'เทพไท'วิเคราะห์ 5 ปัจจัย ทำ'เพื่อไทย'ยึกยักยื่นซักฟอกรัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "พรรคเพื่อไทย คือกุญแจยุบสภา ตอนนี้มีประกาศจากคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่องจำนวนส.ส.ของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงใน2จังหวัด ที่มีส.ส.ลดลง คือจังหวัดนครศรีธรรมราชกับจังหวัดลพบุรี และที่มีจำนวนส.ส.เพิ่มขึ้น2จังหวัด คือจังหวัดปทุมธานีกับจังหวัดสมุทรสาคร รวมไปถึงการประกาศสรุปการส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าสามารถส่งสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคได้กี่จังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก ว่าทำไมกกต.รีบสรุปจำนวนส.ส.ของแต่ละจังหวัด ก่อนที่จะมีการประกาศจำนวนประชากรในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
การชิงประกาศจำนวนส.ส.ก่อน เพื่อต้องการแบ่งเขตให้เสร็จก่อน น่าจะเป็นสัญญาณว่า การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ มีการประกาศยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาส่งสัญญาณว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในวันที่ 12 ธันวาคม 2560 กุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อยู่ที่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว
แต่ถ้าดูท่าทีของพรรคเพื่อไทยในตอนนี้ จะเห็นว่ามีอาการยึกยัก ไม่มั่นใจว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ซึ่งน่าจะมาจากเหตุผล หรือปัจจัย5ประการ เกี่ยวกับการแสดงอาการยึกยักของพรรคเพื่อไทย คือ
1.เกิดจากการพลิกขั้วของพรรคเพื่อไทย จากที่เป็นฝ่ายรัฐบาลกลับมาเป็นฝ่ายค้าน ยังมีความแค้นอยู่ในใจ จึงประกาศตลอดเวลาว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน แต่ในที่สุดก็ยังไม่ยื่น ยังแสดงอาการละล้าละลัง ว่าจะตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจดีหรือไม่
2.น่าจะมาจากสาเหตุของการเกิดอุทกภัยที่หาดใหญ่ แม้ว่ารัฐบาลจะเพลี่ยงพล้ำ ล้มเหลวในการรับมือการแก้ปัญหาน้ำท่วมก็ตาม แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลก็ยุบสภาระหว่างการฟื้นฟูหลังจากน้ำท่วมแล้ว จะเกิดผลเสียกับพรรคเพื่อไทย อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทำให้รัฐบาลยุบสภา ประชาชนเสียโอกาสในการได้รับการดูแลช่วยเหลือ จากรัฐบาลหลังจากน้ำท่วมแล้ว
3.พรรคเพื่อไทย อยากจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จด้วย ดูจากท่าทีของนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย หวังให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ3ก่อนแล้วค่อยพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยรู้ดีว่า ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ต่างก็ต้องการที่จะให้มีการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ3ไปก่อน จึงทำให้พรรคภูมิใจไทยจับเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันทางการเมือง
4.ถ้าหากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 รัฐบาลอนุทินอาจจะชิงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยยังไม่มีความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะในขณะนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี3คนของพรรคเพื่อไทยยังสรรหาได้ไม่ครบเลย และยังมีส.ส.ไหลออกจากพรรคอยู่
5.ถ้าพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 152 ซึ่งนายอนุทินออกมาท้าทายว่า ถ้ามีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 152 จริง รัฐบาลจะไม่ยุบสภา จะไม่หนีการตรวจสอบ พร้อมที่จะตอบคำอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจริง อาจจะเกิดสภาพจากพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทิน ก็อาจจะกลับกลายเป็นรัฐบาลอนุทินอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยมากกว่า เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล2ปี ย่อมมีจุดบกพร่อง มีจุดอ่อน มีแผลที่จะถูกอภิปราย มากกว่ารัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นรัฐบาลได้ไม่ถึง2เดือน
จากปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จะเป็นประเด็นที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ยังไม่ตกผลึกทางความคิดว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทินดีหรือไม่ แต่ถ้าหากว่าหวังจะเล่นเกมการเมืองต่อ และอยากจะให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ3ไปก่อน ในช่วงวันที่ 27- 28 ธันวาคมนี้ พรรคเพื่อไทยก็สามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ในช่วงกลางเดือนมกราคม ซึ่งตอนนั้นรัฐบาลอนุทินประกาศยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ จะเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทย จะนำประเด็นการหนีอภิปรายของรัฐบาลอนุทินไปหาเสียงได้
ทั้งหมดนี้อยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ว่าจะเดินเกมอย่างไร กุญแจสำคัญทางการเมืองในขณะนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี