วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ตาควาย-ช่องอานม้า’เดือด
ทหารลุยไล่เขมร
นาวิกโยธินปักธงบ้าน3หลัง
คุมชายแดนตะวันออกสำเร็จ
ตอกกัมพูชาต้องหยุดยิงก่อน
ศูนย์แถลงข่าวไทย-กัมพูชา แจงท่าทีรัฐบาล-กองทัพ รุกสมรภูมิสื่อสารประชาคมโลก เพิ่มประกาศ 5 ภาษาครอบคลุมทุกปท.อาเซียน กองทัพชี้เขมรรบตลอดแนว “เนิน 350” ยุทธภูมิสําคัญ“ปราสาทตาควาย” รบเข้มข้น ส่วนสระแก้ว-ตราด โดนหนัก “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” ขณะที่ ทภ.2ชี้สมรภูมิ “ตาควาย-ช่องอานม้า”เดือด ไทยเปิดเกมรุกใช้อาวุธหลายมิติตอบโต้เขมรเปิดฉากยิงใส่ไทย โดยใช้โดรน – BM-21 โจมตีต่อเนื่อง หวังยึดพื้นที่คืน แต่สุดท้ายทหารไทยเข้าคุมช่องอานม้าได้ 100% ปักธงชาติไทยสำเร็จ ทหารเจ็บ 5 “นาวิกฯ”ปักธงไทยยึดบ้านสามหลังสำเร็จ ทำลายเขมรสิ้นสภาพ-ไร้ตอบโต้ ขณะที่“สีหศักดิ์”ตอกเขมรต้องเริ่มหยุดยิงก่อนหันมาเจรจาจริงจัง ย้ำไทยไม่ได้เริ่ม นายกฯ เผยรับรายงานปะทะชายแดนทหารพลีชีพเพิ่ม 2 นายแล้ว ให้กองทัพ แจงสาเหตุ ฝากถึงเขมร หากใช้สติ ก็ควรรู้เรื่องเจรจา
เมื่แเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำหลักการศูนย์แห่งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายึดหลักการ 5 ข้อในการดําเนินการคือ 1.ความชอบธรรม 2.ด้านมนุษยธรรม 3.ความโปร่งใส เท่าทียมปลอดภัย 4.สื่อสารทิศทางเดียวกัน 5.สร้างความเชื่อมั่นและขวัญกําลังใจ ปัจจุบันศูนย์แห่งนี้มีการสื่อสารผ่าน ภาษาไทยอังกฤษ กัมพูชา จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส อารบิก สเปน เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี อนาล็อก (ภาษาที่ฟิลิปปินส์ใช้) และได้เพิ่มเติมภาษา อินโดนีเซียมาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ สปป.ลาว ให้ครอบคลุมทุกภาษาที่ใช้ในอาเซียน เพื่อนําเสนอข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกและประชาชนในอาเซียนได้รับทราบข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่า ศูนย์แห่งนี้ยังมุ่งมั่นดําเนินการลักษณะนี้ เพื่อนําข้อมูลสู่ประชาชนอย่างถ่วงที
เขมรรบตลอดแนว-ไทยยึดช่องอานม้าสำเร็จ
พลเรือตรี สุรสันต์กล่าวต่อว่า สําหรับไทม์ไลน์สถานการณ์ที่ผ่านมา กัมพูชายังคงเปิดการปะทะต่อเนื่องตลอดแนว ระดมอาวุธยิงสนับสนุนเข้าไปฝั่งไทย โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า ซึ่งเราได้ผลักดันและประสบความสําเร็จป้องกันการรุกราน นอกจากนี้ กัมพูชายังถล่มเนิน 350 บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ ทําให้กําลังพลเสียชีวิต 2 นาย แต่เรายังปกป้องพื้นที่ มีปฏิบัติการที่มีนัยสําคัญ ในส่วนบ้านหนองหญ้าแก้วบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พื้นที่กองกําลังบูรพา กองทัพภาคที่1 ยังมีการปะทะต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา กัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ แต่เราสามารถค้ำยันพื้นที่และผลักดันออกไป
นอกจากนี้ ในจ.ตราดแม้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เราพยายามลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด แต่ช่วงค่ำที่ผ่านมากัมพูชายังระดมยิงต่อเนื่องตลอดแนว จ.ตราดยังได้รับผลกระทบและต้องชื่นชมกองทัพเรือที่รับมือการรุกรานของกองทัพเขมรได้มีประสิทธิภาพ
ตาควาย-เนิน350รบหนักทหารพลีชีพ2
พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมถึงความยากในการสถาปนาพื้นที่ความมั่นคงปราสาทตาควายว่า การรบยากลำบาก ด้วยสภาพพื้นที่ เนื่องจากมีพื้นที่สูง เนิน 350 ที่ทหารกัมพูชายึดไว้ก่อนหน้านี้ และทำเป็นที่มั่นแข็งแรง การที่ทหารไทยจะยึดประสาทตาควายได้นั้น เนิน 350 เป็นจุดยุทธภูมิสําคัญ ตอนนี้บริเวณดังกล่าวสู้รบอย่างหนักเป็นพื้นที่ช่วงชิงอยู่ระหว่างการปฏิบัติการ ส่งผลให้ทหารสละชีพ 2นายตามที่เป็นข่าว ส่วนการนำร่างทหารสละชีพออกจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ต้องเรียนว่าด้วยความยากลําบาก สถานการณ์การรบบริเวณนั้นยังไม่จบ กําลังเข้มข้น พร้อมปฏิเสธกรณีทหารไทยถูกจับกุมว่าไม่มีรายงานเข้ามา
รบยืดเยื้อเพราะไทยป้องกันตัวไม่ได้รุกก่อน
พันเอกริชฌาย้ำว่าการรบที่ยืดเยื้อยืนยัน ไทยทำเพื่อป้องกันตนเองบนพื้นฐานการโจมตีเข้ามา เราไม่ได้เป็นฝ่ายรุกเข้าไป ฉะนั้นการรบยืดเยื้อหากกัมพูชายังโจมตีเข้ามา ไทยต้องป้องกันตนเอง ซึ่งมีหลายรูปแบบ พื้นที่ที่เราต้องยึดคืน ซึ่งเป็นอธิปไตยของไทยเอง เพราะทําให้กัมพูชาได้เปรียบเข้ามาโจมตีไม่เพียงแต่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตครอบคลุมถึงประชาชน หากยังโจมตีเข้ามาเราก็ต้องป้องกันตัวเอง ส่วนขีปนาวุธที่ยึดได้ นํามาใช้ประโยชน์ของเรา ส่วนรายละเอียดเชื่อว่าเราต้องทําให้เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งนี้ มีกระบวนขั้นตอนดําเนินการอยู่แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ดําเนินการ เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ได้ เพราะมีผลกระทบต่อประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง
กต.ย้ำ3ข้อเสนอไทยบี้เขมรหยุดยิง
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน วาระพิเศษที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ว่า กระทรวงต่างประเทศอยู่ระหว่างประสานรายละเอียดว่าเป็นองค์ประกอบ จากรูปแบบการประชุมเป็นโอกาสของฝ่ายไทยที่จะชี้แจงให้เพื่อนอาเซียนรับทราบสิ่งที่เกิดขึ้น การปฏิบัติการของไทย ซึ่งมีความชอบธรรม ตามกฏหมายระหว่างประเทศ และเป็นโอกาสสำคัญที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศจะใช้โอกาสที่ดีในการชี้แจงสถานการณ์ทุกอย่าง แน่นอนว่าไทยต้องการสันติภาพตั้งแต่แรก แต่สันติภาพครั้งนี้ต้องมาพร้อมความมั่นคงความปลอดภัยของคนไทย
นางมาระตียังระบุเรื่องความคาดหวังว่ากัมพูชาจะตอบรับ 3 เงื่อนไขหยุดยิงของไทยว่า ไทยยืนยันใน 3 ข้อที่ประเทศไทยต้องการคือ 1. กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดจริงก่อน ในฐานะที่กัมพูชาเป็นฝ่ายรุกราน
2.การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและต้องต่อเนื่อง ต้องไม่ยิงซ้ำ และ3.ขอเห็นความจริงใจของกัมพูชาในการให้ความร่วมมือ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ร่วมกันซึ่งในประเด็นนี้ กระทรวงการต่างประเทศพยายามผลักดันมาตลอด ตั้งแต่เกิดกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดครั้งแรกจนเสียขา
รบยืดเยื้อหรือไม่อยู่ที่เขมรรับเงื่อนไขหรือไม่
“ ย้ำว่า 3จุดยืนนี้ไม่เกี่ยวกับการประชุมอาเซียนวันที่ 22 ธันวาคม แต่จะเป็นคำตอบของฝ่ายไทย หากประเทศสมาชิกสอบถาม หลังหลายประเทศ เช่น สหรัฐ จีน มาเลเซีย ต้องการให้หยุดยิง และเราย้ำชัดเจนว่าเราไม่ใช่เป็นผู้รุกราน แต่กัมพูชาเป็นผู้รุกรานต้องเป็นผู้ประกาศ เพราะประเทศไทยมีหน้าที่ปกป้อง พื้นที่อธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน ที่เราได้ให้ความสำคัญ เป็นลำดับแรก ส่วนสถานการณ์จะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับกัมพูชาจะตอบรับสามข้อนี้หรือไม่” รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศระบุ
ทภ.2เปิดสมรภูมิเดือดช่องอานม้า-ตาควาย
ขณะเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาประจำวันที่ 16 ธันวาคม ด้านจังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ช่องบกตลอดทั้งวันสถานการณ์โดยรวมปกติ ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่ อยู่ในสถานะเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมพื้นที่ ช่องอานม้า เป็นพื้นที่การรบเข้มข้นที่สุดตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง เข้าตีที่หมายตามแผนปฏิบัติการ “ยุทธการศตวรรษ” ควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ 100% เคลียร์พื้นที่ ปักธงชาติไทยได้สำเร็จ นอกจากนี้ ยังตรวจพบและทำลาย PMN-2 ในพื้นที่ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วย BM-21 ปืนใหญ่ ปืน ค. ปทนเล็กยาว และโดรน ฝ่ายไทยมีการเสริมกำลังสถาปนาแนววางกำลังใหม่ และวางลวดหนามเพิ่มความมั่นคง
ศรีสะเกษยังปะทะ-ไทยคุมสถานการณ์ได้
จังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต – โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่ไปยังพื้นที่ช่องตาเฒ่า-สัตตะโสม โดยกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาที่บริเวณเขาสัตตะโสมต่อเนื่อง จากการข่าวพบฝ่ายกัมพูชา ขาดเสบียง และพยายามต่อต้านฝ่ายไทยด้วยอาวุธหนัก
พื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายปะทะเป็นระยะด้วยปืนเล็กยาว และ ปืน ค. ประปราย ฝ่ายไทยตรวจพบรถส่งกำลังบำรุงและรถบรรทุกฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง ไทยจึงใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงทำลายเป้าหมายทางทหารกัมพูชา โดยกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ รถถัง รวมถึงโดรนทิ้งระเบิดตอบโต้กันเป็นระยะตลอดทั้งวัน ภาพรวม ไทยยังควบคุมสถานการณ์ได้ พื้นที่ภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ไทยพบโดรนขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชา บินหาเป้าหมาย ส่วนแนวรบช่องสะงำ ไม่มีการสู้รบ
สุรินทร์เขมรยิงBM-21ตกฐานทหารเจ็บ5
สถานการณ์เฝ้าระวัง ชายแดนฝั่งจังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่ช่องจอม - ช่องเปรอ – ช่องระยี ทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้องBM - 21 จำนวน 1 ชุด เข้ามาฝั่งไทย พื้นที่คนา ไทยยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ได้ ทหารกัมพูชาใช้โดรนบินตรวจการณ์ในพื้นที่ตลอด นอกจากนี้ ทหารกัมพูชายังสั่งการให้ยิงปืนใหญ่สนับสนุนพื้นที่ปราสาทคนาหลายครั้ง กระสุนปืนใหญ่และBM-21 ตกบริเวณฐานทหาร แต่กำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ
พื้นที่ปราสาทตาควาย ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากการยิงตอบโต้ของฝ่ายทหารกัมพูชา กำลังพลฝ่ายไทยบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดระเบิดของอาวุธวิถีโค้ง จากจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาที่เนิน 350
จากนั้นทหารกัมพูชา ยังสั่งการให้ใช้ปืนใหญ่ และรถถังบุกเข้ายิงไปที่พื้นที่ปราสาทตาควายหลายครั้ง ก่อนตรวจพบ UAV ของทหารกัมพูชา 1 ลำบินในพื้นที่ พื้นที่ช่องกร่าง กัมพูชาตรึงกำลังตลอดแนว ยิงปืนใหญ่เป็นห้วงๆ พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ไทยตรวจพบBM-21 และ UAV/Drone หลายช่วงเวลา และมีการยิงจากฝ่ายตรงข้ามใส่ฐานฝ่ายเรา แต่ยังไม่เกิดความสูญเสีย อยู่ในสถานะเฝ้าระวังระดับสูง
เช่นเดียวกับ ชายแดนจ.บุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ปรากฏการยิงตอบโต้กันด้วยปืน ค. และปืนเล็กยาว ประปราย ไทยยิงตอบโต้ด้วยปืน ค. และ ปืนใหญ่หนาแน่นตลอดเวลา
ไทยยึดพื้นที่สำคัญรวมถึงช่องอานม้าสำเร็จ
สรุปสถานการณ์ภาพรวมวันที่ 16 ธันวาคม เป็นวันที่การรบรุนแรงสูง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควาย ไทยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเชิงยุทธการ ใช้อาวุธประสานหลายมิติทั้งปืนใหญ่ รถถัง ทหารราบและโดรน ฝ่ายกัมพูชาใช้ BM-21 ปืนใหญ่ ปืน ค. UAV และโดรนทิ้งระเบิดต่อเนื่อง และไทยสามารถยึดควบคุมพื้นที่สำคัญหลายจุดได้สำเร็จ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า มีกำลังพลฝ่ายไทยบาดเจ็บหลายราย แต่ระบบแพทย์สนามและการส่งกลับทำได้ต่อเนื่อง แนวโน้มสำคัญคือ กัมพูชาใช้โดรน จำนวนมากขึ้นควบคู่กับการยิงจรวด BM-21 ภาพรวมไทยยังคงครองความได้เปรียบเชิงพื้นที่ และการควบคุมสถานการณ์ได้ดี
โคราชถกด่วนสกัด‘โดรนปริศนา’บินว่อน!
ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) นครราชสีมา เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง จ.นครราชสีมา ร่วมกับผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 กอ.รมน. กองบิน 1 ตำรวจภูธรจังหวัด ป้องกันจังหวัด เพื่อวางแนวทางออกมาตรการบังคับใช้กฎหมายการบินโดรน หรืออากาศยานไร้คนขับในจ.นครราชสีมา หลังพบโดรนบินในพื้นที่จำนวนมาก เพื่อเฝ้าระวังโดรนสอดแนมเข้ามาในพื้นที่ จากความไม่ปกติทางแนวชายแดน เบื้องต้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศ งดบินโดรนทั่วทั้งจังหวัดตลอด 24 ชม. จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย อีกทั้ง ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด รวมถึงว่าวและอุปกรณ์อื่นที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และกระทบความมั่นคงทางอากาศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นาวิกฯปักธงชาติไทยยึดบ้าน3หลังสำเร็จ
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอีกครั้งว่า จนถึงขณะนี้ยังเกิดการปะทะต่อเนื่อง เขมรโจมตีชายแดนพื้นที่สําคัญ ได้แก่ ประสาทตาควาย อําเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่อื่นตลอดแนว หวังเข้ามายึดครองพื้นที่ แต่ถูกฝ่ายไทยสกัดกั้นป้องแนวรบอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนช่วงบ่าย เขมรโจมตีบ้านสามหลัง จังหวัดตราด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตอบโต้จนสามารถป้องกันและยึดพื้นที่ได้สําเร็จแล้ว 100% และปักธงชาติไทยเรียบร้อยแล้ว
เขมรยิงBM-21ตกใส่ไทยไทย105จุด
ด้านพันตรีหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบกสรุปความเสียหายฝ่ายไทยครอบคลุมทุกจังหวัด ถูกอาวุธหนัก BM-21 โจมตีบ้านเรือนประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพภาคที่ 1 จ.สระแก้ว อําเภอตาพระยา อ.โคกสูง มีกระสุนตก 13 จุด กองทัพภาคที่ 2 จ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ มีกระสุนตก 92 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 105 จุด มีบ้านเรือนเสียหาย 27 หลังคาเรือน ประชาชนเสียชีวิต 1ราย กระทบอาคารสถานพยาบาล 1 แห่ง ศาสนสถาน 4 แห่ง สถานศึกษา 1 แห่ง พร้อมยืนยันว่า การรบควรเกิดระหว่างทหารกับทหาร ไม่ควรกระทบประชาชน กองทัพบกขอประณามการกระทําของเขมรละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน กติกาสากลระหว่างประเทศ พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานส่งให้ส่วนเกี่ยวข้องขยายผลในเวทีโลกต่อไป
นย.ทำลายเขมรสิ้นสภาพคุมชายแดน100%
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ภายใต้ยุทธการ“ตราดปราบปรปักษ์” จนถึงช่วงบ่ายวันนี้(17 ธันวาคม) ยังได้ยินเสียงปืนต่อเนื่อง เพราะมีการเข้าเคลียร์พื้นที่เป้าหมายตามแผนที่วางไว้
ผู้สื่อข่าวสอบถามน.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) ทราบว่า ขณะนี้ทหารไทยลิดรอนกำลังฝ่ายกัมพูชาจนสิ้นสภาพแล้ว ไม่มีการตอบโต้ใดๆมายังฝ่ายไทย หลังกองเรือ กองทัพอากาศ ปฏิบัติการทางทหารอย่างหนักตลอด 8 วัน เพื่อยึดพื้นที่บ้าน 3 หลังคืนจากฝ่ายกัมพูชา
ยันทุกอย่างตามแผน-ไม่นานทุกคนได้กลับบ้าน
“ปัจจุบันทหารไทยเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์และบังคับวิถีการรบได้แบบเบ็ดเสร็จ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนไม่นานทุกคนจะได้กลับบ้านเร็วๆนี้ ขออย่ากังวล” น.อ.ธรรมนูญ กล่าว
และว่าส่วนโดรนปริศนานั้น เป็นเพียงการบินก่อกวนทางจิตวิทยา บางครั้งยากแยกแยะด้วยตาเปล่าระหว่างแสงดาวกับโดรน แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบประชาชน
สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา การปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย ทหารไทยบาดเจ็บ 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ประชาชนไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต กระสุนปืนใหญ่ กระสุนปืนคอ ตกใส่ในพื้นที่ฝั่งไทย 15 ลูก มีผู้อพยพ 4,528 คน ข้อมูลจนถึงเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม
ยันเขมรต้องเริ่มก่อน!หยุดยิงถึงเจรจา
ในส่วนความเคลื่อนไหวของรัฐบาล ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังมีการสู้รบต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ว่า เราทำในส่วนที่เป็นอธิปไตยของเรา หวังว่าถึงจุดหนึ่ง เขาจะพร้อมคุยอย่างจริงจังในเรื่องการหยุดยิง แต่กัมพูชาต้องเริ่มก่อน เพราะเหตุการณ์นี้กัมพูชาก็เป็นคนเริ่มก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารไทยเสียชีวิตเกิน 5,000 คนแล้ว นายสีหศักดิ์กล่าวว่า อย่าลืมว่าประเทศเขาเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่เหมือนประเทศไทย การตรวจสอบก็ไม่เหมือนประเทศไทย
รับรายงานแล้วทหารพลีชีพเพิ่ม2
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหลังเข้าสู่วันที่ 10 และมีกำลังพลเสียชีวิตเพิ่มว่า ตนได้รับรายงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะนำร่างของทหาร 2 นายที่เสียชีวิตเพิ่มกลับออกมาได้เร็ววันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำอย่างเต็มที่ และใช้ความพยายามทุกความสามารถ ถามต่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากการถูกจับเป็นเชลยศึกหรือเกิดจากสาเหตุอะไร นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ทราบสาเหตุ ต้องให้กองทัพเป็นผู้ชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต
ฝากถึงเขมรถ้าใช้สติควรต้องยอมเจรจา
ถามถึงกรณีที่การตอบโต้จากฝ่ายกัมพูชาน้อยลง กลายเป็นว่าเราใกล้จะเผด็จศึกแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่ตนบอก เรากำลังมีการปะทะเกิดขึ้น และต้องใช้หลักทางยุทธการ ฉะนั้น ส่วนนี้ต้องขออนุญาต แต่ตนก็หวังตลอดเวลาว่าเรื่องนี้จะให้เกิดผลที่ดีที่สุด ถามต่อว่าจะยึดเนิน 350 ได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าต้องได้สิ ในเรื่องกองทัพและยุทธการให้กองทัพ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจง เพราะจะทราบว่าตรงไหนชี้แจงได้หรือส่วนไหนชี้แจงไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคง ความเป็นความตายของทหารของประชาชน
เมื่อถามว่าถึงเวลาที่กัมพูชาต้องยอมเจรจากับเราแล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาใช้สติเขาก็ควร
ส่วนกรณีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมบอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน สำหรับสถานการณ์ชายแดน นายกฯกล่าวว่า ท่านเป็นรมว.กลาโหม ท่านเป็นนักการทหาร ฉะนั้น ก็ได้คำตอบจากท่านแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี