสดงความจำนงมากกว่า 1 คน ซึ่งต้องเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการสรรหาซึ่งคณะกรรมการ ได้วางหลักเกณฑ์ไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งความรู้ความสามารถและอุดมการณ์ทางการเมือง แต่ไม่ได้มีสูตรตายตัว จะพิจารณาเป็นหลักเป็นเกณฑ์ให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณี กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่เพื่อให้สอดรับกับการเลือกตั้งหากมีการยุบสภาในปีนี้ จากนครศรีธรรมราชหายไป 1เขต ได้มีการปรึกษาหารือกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในแต่ละพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ก็มีการเผื่อและคาดการณ์ไว้แล้วและทราบถึงแนวโน้มของประชาชน ซึ่งขณะนี้เราหัวหน้าพรรคแต่ละภาคได้มีการเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว

สำหรับสัญญาณที่เริ่มจะชัดขึ้นในการที่อาจจะมีการยุบสภาภายในปีนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ไม่ได้มีความชัดเจนขนาดนั้น เพียงแต่นายกรัฐมนตรีวางเงื่อนไขการเปิดอภิปราย และยังไม่ทราบว่าแต่ละพรรคเขาจะตัดสินใจอย่างไร แต่เราก็ต้องทำให้เกิดความพร้อมโดยเร็วที่สุด แต่ทุกคนทราบดีว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค และสส.เดิมที่อยู่กับพรรค และจะอยู่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็มีไม่มาก เพราะฉะนั้นเราก็เร่งรัดที่จะทำงาน

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยังคงเชื่อมั่นว่า ส.สของพรรคจะอยู่ฝั่งซักฟอกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน เบื้องต้น นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ก็ประสานงานอยู่และมีข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องที่เราดำเนินการ อย่าง สแกมเมอร์ ส่วนจะใช้เป็นประเด็นในการซักฟอกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับฝ่ายค้านอื่น แต่รวบรวมประเด็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยมีจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24มกราคม2568 ทั้งนี้ จากการตรวจตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ได้จัดทำข้อมูลสรุปจำนวนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จากจำนวนพรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ 76 พรรคการเมือง พบว่า พรรคการเมืองที่สามารถส่งผู้สมัคร ส.ส. ได้ครบทั้ง 77 จังหวัด 400 เขตเลือกตั้ง คือ พรรคประชาชนและพรรคกล้าธรรม ส่วนพรรคภูมิใจไทยและพรรคโอกาสใหม่ ส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ 76 จังหวัด ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ 73 จังหวัด ด้านพรรคเพื่อไทย 59 จังหวัด พรรคพลังประชารัฐ 48 จังหวัด พรรคเสรีรวมไทย 36 จังหวัด พรรคประชาธิปไตยใหม่ 26 จังหวัด พรรคทางเลือกใหม่ 21 จังหวัด พรรครวมไทยสร้างชาติ 14 จังหวัด เป็นต้น

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่พรรคการเมือง ทั้ง 76 พรรค ส่งให้สำนักงาน กกต.ตรวจสอบและบันทึกเป็นข้อมูลว่าแต่ละพรรคได้ดำเนินการเรื่องการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด เพื่อทำไพรมารีโหวต ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง สำหรับพรรคการเมืองที่มีจำนวนส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ไม่ครบ 77จังหวัดนั้น แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้บางพรรคการเมืองอาจจะดำเนินการครบถ้วนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้รายงานหรือแจ้งข้อมูลเรื่องการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด มายังสำนักงาน กกต.หรือบางพรรคการเมืองอาจอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลา สามารถดำเนินการได้ทันหากมีการเลือกตั้ง ส.ส.เกิดขึ้น เพราะใช้เวลาไม่นาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ในแต่ละจังหวัดจะต้องมีสาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคการเมืองให้ครบในแต่ละจังหวัดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดไว้ตามมาตรา47 ระบุว่า พรรคการเมืองซึ่งประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในจังหวัดใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดในจังหวัดนั้น ในกรณีที่พรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคการเมืองมากกว่าหนึ่งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดมากกว่าหนึ่งตัวแทนในจังหวัดใด ให้พรรคการเมืองนั้นกําหนดว่าจะให้สาขาพรรคการเมืองสาขาใดหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดใดในจังหวัดนั้น เป็นสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดเพื่อดําเนินการตามมาตรา 50 อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้หากพรรคการเมืองใดต้องการส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบ 77จังหวัด จำเป็นต้องจัดตั้งสาขาพรรคประจำจังหวัด หรือเลือกตัวแทนพรรคให้ครบตามจำนวนที่จะสามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ครบทั้ง 77จังหวัด ตามมาตรา47 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี2560กำหนด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top