สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว แม่ทัพการทูต ผู้ถลกเขมรบนเวทีโลก

สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว แม่ทัพการทูต ผู้ถลกเขมรบนเวทีโลก

วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.35 น.

​ในห้วงเวลาที่เสียงปืน เสีนงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหวตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปรียบได้กับ "สงครามร้อน" ที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง

ชื่อของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะ "แม่ทัพด้านต่างประเทศ" ผู้มากประสบการณ์ ที่กำลังได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางจากความกล้าหาญและความเฉียบคมในการทูต


​นักการทูตอาวุโสผู้นี้ ไม่ได้เป็นเพียงข้าราชการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเท่านั้น แต่คือ "นักการทูตมือฉมัง" ผู้มีประสบการณ์โชกโชน ในการรับมือกับความขัดแย้งกับกัมพูชามาตั้งแต่เหตุการณ์สำคัญในอดีต (เช่น การเผาสถานทูต พ.ศ. 2546) การกลับมาในบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในช่วงวิกฤตนี้ จึงเป็นการพิสูจน์ "วุฒิภาวะ" และ "ความเก๋าเกม" บนเวทีโลกที่คนไทยวางใจได้ทุกครั้งเมื่อท่านได้ทำหน้าที่​

เวที UN: สงครามข้อมูลที่ต้องเอาคืน

​จุดที่ทำให้ชื่อของ นายสีหศักดิ์ ได้รับการกล่าวขานอย่างยิ่ง คือ การกล่าวถ้อยแถลงโต้ตอบกัมพูชาบนเวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งรอบใหม่

​ในขณะที่กัมพูชาพยายาม "สวมบทบาทเหยื่อ" กล่าวหาไทยว่าเป็นฝ่ายยั่วยุ รัฐมนตรีสีหศักดิ์ได้ใช้เวทีระดับโลกแห่งนี้เป็นสมรภูมิทางข้อมูลอย่างถึงพริกถึงขิง ท่านได้ทำการปรับแก้สุนทรพจน์หน้างานเพื่อ "ตอกหน้า" การบิดเบือนข้อเท็จจริงของฝ่ายตรงข้ามอย่างมีหลักการ หนักแน่น และมีวุฒิภาวะ

​พลิกเกม: ท่านชี้ให้ประชาคมโลกเห็นอย่างชัดเจนว่า คนไทยต่างหากที่ได้รับผลกระทบที่แท้จริง ทั้งทหารและพลเรือนผู้บริสุทธิ์

​เปิดหลักฐาน: ท่านไม่ลังเลที่จะเปิดโปงพฤติกรรมของกัมพูชาที่ ละเมิดข้อตกลงและกระทำการยั่วยุ เช่น การวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ที่ตกลงกันแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทหารไทยต้องบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า

​การตอบโต้อย่างมีชั้นเชิงนี้ ไม่เพียงแต่เรียกเสียงปรบมือในห้องประชุมเท่านั้น แต่ยังดึงประเทศไทยให้ "กลับสู่จอเรดาร์" ของประชาคมโลกอีกครั้งในฐานะประเทศที่ไม่ยอมให้ใครบิดเบือนความจริงบนเวทีสากลได้อย่างง่ายดาย

​แนวรบการทูตที่ประสานกับแนวรบทางทหาร

​ในช่วงเวลาที่กำลังมีการปะทะกันอย่างดุเดือดตามแนวชายแดน นายสีหศักดิ์ได้แสดงให้เห็นถึงการทำงานแบบ "เอกภาพ" ที่ประสานกับการปฏิบัติการทางทหารอย่างใกล้ชิด ท่านได้เดินหน้ารุกเกมเร็ว ชี้แจงคณะทูตต่างประเทศกว่า 67 ประเทศ ย้ำจุดยืนที่ชัดเจนว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน และไทยมีความจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยอย่างเด็ดขาด

​อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปะทะ แต่จุดยืนทางการทูตของท่านก็ไม่ได้ปิดประตูตาย เพียงแต่ตั้งเงื่อนไขที่ชัดเจนและหนักแน่น:

​"ไม่มีพื้นที่เจรจาการทูตในตอนนี้... ปัญหาอยู่ที่กัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลง ดังนั้นก็ขอให้ฝ่ายกัมพูชาพร้อมจริงๆ ขณะนี้เราก็ต้องดำเนินการทางการทหารไปก่อนจนถึงจุดที่เขาพร้อมจริงๆ"

​ถ้อยคำนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ว่า การทูตจะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อมี "ความจริงใจ" และการให้เกียรติข้อตกลงจากฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น การเจรจาแบบที่ยังมีการยั่วยุและบิดเบือนจึงเป็นเพียงการเดินกลับสู่ปัญหาเดิม การดำเนินการทางทหารเพื่อลดทอนศักยภาพในการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามก่อน จึงเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อให้การเจรจาสันติภาพในอนาคตมีน้ำหนักและความจริงจัง

​นักการทูต “1ในใจคนไทย"

​ในสถานการณ์ที่ประชาชนไทยต้องการความมั่นใจและจุดยืนที่แข็งแกร่ง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ ความหนักแน่นและเกียรติภูมิของชาติ การใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มีในการ "ลากไส้" และ "ประจาน" ความไม่จริงใจของฝ่ายตรงข้ามกลางเวทีโลก ได้เรียกความชื่นชมและศรัทธาจากคนไทยเป็นอย่างมาก

​จากความสำเร็จในการดึงไทยกลับสู่จุดสนใจของโลกด้วยท่วงทำนองที่ชาญฉลาด ทำให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผู้พลิกเกมการทูต" ที่ทำให้ศักดิ์ศรีของไทยกลับมาอย่างสมภาคภูมิ ไม่ว่าจะในสมรภูมิรบจริง หรือสมรภูมิการทูตบนเวทีสากล บทบาทของท่านคือภาพสะท้อนของผู้นำที่พร้อมนำพาประเทศฝ่าวิกฤตด้วยหลักการและภูมิปัญญาอย่างแท้จริง

#ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top