วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'ศรีสุวรรณ' ร้อง 'กกต.' สอบ 'ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา-ชัยธวัช' ครอบงำหรือชี้นำพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล"หรือไม่ กรณีร่วมกิจกรรม 'ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน'
15 ธ.ค. ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสให้นายทะเบียนพรรคการ เมือง และ กกต.ให้ไต่สวนและสอบสวน กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปร่วมกิจกรรม“ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจ ขอไปต่อด้วยกัน”นั้น เข้าข่ายควบคุม ครอบงำ และชี้นำพรรคประชาชนหรือไม่ เนื่องจากบุคคลทั้ง 4คน เคยถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง มีกำหนดเวลาสิบปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรม นูญมีคำสั่งยุบพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรค การเมืองใดหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ตามลำดับ จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลต้องห้ามตามข้อบังคับพรรคประชาชน พ.ศ.2567 ข้อ 12(6) ประกอบมาตรา 9 (3) ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 เพราะอยู่ระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 (5) ของรัฐธรรมนูญ 2560
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่บุคคลทั้ง 4นั้น กลับมาร่วมกิจกรรมและพูดคุยในเวทีดังกล่าวของพรรคประชาชน ซึ่งคำพูดของทั้ง 4 คนที่พูดออกมาสามารถบ่งบอกและใช้เป็นหลักฐานได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบุคคลทั้ง 4 คนยังวนเวียนช่วยเหลือเกื้อกูลอยู่เบื้องหลังการดำเนินกิจกรรมของพรรคประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 การสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี อันอาจถือได้ว่าเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งขัดต่อมาตรา 29 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดเป็นข้อห้ามไว้ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 108 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ส่วนพรรคประชาชนก็ย่อมถือได้ว่าปล่อยให้บุคคลซึ่งมิใช่สมาชิกมาควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคประชาชน อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 ด้วย ซึ่งมีโทษสูงสุดถืงขั้นยุบพรรคประชาชนได้ ตามมาตรา 92(3) ด้วย
เมื่อถาม หาก กกต.ไม่รับพิจารณา เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเหตุผลของ กกต. แต่หลักฐานที่ตนนำมายื่นเป็นสิ่งที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไป พฤติกรรมและคำพูดของคนทั้ง 4 ว่า เป็นควบคุมหรือชี้นำอย่างชัด เจน ถ้า กกต.ยังไม่รับฟัง ตนก็อาจจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องเอาผิด กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ต่อ ปปช.ฐานทุจริตต่อหน้าที่และฝ่าฝืนจริยธรรมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี