‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’

‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.01 น.

‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอสารพัดขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ แนะ‘ทรัมป์’หากอยากสร้างสันติภาพจริง ต้องแก้ที่โครงสร้างอำนาจ ไม่ใช่มากดดัน-ชี้นำ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้ากล้าชน‘มหาอำนาจ’

14 ธันวาคม 2568 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวให้ความเห็นต่อ ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และการเข้ามามีส่วนร่วมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า ประเด็นที่ประชาคมโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญอย่างแท้จริง ในเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา คือ เรื่องการมีอยู่ของ ระบอบฮุนเซนซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาด้านความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค


รศ.ดร.โอฬาร กล่าวต่อว่า ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหากับประเทศกัมพูชา หรือประชาชนกัมพูชา แต่มีปัญหากับระบอบการเมืองที่อาศัยระบบอุปถัมภ์ทุนผิดกฎหมาย เครือข่ายสแกมเมอร์ และการฟอกเงิน เพื่อสร้างและค้ำจุนอำนาจทางการเมือง กองทัพ และกองกำลังติดอาวุธรับจ้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาคและความมั่นคงของหลายประเทศทั่วโลก ในมุมมองทางรัฐศาสตร์ หากประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการมีบทบาทในการสร้างสันติภาพอย่างแท้จริง การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องมุ่งไปที่โครงสร้างอำนาจของระบอบดังกล่าว ไม่ใช่การกดดันหรือชี้นำประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังปกป้องอธิปไตยของตนเอง เพราะกัมพูชาไม่ใช่ศัตรูของไทย แต่ระบอบฮุนเซนคือภัยคุกคามผ่านอาชญากรรมสแกมเมอร์ และการฟอกเงินในระดับนานาชาติ

รศ.ดร.โอฬาร ยังกล่าวถึงการสื่อสารตอบโต้ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯว่า นายอนุทิน ได้สร้างความสนใจ และความประหลาดใจแก่ผู้นำในหลายประเทศ รวมถึงประชาชนไทยในวงกว้าง เนื่องจากไม่ได้เป็นเพียงการแสดงท่าทีทางการทูตตามกรอบแบบแผนเดิม หากแต่สะท้อนความกล้าหาญทางการเมืองและภาวะผู้นำในการเผชิญแรงกดดันจากประเทศมหาอำนาจ ด้วยการใช้ข้อมูลและเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา ลักษณะการสื่อสารดังกล่าวพบได้ไม่บ่อยในหมู่ผู้นำของประเทศขนาดกลาง  ซึ่งโดยทั่วไปมักต้องดำรงอยู่ภายใต้โครงสร้างอำนาจระหว่างประเทศที่ถูกครอบงำด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการเมืองระหว่างประเทศ การแสดงจุดยืนของผู้นำไทยในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงความมั่นใจในศักดิ์ศรีของรัฐชาติบนเวทีโลก

“แม้ถ้อยคำที่ใช้จะมีลักษณะแข็งกร้าว และอาจก่อให้เกิดความกังวลต่อผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแต่ในบริบทของภาวะวิกฤตด้านความมั่นคง การแสดงออกถึงความชัดเจนและความเด็ดขาดของผู้นำถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ ผู้นำทางการเมืองไม่ได้มีบทบาทเพียงการบริหารประเทศ หากยังต้องทำหน้าที่เชิงสัญลักษณ์ในการสะท้อนความรู้สึกร่วมของสังคม และยืนยันว่ารัฐบาลยืนอยู่ข้างประชาชนในยามที่ประเทศ เผชิญแรงกดดันจากอำนาจภายนอก” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top