วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
บทความของผมในแนวหน้ากว่า 20 ปีแล้วได้รับเชิญจากคุณวารินทร์และคุณผาณิต พูนศิริวงศ์ ยอมรับว่า ยิ่งเขียนไปนานๆ ก็ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ประเด็นที่จะเขียนต้องมีคุณภาพมาก ซึ่งเป็นการท้าทายงานของผม เพราะผู้อ่านแนวหน้าเป็นผู้อ่านที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่เป็นวัยเกิน 40 ปี และมีตำแหน่งสูงในทางราชการและธุรกิจ บางครั้งผมก็คาดไม่ถึงว่าผู้ใหญ่อ่านแนวหน้า อ่านบทความของผม
ยังจำได้ว่ากว่า 10 ปีที่แล้ว ผมเขียนถึงภราดร ศรีชาพันธุ์ เล่นเทนนิสขึ้นสู่อันดับ 9 ของโลกได้เร็วมากภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี แต่น่าเสียดายที่ไม่จ้าง Coach ต่างประเทศ และไม่ได้ดูแลสุขภาพ ขาดทุนแห่งความยั่งยืน จึงรักษาตำแหน่งอันดับ 9 ได้ไม่นาน และเจ็บข้อมือ ต้องเลิกเล่นไปก่อนวัยอันควร ในขณะที่รุ่นใกล้กับภราดร เช่น Nadal หรือ Murray ยังเล่นอยู่ รุ่นก่อนภราดรอย่าง Federerก็ยังเล่นอยู่ ผมหมายถึงศักยภาพของภราดรสูงมากอาจไปสู่ระดับโลกได้เลย
เผอิญมีหนังสือเล่มหนึ่งทางด้านธุรกิจเขียนว่า Built to Lastผมเล่นคำเขียนไปว่า ภราดร Built to Lose และมีโอกาสได้พบองคมนตรี สิทธิ เศวตศิลา เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านบอกว่าชอบวิธีการเขียนของผม จึงภูมิใจมากว่าผู้ใหญ่อย่างองคมนตรีสิทธิ ยังอ่านผู้อ่านอีกท่านนึงมักจะพูดกับผมเสมอว่า อ่านบทความอยู่เสมอคือ องคมนตรีกำธน สิทธวานนท์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ผมที่เทพศิรินทร์ ผมภูมิใจทุกครั้งที่ท่านเล่าว่าท่านอ่านบทความผมเป็นประจำ
เรื่องที่ผมเขียน ผมใช้หลัก 2 R’s คือ หนึ่งจะพูดความจริงReality ที่เกิดขึ้น และสอง เน้นไปที่คำว่า Relevance หรือตรงประเด็นแปลว่าอ่านแล้วจะมีผลต่อตัวเองหรือประเทศ ไม่ใช่รู้แล้วไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต้องแยกแยะให้ออก
.jpg)
เจ้าของแนวหน้าคือ คุณวารินทร์ พูนศิริวงศ์ ซึ่งผมรู้จักมากว่า30 ปี ต้องยอมรับว่าบทความผมยังไม่เคยถูกเซ็นเซอร์เลย คือไม่เคยขอให้ผมเขียนให้เบาหน่อย หรือกลัวว่าจะมีคนไม่พอใจ จึงเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีจุดยืนเพื่อความถูกต้อง ผมจึงภูมิใจ ซึ่งเป็นการทำงานที่ท้าทายมาก เพราะแต่ละสัปดาห์ ก็จะเลือกเรื่องที่จะนำเสนอ บางครั้งคิดไม่ออก แต่พอใกล้ๆ จะถึงเวลาก็มีแรงบันดาลใจที่จะต้องเขียนให้เสร็จและมาตรฐานไม่ตก และอาจจะมี Impact ต่อผู้อ่านบ้าง
สัปดาห์นี้ ผมปิดโครงการ “หลักสูตรการพัฒนาผู้บริหารระดับสูงของการเคหะแห่งชาติ (NHA Executive Development Program for Top Team) ด้วยบรรยากาศแห่งความสุขและความทรงจำ เป็นโครงการผู้นำระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจำนวน 24 ท่านที่จะขับเคลื่อนให้การเคหะแห่งชาติมีคุณค่าต่อสังคมไทย วันปิดมีรองผู้ว่าการการเคหะฯ นายนพดล ว่องเวียงจันทร์ มาร่วมวิเคราะห์ด้วย ปรากฏว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ท่านเคยเข้าหลักสูตรแบบนี้กับผม ท่านได้แสดงความสามารถอย่างเยี่ยมยอดในการวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า หลักสูตรของผมแตกต่างกับคนอื่นๆ เพราะเน้นการกระตุ้นให้ทุกๆ คนมีส่วนร่วมแบบทฤษฎี 4L’s
1.Learning Methodology กระตุ้นให้คิด
2.Learning Environment สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้
3.Learning Opportunities ปะทะทางปัญญา
4.Learning Communities สร้าง/เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้
.jpg)
มีโอกาสปะทะกันทางปัญญาในกลุ่มเสมอ อย่างเช่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมไปเป็นแขกของ ดร.สมโภชน์ นพคุณ ที่วัดไร่ขิง ซึ่งจัด
หลักสูตรผู้นำให้ข้าราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ระดับ 8 และ 9 และถึงแม้ว่าไม่ใช่หลักสูตรของผม แต่ได้มีโอกาสทำติดต่อกันมา 7 ปี ทำให้เกิดทฤษฎี 3 ต. ต่อเนื่อง ต่อเนื่อง และต่อเนื่อง ทุกๆ ครั้ง ผมจะปรับวิธีการเรียน หาหนังสือใหม่ๆ ให้ผู้เรียนได้อ่าน หัวข้อคือ ผู้นำกับการคิดนอกกรอบ ผมเคยแนะนำหนังสือดีๆ ไป 3 เล่ม
1.Inside the Box
2.Thinking in New Boxes
3.Who killed Creativity?
ประเด็นก็คือ จะคิดนอกกรอบ ก็ควรจะคิดในกรอบให้รอบรู้ ครบก่อน เรียกว่าไม่ใช่อะไรๆ ก็นอกกรอบ เช่น ศึกษาในกรอบให้ถ่องแท้ เข้าใจดี เพราะคิดนอกกรอบก็ไม่ใช่ว่าสำเร็จเสมอไป ต้องเข้าใจพื้นฐานของกฎระเบียบในกรอบเสียก่อน
ส่วน New Boxes หมายถึงออกมาแล้วไปไหนควรสร้างกล่องใหม่ๆเพื่อให้อยู่ถาวร เช่นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี Sasin เป็น Box ใหม่ หรือที่โรงพยาบาลศิริราชมีโรงพยาบาลปิยมหาราชการุณ ก็ทำให้มีความสำเร็จ
สุดท้ายคือ นอกกรอบส่วนหนึ่งคือการคิดแบบสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบจึงเกิดได้แต่ถูกทำลายได้ง่ายๆ เช่นกัน เช่น มีผู้นำที่ใจแคบทำแบบสั่งการ พอจะมีอะไรใหม่ๆ ก็ค้านไม่ให้ลูกน้องแสดงออก
ผมให้หัวข้อ Workshop ไว้ 6 เรื่อง
1.Inside the box, New boxes and outside the box แตกต่างกันอย่างไร อธิบาย
2.ในบริบทของกระทรวงศึกษาธิการ จำเป็นหรือไม่ที่ผู้นำจะต้องมี Think outside the box และประโยชน์คืออะไร
3.สรุป 5 เรื่องที่คิดว่าคือวิธีการสำคัญ Outside the box
4.ถ้าจะฝึกให้มีศักยภาพในการ Think outside the box ควรทำอย่างไร 5 เรื่อง
5.ความสำเร็จของ Outside the box ไม่ใช่ง่าย บางครั้งมีอุปสรรคเสมอ อธิบายอุปสรรค แต่ละข้อ
6.ยกตัวอย่างความสำเร็จเรื่อง Outside the box มา 3 เรื่องและอธิบายว่าเพราะอะไร?
ภายในเวลา 4 ชั่วโมง ข้าราชการทั้ง 60 ท่านสนใจและตั้งใจมากและดูมีความสุขกับการเรียน ทำได้ดี
มีกลุ่มหนึ่งสรุปได้ดีมากว่า จะพัฒนาวิธีคิดนอกกรอบ ว่าจะต้องเน้นอะไร เขาแนะนำว่านอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้ว มีเรื่อง
1.องค์ความรู้ใหม่ๆ
2.ปรัชญาใหม่ๆ เช่นบริหารการเปลี่ยนแปลง
3.วิสัยทัศน์ใหม่ๆ ทายอนาคตใช้ 2 R’s คือตรงประเด็น
4.เรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นพลวัตร
5.สร้างมูลค่าเพิ่ม มี Diversity + Innovation คล้ายๆ 3 V’sของผม
สุดท้าย ดร.สมโภชน์ มาสรุปว่านอกกรอบของท่านก็คือการสร้างกระบวนทัศน์ หรือ Paradigm ในการแก้ปัญหา เพราะถ้าใช้ Paradigm เดิมๆ จะไม่ออกจากกล่องแน่นอน จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ขอฝากมาให้ผู้อ่านได้รับทราบ ขอบคุณข้าราชการทั้ง 60 คนตั้งใจเรียนมาก
Chira Way หรือเรียนรู้แบบจีระ ต้องสนุกและมีความสุข นำไปใช้ได้ บทความในแนวหน้าของผม ผมก็ใส่ Chira Way ไว้เสมอ
ผู้อ่านทราบหรือเปล่า?
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี