ส่องปัจจัยเสื่อม'ตระกูลฮุน' ก่อนเปิดสงครามกับไทย รอบ 2

ส่องปัจจัยเสื่อม'ตระกูลฮุน' ก่อนเปิดสงครามกับไทย รอบ 2

วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.52 น.

การที่ "ผู้นำกัมพูชา" ตัดสินใจเปิดฉากสงครามรอบที่ 2 กับประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน แต่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดิ้นรนเพื่อรักษาสถานะในการครองอำนาจของ "ตระกูลฮุน" เอาไว้ ท่ามกลางเหตุปัจจัยหลายอย่างที่รุมเร้า ทั้งภายในและภายนอก ทำให้ "ตระกูลฮุน" ไม่มีทางเลือกมากนัก การก่อสงครามเพื่อปลุกกระแสชาตินิยม และสร้างศัตรูร่วม ให้คนในชาติตัวเองลืมปัญหาอื่นๆ หันมาสนใจแต่เรื่องการเอาชนะสงคราม จึงเป็นลูกไม้เดิมๆ ที่ผู้นำทั่วโลกที่ล้มเหลวในการปกครองใช้กัน เรามาดูกันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอำนาจของ "ตระกูลฮุน" ใกล้ล่มสลายแล้ว

1.วิกฤตเศรษฐกิจ และความอดอยากของประชาชน


แรงกดดันที่สำคัญที่สุดมาจากระดับรากหญ้า ประชาชนกัมพูชาจำนวนมากเริ่มประสบภาวะยากลำบากในการดำรงชีพ เนื่องจาก :

* ผลจากการปิดด่านของไทย ทำให้ผลผลิตเกษตรไม่สามารถส่งออกมาไทยได้ ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ ขณะเดียวกัน สินค้าอุปโภคบริโภคที่เคยนำเข้าจากไทย ก็ไม่สามารถนำเข้ามาได้ ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนและราคาสินค้าสูงขึ้น

* การหดหายของรายได้จากแรงงานต่างประเทศ : แรงงานกัมพูชาในไทย (และประเทศอื่นๆ) เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รายได้ที่เคยหล่อเลี้ยงครอบครัวในกัมพูชาลดลงสู่ศูนย์ ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อและระบบเศรษฐกิจชุมชนอย่างรุนแรง

2.ช่องโหว่ทางการเงินและการถูกคว่ำบาตรระดับโลก

ระบบการเงินที่เคยหมุนเวียนอย่างมหาศาลจากแหล่งรายได้ที่ไม่โปร่งใสกำลังเหือดแห้ง และถูกซ้ำเติมด้วยมาตรการจากนานาชาติ :

* รายได้จากธุรกิจสีเทาหดหาย : รายได้มหาศาลที่เคยหมุนเวียนจากกลุ่มจีนเทา และเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เริ่มลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

* การโดนยึดและอายัดทรัพย์สิน : การดำเนินการนี้เริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา และกำลังขยายไปยังเขตอำนาจอื่นๆ ทั่วโลก การงดทำธุรกรรมกับเครือข่ายอำนาจ ส่งผลให้ระบบหมุนเวียนเงินภายในประเทศเกิดภาวะช็อก เนื่องจากเงินทุนสำรองและเงินทุนหมุนเวียนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้

3.การถูกโดดเดี่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน

กัมพูชากำลังเผชิญกับแรงกดดันทางยุทธศาสตร์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการควบคุมพื้นที่ชายแดน :

* ไทย : มีการปิดด่านการค้าชายแดน หรือจำกัดการเคลื่อนย้ายสินค้าและผู้คน

* ลาว : มีการเพิ่มกำลังพลตามแนวชายแดน เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจหรือเตรียมรับมือกับความไม่สงบ

* เวียดนาม : มีการปิดเส้นทางออกทางคลอง หรือทางน้ำสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

4.ความสัมพันธ์กับมหาอำนาจไม่มั่นคงเหมือนเดิม

กลยุทธ์การทิ้งจีนเพื่อหันไปหาความสนับสนุนจากสหรัฐฯ ไม่เป็นผลสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ :

* จีนลดบทบาท : จีนเริ่มทยอยลดความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการลง เนื่องจากกัมพูชาพยายามถอยห่างจากอิทธิพลของจีน

* ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากจีน : พ่อค้าชาวจีนและเวียดนามยังคงนำเข้าสินค้าจีนที่ราคาสูงเข้าสู่ตลาดกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของประชาชน และทำให้ชนชั้นสูงชาวเขมรเริ่มรับรู้สัญญาณความเสี่ยง นำไปสู่การเร่ง กอบโกยทรัพยากรจากประชาชน ก่อนที่สถานการณ์จะวิกฤต

5.การพ่ายแพ้ในเวทีระดับภูมิภาคและโลก

กัมพูชาไม่ได้รับการสนับสนุนตามที่ต้องการในประเด็นสำคัญ และเริ่มถูกกีดกันในเวทีโลก :

* กรณีคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) : สหรัฐฯ ไม่คล้อยตาม ในกรณีวินกรุ๊ป (Win Group) ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าตระกูลฮุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ความพยายามในการสร้างฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดจีนต้องชะงักลง

* การสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม : มีการกลับลำเพื่อผลักดัน สมรังสี ให้เป็นรัฐบาลพลัดถิ่น (Government-in-Exile)

* การสูญเสีย "ไม้กันหมา" ในอาเซียน : อันวา อิบราฮิม ประธานอาเซียน ที่มีท่าทีเป็นมิตร จะหมดอำนาจลงในวันที่ 31 มกราคม ส่งผลให้กัมพูชาขาดผู้สนับสนุนคนสำคัญในเวทีภูมิภาค

* ท่าทีของประธานอาเซียนคนต่อไป : ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนคนต่อไป ไม่พอใจอย่างมาก ต่อกรณีที่แรงงานฟิลิปปินส์ถูกหลอกไปทำงานในคอลเซ็นเตอร์ และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

* การถูกเมินในเวทีโลก : กัมพูชากลายเป็นชาติที่ไม่มีใครอยากรับฟังคำแก้ตัวในเวทีระหว่างประเทศ โดยมีเหตุการณ์ที่ตัวแทนกัมพูชาถูกปิดไมค์กลางอากาศในสองเวทีสำคัญ

ด้วยปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเงิน และการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้สถานะของ "ตระกูลฮุน" กำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงอย่างยิ่ง หนทางเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่และมีศักยภาพในการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลไว้ได้ คือ การปลุกกระแสชาตินิยมและการสร้างความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปัญหาภายใน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันทั้งหมด ตระกูลฮุนจะอยู่ในอำนาจได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top