วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันนี้ 17 กันยายน พ.ศส. 2568 เอ็ดดี้ อัษฎางค์ นักวิชาการอิสระ ได้ออกมาเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้งในปีหน้าที่พรรคภูมิใจไทยจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. มาเป็นพรรคอันดับ 1 โดยให้เหตุผลทั้ง 9 ทำเอาชาวเน็ตหลายคนถึงกับคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นลงมากันจไนวนมากและมีแนวโน้มเหมือนกันกับโพสต์ของ เอ็ดดี้ อัษฎางค์

“ผมเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่ พรรคภูมิใจไทย จะก้าวขึ้นมาเป็นพรรคอันดับ 1
#อัษฎางค์ยมนาค | #อ่านเกมอำนาจ
ด้วยเหตุผลสนับสนุนหลักๆ ดังนี้
_______________________________________________
1. ยุทธศาสตร์ "บ้านใหญ่"
ปัจจัยที่แข็งแกร่งที่สุดของภูมิใจไทยไม่ใช่กระแสพรรค แต่คือ "ตัวบุคคล" ในระบบเขต ในช่วงที่ผ่านมา ภูมิใจไทยประสบความสำเร็จในการดึงตระกูลการเมืองหรือ "บ้านใหญ่" เข้าสังกัด การได้บ้านใหญ่ที่มีฐานเสียงแน่นหนาในมือจะการันตีจำนวน สส. เขตได้แม่นยำกว่ากระแสพรรค เดิมภูมิใจไทยแกร่งในอีสานใต้ แต่ปัจจุบันสามารถขยายอิทธิพลเข้าสู่ภาคกลางและเหนือตอนล่างผ่านเครือข่ายบ้านใหญ่เหล่านี้ ทำให้มีโอกาสกวาด สส. เขตได้เป็นกอบเป็นกำ
_______________________________________________
2. ความได้เปรียบจากการคุม "มหาดไทย" ยาวนาน
พรรคส้มทิ้งไพ่โง่ที่โหวตให้ภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลแต่ตัวเองไม่ร่วมรัฐบาล  และการที่พรรคภูมิใจไทยครองเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย มาอย่างยาวนานต่อเนื่องและปัจจุบันหัวหน้าพรรคคือนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความได้เปรียบมหาศาล
การคุมกลไกมหาดไทยหมายถึงการเข้าถึงเครือข่าย ผู้ว่าฯ, นายอำเภอ, กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น
_______________________________________________
3. คู่แข่งสำคัญอยู่ในภาวะ "อ่อนแรง"
ในขณะที่ภูมิใจไทยกราฟพุ่งขึ้น คู่แข่งหลักกลับประสบปัญหา:
• พรรคเพื่อไทย: ฐานเสียงเดิมสั่นคลอนและไหลมาทางภูมิใจไทย
• พรรคประชาชน: แม้จะมีกระแสปาร์ตี้ลิสต์ดี แต่ในพื้นที่ชนบทและต่างจังหวัดยังเจาะฐานเสียงบ้านใหญ่ของภูมิใจไทยได้ยาก ประกอบกับถูกโดดเดี่ยวทางการเมือง ทำให้โอกาสตั้งรัฐบาลจริงมีน้อยกว่า
_______________________________________________
4. สถานะ "แกนนำขั้วอนุรักษ์นิยมใหม่"
ภูมิใจไทยได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็น "พี่ใหญ่" ของฝั่งอนุรักษ์นิยมแทนที่พรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ด้วยทรัพยากรที่พร้อมที่สุด พรรคภูมิใจไทยจึงกลายเป็น "พรรคหลัก" ที่กลุ่มทุนและชนชั้นนำฝั่งอนุรักษ์นิยมเลือกสนับสนุนเพื่อสู้กับพรรคประชาชน ทำให้มี "กระสุน" ดินดำในการเลือกตั้งมากกว่าพรรคอื่นอย่างชัดเจน
_______________________________________________
5. นโยบายประชานิยมและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ในฐานะรัฐบาลรักษาการ นายกฯ อนุทินได้ผลักดันนโยบายที่เห็นผลเร็วในช่วง 4 เดือนก่อนเลือกตั้ง เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งดึงดูดใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งระดับรากหญ้าได้ดี โดยไม่ต้องเน้นอุดมการณ์ซับซ้อน
_______________________________________________
6. นโยบาย "คนละครึ่ง" (เวอร์ชันอัปเกรด)
นี่คือการหยิบ "ของดีที่คนชอบอยู่แล้ว" มาปัดฝุ่นใหม่
“คนละครึ่ง” ไม่ใช่นโยบายเศรษฐกิจ แต่คือ เครื่องมือสร้างฐานมวลชน คนไทยคุ้นเคยและชอบนโยบายนี้มากที่สุดในบรรดานโยบายแจกเงิน การที่ภูมิใจไทยนำกลับมาทำในชื่อ "คนละครึ่งพลัส" ยิ่งทำให้ได้ใจทั้ง "รากหญ้า" และ "มนุษย์เงินเดือน" ซึ่งเป็นฐานเสียงขนาดใหญ่ที่พรรคอื่นเจาะได้ยาก
_______________________________________________
7. รัฐมนตรีคนนอกระดับ "Dream Team"
ข้อนี้สำคัญที่สุดในการลบภาพลักษณ์เดิมของภูมิใจไทยที่เป็น "พรรคบ้านใหญ่/นักเลงภูธร" การดึง "ตัวท็อป" มานั่งเป็นรัฐมนตรี  ทำให้ได้คะแนนจาก "ชนชั้นกลางในเมือง" และ "นักลงทุน" ที่ปกติไม่เลือกภูมิใจไทย ทำให้พรรคก้าวข้ามความเป็นพรรคท้องถิ่นสู่พรรคระดับชาติได้อย่างสมบูรณ์
_______________________________________________
8. จุดยืนเรื่องพรมแดน
สถานการณ์ชายแดนที่่นายกฯ อนุทิน กล้าขัดใจอเมริกา ไม่ยอมหยุดยิงตามคำสั่งสหรัฐฯ ส่งผลต่อคะแนนนิยมมหาศาลด้วยเหตุผลทางจิตวิทยามวลชนและการเมือง เพราะเป็นการกู้คืน "ศักดิ์ศรีของชาติ" จากเดิมที่อาจถูกมองเป็นนักเจรจาประนีประนอม กลายเป็น "ผู้นำที่กระดูกสันหลังแข็ง“
_______________________________________________
9. สุดท้ายคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจคิดไม่ถึงนั่นคือ คำพูดของคุณอนุทินที่ว่า “ลุงตู่คือเจ้านายผม” และเลือกหยิบนโยบาย "คนละครึ่ง" ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่แฟนคลับลุงตู่ภูมิใจที่สุด มาปัดฝุ่นทำต่อ ส่งผลดีอย่างมหาศาลต่อการดึงคะแนนเสียงจากฐานอนุรักษ์นิยม นี่คือการเดินเกมที่ชาญฉลาดมากในแง่ยุทธศาสตร์การเมืองที่เรียกว่า "การสืบทอดมรดกทางการเมืองโดยชอบธรรม"
การเป็น "บ้านหลังใหม่" ที่อบอุ่นในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางมือไปเป็นองคมนตรี กองเชียร์จำนวนมากเคว้งคว้างเพราะพรรครวมไทยสร้างชาติอาจไม่มีผู้นำที่บารมีเท่าเดิม การที่อนุทินแสดงตัวเป็น "ลูกน้องที่ดี" และมีจุดยืนปกป้องสถาบันฯ ชัดเจน ทำให้เขากลายเป็น ตัวเลือกอันดับ 1 ที่แฟนคลับลุงตู่จะยอมรับได้มากที่สุดได้ไม่ยากเย็น
_______________________________________________
สรุป
มีโอกาสสูงมากที่ภูมิใจไทยจะกวาด สส. มาเป็นพรรคอันดับ 1 เพราะเล่นเกมครบทุกหน้าและอุดช่องโหว่เดิมได้เกือบหมดจดครับ
_______________________________________________
วิเคราะห์จากมุมมองของคนที่เป็นติ่งภูมิใจไทย”
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี