วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘วิโรจน์’ แซะ ‘สว.’ เหยียบเบรกถี่เกิน ทำห้องประชุมเดือด ‘สส.-สว.’ ดวลฝีปากกันสนั่น
วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 17.25 น. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ที่มีนายมงคล สุระสัจจะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยการพิจารณาในมาตรา 256/28 ที่มีสาระสำคัญคือการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จแล้ว ให้ที่ประชุมรัฐสภาใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย โดยมติเห็นชอบของรัฐสภา ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภา แตกต่างจากรัฐธรรมนูญปี2560 ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และมีสว.ร่วมให้ความเห็นชอบ 1ใน3 โดยสว.สีน้ำเงินขึ้นมาอภิปรายในทางเดียวกันคือ ให้คงเสียงสว. 1ใน3 ในการให้ความเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันการใช้เสียงข้างมากลากไป จนเกิดเผด็จการรัฐสภา และเป็นการยึดหลักการคำนึงถึงเสียงข้างน้อย
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า สว.หลายคนเข้าใจผิดว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ตัดการถ่วงดุลออกไป ไม่ใช่ แต่การตัดเสียง 1ใน3ของสว. แล้วใช้เสียงสว. และสส.มีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันในการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการจัดให้มีการถ่วงดุลอย่างได้สัดส่วน มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากัน สส.มาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง52ล้านคน ขณะที่สว.มาจากการคัดเลือก 48,000คน เหลือเพียง 200คน อำนาจที่ยึดโยงกับประชาชนน้อย และมาจากทางอ้อม อำนาจนั้นก็ต้องลดหลั่นตามสัดส่วนลงมา จึงเรียกว่าการตรวจสอบถ่วงดุลที่ได้สัดส่วน การที่สว.ระบุทำหน้าที่เป็นเบรก ขอถามว่า เคยนั่งรถที่ขับไปเหยียบเบรกไป จนคนโดยสารอ้วกแตกไม่ถึงที่หมาย จะเบรกอะไรนักหนา สว.บางคนดึงเบรกมือ รถก็หมุนคว่ำ รถยนต์ประเทศไทยจะไปสู่จุดหมายได้อย่างไร ส่วนที่น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์สว.อภิปรายว่า รังเกียจนักการเมือง ลืมไปแล้วหรือว่า สว.ก็เป็นนักการเมืองเหมือนกัน ถ้าไม่อยากเป็นนักการเมืองก็ลาออกไป แล้วไปสมัครเป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ 20 หยิบ1 จะหาได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นน.ส.รัชนีกรใช้สิทธิพาดพิงว่า ถูกนายวิโรจน์เอ่ยชื่อโดยไม่จำเป็น ขอให้ถอนคำพูด ตนเพิ่งมาเป็นนักการเมืองสมัยนี้ ไม่ได้เป็นตลอดปีตลอดชาติ ไม่ใช่นักเลือกตั้ง ให้ช่วยสุภาพหน่อย แต่นายวิโรจน์ไม่ถอนคำพูด โดยชี้แจงว่า การเอ่ยชื่อถึง เพราะต้องการอ้างคำพูดของน.ส.รัชนีกร การอ้างชื่อสมาชิก ไม่มีความจำเป็นต้องถอน จากนั้นทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันไปมา จนนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมตัดบทให้ผู้อภิปรายคนต่อไปขึ้นมาพูดต่อ แต่ระหว่างที่ผู้อภิปรายคนต่อไปพูดอยู่ น.ส.รัชนีกรก็ไม่ยอมพยายามประท้วงเพื่อให้นายวิโรจน์ถอนคำพูดให้ได้ จนเกิดการโต้เถียงกันไปมาเป็นเวลานาน ไม่มีใครยอมใครบรรยากาศในห้องประชุมชุลมุน แม้นายมงคลจะพยายามขอร้องนางรัชนีกร และนายวิโรจน์ให้ตอบโต้กันไปมา แต่ทั้งคู่ก็ยังตอบโต้กันไปมาร่วม 15นาที นายมงคลจึงขอให้จบ ก่อนจะดำเนินการประชุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี