วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายกฯยันกลางวงถกผบ.เหล่าทัพ
หนุนทหารรบต่อ
กห.ยันยึดเนิน677-ช่องอานม้า100%
สระแก้วระอุเขมรป่วนไม่เลิก
12สมรภูมิอีสานปะทะหนัก
ไทยตีโต้กัมพูชาดับ165นาย
ทภ.2 เผยเขมรเสริมกำลัง-อาวุธประชิดชายแดนไทย แสดงความเป็นภัยคุกคามต่อเนื่อง 12 พื้นที่ 4 จว.อีสานสู้รบเดือด กัมพูชายิงปืนใหญ่ BM-21 โจมตีไม่แผ่ว บ้านเรือนปชช.เสียหายวงกว้าง แต่ 3 เหล่าทัพไทยจัดหนักตอบโต้เขมรกระเจิง ยันยึด “ช่องอานม้า” ได้ 100% สถาปนาพื้นที่เนิน 677 ได้แล้ว ทหารพลีชีพ 1 นาย ส่วนพื้นที่พระวิหาร ไม่มีท่าทียอมจำนน มีปะทะต่อเนื่อง ขณะที่โฆษกกองทัพไทยเผยยุบสภาไม่กระทบสู้รบ เพราะมีพ.ร.บ.กลาโหมให้อำนาจ ผบ.ทสส.อำนวยการรบต่อ ส่วนนายกฯหารือเหล่าทัพยันพร้อมหนุนกองทัพรบป้องกันอธิปไตยเต็มที่เหมือนเดิม ขณะที่สถานการณ์รบด้านสระแก้วยังเดือด ทหารกัมพูชายึดคืนบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ทัพไทยกร้าวเดินหน้าทวงคืน ทร.แฉ“กัมพูชา” เพิ่มกำลังทหารฝั่งชายแดนตราด-จันท์ต่อเนื่อง อีกทั้ง ยิงกระสุนตกในชุมชนพลเรือนไทยชายแดนตราด ซัดไม่เคารพกติกาสากล-ขัดหลักมนุษยธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประจำวันว่า สถานการณ์ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 11 ธันวาคมเป็นต้นมาจนถึงเช้ามืดวันนี้ (12 ธันวาคม) กัมพูชายังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน และใช้การยิงอาวุธปืนเล็กยาว ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนลาดตระเวนเป็นระยะ บางช่วงมีการยิงอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งใส่ที่มั่นของฝ่ายไทยในพื้นที่ล่อแหลมหลายจุด
เขมรเสริมกำลังโจมตีไทยต่อเนื่อง
ศูนย์ปฎิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เผยต่อว่า ขณะเดียวกันข้าศึกมีความเคลื่อนไหวลักษณะเตรียมกำลัง เช่น การเพิ่มเติมยุทโธปกรณ์ เติมกำลัง การสับเปลี่ยนกำลัง และจัดกำลังยามกลางคืน ฝ่ายไทยดำเนินการระวังป้องกันในพื้นที่ส่วนหน้าต่อเนื่อง พร้อมดำเนินมาตรการตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ และอาวุธยิงสนับสนุนตามความจำเป็น รวมทั้งใช้ระบบตรวจการณ์และโดรน เพื่อหาที่หมาย ขณะที่บางพื้นที่ยังพบการปะทะย่อยด้วยอาวุธปืนเล็กยาวเป็นช่วงๆ
บ้านเรือนปชช.4จว.เสียหายจากBM-21
ความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน ตั้งแต่เริ่มการปะทะ วันที่ 7 ธันวาคมเป็นต้นมา ฝ่ายกัมพูชายิงอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งเข้ามาในพื้นที่พลเรือนของไทยในพื้นที่ 4 จังหวัด มีกระสุนปืนใหญ่ และลูกจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ 55 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 13 หลัง ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี 1 แห่ง ไม่มีบ้านเรือนเสียหาย , จังหวัดศรีสะเกษ 15 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 10 หลัง, จังหวัดสุรินทร์ 34 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง และจังหวัดบุรีรัมย์ 5 แห่ง ไม่มีบ้านเรือนเสียหาย ส่วนการช่วยเหลือประชาชน ปัจจุบันมีเกษตรกรหลายครัวเรือนที่ไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ และอาหารสัตว์เริ่มไม่เพียงพอ กองทัพภาคที่ 2 ประสาน กรมการสัตว์ทหารบกสนับสนุนหญ้าฟ่อนแห้งให้เกษตรกรในพื้นที่ โดยจะนำส่งหญ้าฟ่อนแห้งในเที่ยวแรกแจกให้เกษตรกรอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่อื่นต่อไป
ปะทะวันที่หก12จุด-เขมรยิงBM-21ใส่ไทย
กองทัพภาคที่ 2 ยังรายงานเหตุการณ์ประทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาวันที่หก เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น.โดยกัมพูชาใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงเข้ามาฝั่งไทยหลายพื้นที่ต่อเนื่อง รวมสถานการณ์ที่เกิดเหตุปะทะหนักมี 12 พื้นที่ ได้แก่ ช่องบก ช่องอานม้า พลาญบั้งไฟ พนมประสิทธิโส เขาสัตตะโสม ห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์ พลาญหินแปดก้อน พื้นที่ปราสาทคนา ปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ทั้งนี้ กัมพูชายังตอบโต้ด้วยจรวด BM-21 และปืนใหญ่ โดรนทิ้งระเบิด ต่อเนื่องช่องอานม้าทางฝ่ายไทยตอบโต้ตามได้สัดส่วนเช่นกัน
นายทหารเขมรถูกกระสุนเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวจากกัมพูชาว่า พลจัตวาพน ซารุม รองผู้บัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 (รอง.ผบ.พลน้อย.สสน.8) ผู้บัญชาการกองพันสนับสนุนที่ 384 (ผบ.พัน.สสน.384) รับผิดชอบพื้นที่ตาซึม (ตรงข้ามช่องโดนเอาว์ติดกับภูมะเขือ) ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการโดนกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายไทย ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปรียะเกตุมาลา กรุงพนมเปญ
กองทัพย้ำยุบสภาไม่กระทบรบชายแดน
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลอากาศเอก ประภาส สอนใจดี รอง ผบ.ทอ.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย - กัมพูชา กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า แม้จะมีการยุบสภา แต่การปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องดินแดน ของฝ่ายไทยยังปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันนี้ พร้อมย้ำว่า กองทัพไทยปฏิบัติ ตามสิทธิป้องกันตนเอง หลังโดนกัมพูชาโจมตีก่อน โดยกองทัพไทยจะใช้กําลังเท่าที่จําเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
ใช้พรบ.กลาโหม-ผบ.ทสส.บัญชาการรบ
พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงเพิ่มเติมว่า การยุบสภาไม่ได้มีผลกระทบอะไรในอํานาจสั่งการของทหาร เนื่องจากทหารมีพ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ในการยึดถือปฏิบัติมีแนวทางปฏิบัติชัดเจน ไม่ได้เกี่ยวโยงกับประเด็นทางการเมืองที่มีการยุบสภา ขอยืนยันชัดเจนว่า ถึงแม้ว่าจะมีการยุบสภาการปฏิบัติการทางทหาร มีกฎหมายอื่นที่ทหารยังปฏิบัติตามได้ มีโครงสร้างการปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งนี้ พ.ร.บ.กลาโหมสั่งการผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)เป็นผู้บัญชาการทหาร มีอํานาจควบคุมบังคับบัญชากับเหล่าทัพ การปฏิบัติการต่างๆเหล่านั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผบ.ทหารสูงสุดสั่งการและมอบหมายบทบาทต่างๆให้เหล่าทัพดำเนินการ ขอให้ประชาชนอย่ากังวลย้ำว่าการปฏิบัติการทางทหารยังคงมีต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย
สระแก้วเดือด!ทร.ตอบโต้เขมรุกรานไทย
โฆษกกระทรวงกลาโหมยังแถลงความคืบหน้าการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาว่า กัมพูชายังโจมตีฝ่ายไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะในจ.สระแก้ว เราจำเป็นต้องตอบโต้ เพื่อรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง การดำรงกลยุทธ์ต่างๆของไทยตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคมยังดำเนินการต่อเนื่องกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา กองทัพเรือเปิดปฏิบัติการทำลายศูนย์บัญชาการของกัมพูชาที่ควบคุมสั่งการรุกรานอธิปไตยของไทยก็ยังดําเนินการอยู่ต่อเนื่อง
เขมรยึดคืนบ้านคลองแผงตาพระยา
ด้านพ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบกกล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่สระแก้ว ไทยคุมบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูงได้เบ็ดเสร็จ ส่วนบ้านคลองแผง อําเภอตาพระยา ที่ปรากฎภาพทหารไปร้องเพลงชาติ แต่ทหารกัมพูชาโจมตีโต้ตอบมาอย่างหนักใช้ BM-21 ถล่มทหารบาดเจ็บ จึงพิจารณาแล้วว่าบริเวณดังกล่าวไม่สามารถวางกำลังได้ จึงปรับการวางกําลังเข้ามา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชานําธงชาติของไทยลง แต่ยืนยันไม่ต้องกังวล พื้นที่นี้อยู่ในความพยายามฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่อีกครั้ง
พ.อ.ริชฌา กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่คุมบางส่วน เช่น ช่องอานม้า จ. อุบลราชธานี ช่องคนา จ.สุรินทร์ ส่วน ปราสาทตาควาย อําเภอพนมดงรัก จังหวัดบุรีรัมย์ แม้ว่าเราสามารถทําลายการโจมตีและฐานทหารต่างๆโดยรอบจํานวนมาก แต่ด้วยภูมิประเทศมีความยากลําบาก ทหารยังมีความพยายามที่จะเข้าปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ให้ได้ การประมาณการสูญเสียของทหารกัมพูชาทั้งในส่วนกองทัพภาคที่1และกองทัพภาคที่2 ทำลายยานเกราะรถถัง 9 คัน โดรน 68 ลํา ระบบแอนตี้โดรน1ระบบ แอนตี้โดน 1ระบบ BM-21 จำนวน 1 คัน ทหารกัมพูชาเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 165 นาย พร้อมยืนยันไม่มีพลเรือนได้รับผลกระทบ
เขมรเติมกำลังด้านชายแดนตราด-จันท์
ด้านนาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือยืนยันปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 บริเวณบ้าน3 หลัง อ.ชำราก จ.ตราด ตรวจพบการขุดคูเลตเป็นที่มั่นทางทหารกัมพูชา สร้างบังเกอร์ คอนกรีตที่อยู่ใต้ดิน เป็นภัยคุกคาม ทำให้เราไม่สามารถนำทหารราบนาวิกโยธินเข้ายึดที่หมายได้ และมีอาวุธสนับสนุนยิงมาจากเขตดินแดนของกัมพูชามายังพื้นที่เป้าหมาย จากรายงานข่าวกรองทราบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังด้านจ.จันทบุรีบริเวณด่านผักกาด ด่าน จ.ตราด บ้านหนองลีบน ทำให้เห็นความตั้งใจในการพยายามเป็นภัยคุกคาม ทำให้เรายังต้องดำรงการปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในปฏิบัติการของเรา ทหารบก เรือ อากาศ ที่ทำงานเต็มที่ เพื่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ
ทร.แฉเขมรละเมิดยิงกระสุนตกชุมชนตราด
พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือชี้แจงว่า จากสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในจ.ตราด ล่าสุดปรากฏมีกระสุนและวัตถุระเบิดจากฝ่ายทหารกัมพูชาตกในพื้นที่ชุมชนฝั่งไทย ทั้งบนเส้นทางคมนาคม วัด และบ้านเรือนประชาชน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของพลเรือนชัดเจน อย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวไม่มีประชาชนในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะจ.ตราดอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้าแล้ว ทำให้ผลกระทบจำกัดอยู่เฉพาะความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนเท่านั้น เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการปฏิบัติการทางทหารที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ไม่เคารพกติกาสากล ตามหลักมนุษยธรรม (IHL) และเป็นการกระทำยั่วยุ และสร้างความตึงเครียดและคุกคามสันติภาพในพื้นที่อย่างไม่อาจยอมรับได้ กองทัพเรือยืนยันว่า กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ยังคงทำทุกวิถีทางในการปกป้องประชาชนและปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยความระมัดระวังสูงสุด และจะดำเนินมาตรการตอบสนองอย่างเหมาะสมต่อพฤติกรรมคุกคามทุกลักษณะ เพื่อให้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมและไม่ให้กระทบต่อประชาชนเพิ่มเติม
นายกฯคุยเหล่าทัพหนุนรบต่อแม้ยุบสภาแล้ว
เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยเข้าหารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และผบ.เหล่าทัพ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเตรียมข้อมูลก่อนคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ก็ไปรับฟังการดำเนินการ ความคืบหน้าและได้ไปยืนยันว่า แม้จะยุบสภาแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ดังนั้น การสนับสนุนเหล่าทัพทำภารกิจปกป้องอธิปไตยและดูแลประชาชนก็จะยังเหมือนเดิม ขาดเหลืออะไรก็ยังจะให้การสนับสนุนและดูแลต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าความเข้มแข็ง ศักยภาพ และการดูแลประชาชนเราต้องมีประสิทธิภาพอยู่
ถามถึงกระแสข่าวว่าในพื้นที่ด้านกัมพูชามีการยกธงขาวจริงหรือไม่ นายกฯเผยว่า ตนยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ เรื่องยุทธศาสตร์หรือการตัดสินใจรักษาบูรณภาพแห่งดินแดน ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาทุกฝ่ายของกองทัพ
ฃส่วนเรื่องการจะยกธงขาว มอบให้ฝ่ายทหารดำเนินการใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถูกต้อง ภายใต้มติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด ตอนนี้การดำเนินการต่างๆถือว่าเป็นการดำเนินการภายใต้มติของสมช. ปัจจุบันแนวโน้มสถานการณ์ถือว่าดี
“ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่ ผมพูดได้แค่นี้ เรื่องของทหาร เราเอามาพูดทางสาธารณะไม่ได้ จึงขอฝากหลายๆ ท่านด้วยว่าเราไม่ควรประเมิน ไม่ควรวิเคราะห์ เพราะมันเท่ากับว่าฝ่ายศัตรูฟังอยู่ด้วย”นายกฯกล่าว และว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องทหารรับจ้างมาช่วยเขมรรบ
กลาโหมยันคุมสถานการณ์ช่องอานม้า100%
กระทั่งเวลา 16.00 น. สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ไทยสามารถควบคุมพื้นที่ “ช่องอานม้า” ได้แล้ว 100% หลังมีเหตุปะทะตลอดช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา
แนวรบ7จว.ยังเดือด-ไทยยึดช่องอานม้า/เนิน677
เวลา 16.00 น.ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงคืบหน้าสถานการณ์สู้รบว่า ตั้งแต่เวลา 06:29 น. กัมพูชาเปิดฉากโจมตีมายังฝ่ายไทยทำให้เราจำเป็นต้องตอบโต้การรุกราน ซึ่งสถานการณ์ตลอดแนวชายแดน 7 จังหวัดยังมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดย เวลา 12:00 น.ฝ่ายกัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาบริเวณช่องอานม้าทำให้ทหารไทย จากกรมรบพิเศษที่1 เสียชีวิต 1 นาย กองทัพบกได้ตอบโต้จนสามารถยึดเนิน 677 ที่ช่องอานม้าได้อย่าง 100% แม้มีกำลังพลเสียชีวิตถือว่าเป็นวีรชนผู้เสียสละเพื่อชาติ ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ยังไม่เสร็จสิ้น กัมพูชายังคงระดมยิงอาวุธสนับสนุนเข้ามา ไทยจึงต้องยิงต่อต้าน เพื่อสถาปนาพื้นที่เอาไว้ เพราะยังไม่ไว้วางใจว่ากัมพูชาวางอาวุธแล้วหรือยัง จึงยังมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง
3เหล่าทัพลุยตราดปราบปรปักษ์เข้มข้น
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวต่อว่า ด้านหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ยังดำเนินยุทธการ ‘ตราดปราบปรปักษ์’ ต่อต้านการรุกรานของกัมพูชาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านท่าเส้น จังหวัดตราด ที่กัมพูชาเพิ่มกำลังอาวุธหนักมาประชิดตามแนวชายแดน ขณะที่กองทัพอากาศยังส่งกำลังสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินของทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ปฏิบัติการตลอดทั้งวันนี้ สะท้อนถึงการดำเนินการร่วมกันของทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อต่อต้านปฏิบัติการของฝ่ายกัมพูชา
ไม่มีชักธงขาวที่ปราสาทพระวิหาร
ด้าน พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้สอบถามหน่วยในพื้นที่กรณีที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ว่าปรากฏธงสีขาวในพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารนั้นว่า เป็นการแสดงสัญลักษณ์ของฝ่ายกัมพูชา ว่าต้องการเปิดเจรจาหรือประนีประนอมหรือไม่ แต่จากข้อเท็จจริงพบว่า ในพื้นที่ยังคงมีการปะทะกันด้วยกำลังอาวุธอย่างต่อเนื่อง ธงสีขาวที่ปรากฏ จึงไม่น่าจะเป็นสัญญานของการยอมจำนนแต่อย่างใด
นักรบป่าหวายพลีชีพอีก1ที่ช่องอานม้า
วันเดียวกัน ทีมโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศไว้อาลัยแด่ ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน ทหารกล้ารายที่ 10 ผู้พลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ส.อ.พชร เป็นนักรบพิเศษ สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 (รพศ.1 พัน.2) ซึ่งรู้จักกันในนาม “รบพิเศษป่าหวาย” ประจำการที่จ.ลพบุรี โดยปฏิบัติราชการสนามกับกองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 ด้วยหน้าที่สำคัญคือ พนักงานวิทยุสนาม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารข้อมูลท่ามกลางสมรภูมิอันตราย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นที่เนิน 677 ในพื้นที่สมรภูมิช่องอานม้า ต.นาเยีย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ส.อ.พชรถูกระเบิดจากฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้าที่ศีรษะโดยตรง ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที แม้ในวินาทีสุดท้าย ส.อ.พชร ก็ยังยืนหยัดทำหน้าที่เพื่อยืนยันคำมั่นว่า “ทุกตารางนิ้วของไทย ต้องปลอดภัยจากการรุกราน” วีรกรรมนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเสียสละ แต่ยังเป็นแบบอย่างให้กับทหารไทยทุกนาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี