ยังไม่ได้รับรายงาน'จีนขอคืน' ทบ.ยันขีปนาวุธ-อาวุธยึดได้จากกัมพูชา อยู่ในการควบคุมของไทย

ยังไม่ได้รับรายงาน'จีนขอคืน' ทบ.ยันขีปนาวุธ-อาวุธยึดได้จากกัมพูชา อยู่ในการควบคุมของไทย

วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.36 น.

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการเปิดฉากระดมยิงโจมตีโดยอาวุธหนักของกัมพูชามายังฝ่ายไทย หลักๆ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเป็นสำคัญ นอกจากนั้นในเรื่องการระดมยิง ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนโดยด่วน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ หลังจากเมื่อวานนี้มีแจ้งอพยพในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้ว

พล.ร.ต.สุรสันต์ ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ยึดตัวประสาทตาควายได้ 100% ส่วนพื้นที่รอบข้างยังมีการปะทะกันอยู่ต่อเนื่อง ทางฝ่ายไทยยังมีความพยายามยึดครองพื้นที่รอบบริเวณนั้น ส่วนการที่ฝ่ายกัมพูชาออกมาระบุว่าภาพทหารไทยยึดประสาทตาควาย เป็นเฟกนิวส์นั้น ขอยืนยันว่าภาพนั้นเป็นภาพจริง พร้อมยืนยันว่าฝ่ายไทยยังเข้มแข็งและรุกรบในการยึดคืนในสิ่งที่เป็นพื้นที่ของไทยต่อไป


ส่วนที่กัมพูชามีการเสนอภาพและข่าว ว่ากำลังพลไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ได้มีการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นการใช้แอปพลิเคชั่นเอไอ Gemini โดยมีข้อสังเกตเป็นดาวในรูป อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการทางทหารของกำลังพลที่เข้ายึดพื้นที่ได้แล้วได้ย้ำให้ระมัดระวังกลลวงและล่อให้เราติดกับดัก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติอยู่หน้าแนว

ทางด้านสถิติ ประชาชนเสียชีวิตทางอ้อม รวม 12 ราย และผู้ที่เสียชีวิตจากการโจมตีโดยอาวุธของกัมพูชา จำนวน 1 ราย ส่วนผู้ได้บาดเจ็บ 5 คน สำหรับการเฝ้าระวังผู้ที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจก็ขอให้คนใกล้ชิดได้สอดส่องดูแลใส่ใจรับฟัง

ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวทางการยึดเนิน 350 หลังจากทหารไทยเข้าควบคุมตัวประสาทตาควายได้แล้ว ว่า พื้นที่ปฏิบัติการในรอบบริเวณปราสาทตาควายซึ่งเป็นเนินสำคัญๆ ประมาณ 2 - 3 พื้นที่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบกับปราสาทตาควาย อยู่ระหว่างความพยายาม และก็ยังเป็นไปตามแผน ยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล เชื่อว่าในขีดความสามารถของกองทัพบกจะดำเนินการได้

เมื่อถามถึงสิทธิในการครอบครองระบบขีปนาวุปต่อสู้รถถัง GAM102 และกระแสข่าวที่จีนจะขออาวุธดังกล่าวคืน พล.ต.วินธัย กล่าวว่า สำหรับอาวุธต่อสู้รถถังของจีนยังไม่มีข้อมูลว่ามีการมาขอคืน ซึ่งในเรื่องยุทโธปกรณ์ คงมีหลายอย่าง และเมื่อมีการเข้าควบคุมที่หมายก็จะมียุทโธปกรณ์ที่กัมพูชาทิ้งในพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดระเบียบและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ส่วนเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะมีการจัดเก็บไว้ก่อน ยังไม่มีการดำเนินการใดต่อสิ่งอุปกรณ์เหล่านั้น

"เป็นสิ่งที่พวกเราต้องควบคุมไว้ด้วย เพราะอยู่ในพื้นที่การรบ แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้นก็ต้องรอหลังเสร็จสิ้นภารกิจ แล้วค่อยว่ากัน" โฆษกกองทัพบก ระบุ

เมื่อถามว่า อาวุธดังกล่าวไทยมีสิทธิครอบครองหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เป็นยุทโธปกรณ์ที่เรายึดได้ก็ต้องอยู่ในการดูแลของไทย

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top