เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
การสถาปนาชาติให้สำเร็จ นี่ เป็นคำมั่นสัญญา เป็นคำอธิษฐานของพ่อ …….ฯลฯ
มิได้หยุดเพียงคำพูด แต่มีการปฏิบัติการเป็นจริงแล้วสรุปบทเรียน ยกระดับปรับให้ดีขึ้น ได้ผลมากขึ้น ……
ตามกระบวนการของเส้นทางการบรรลุผลสำเร็จ คือ “คิดพูดและทำ แล้วสรุป” และ“คิดพูดและทำ แล้วสรุป”…
เริ่มจาก“คนธรรมดาสร้างชาติ” ที่ต้องสร้างพัฒนาตน ให้เป็นคนดี มีความคิดที่ถูกต้อง ด้วยสติปัญญาความจริง เพราะ“ความคิดเปลี่ยนคน และคนเปลี่ยนโลก” …………….
แต่ “ความคิด” เป็นเพียงครึ่งแรก ต้องทำ การต่อสู้ในหลากหลายรูปแบบ (ที่สอดคล้องกับสถานการณ์) ฯลฯ
1. คำมั่นสัญญา จะต้องมาจากความรัก ความรักที่ยิ่งใหญ่ของตัวเราเอง ต่อสิ่งที่เราให้ คน แผ่นดิน พระเจ้า
1) ต่อคน(สิ่งมีชีวิต) : ต่อคนรัก ที่รักกันปานจะดูดดื่มในยามรัก ในยามเอ่ยปากขอแต่งงาน ในวันแต่งงาน มีตัวช่วย มีคน(ที่รัก)รับรู้ เพราะ เป็นคำมั่นสัญญา ที่เกิดจาก “สองฝ่ายที่รักกัน” ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกัน
เป็นเรื่องที่ “สองฝ่าย” จะต้องช่วยกันรักษาคำมั่นสัญญาร่วมกัน ต้องร่วมกันทำ “ตบมือสองข้างจึงจะดัง”
ยามรัก ยามหวาน ยามมีความสุขด้วยกัน “คำมั่นสัญญา” เดินคู่ ร่วมทางไปด้วยกัน ระหว่างสองเรา คู่ตุนาหงัน แต่ในช่วงมีปัญหา ในช่วงเวลาแห่งเคราะห์กรรม พัดมากระหน่ำซัด น้ำหวานเริ่มขม ความขัดแย้งเกิดขึ้น
เราสองคน หรือปกติ คนใดคนหนึ่ง ต้อง “หยุด”สงบ ใช้สติปัญญาคิด แก้ไขด้วยการทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า “สัญญาที่เคยให้ ลืมแล้วหรือไร” ถามทั้งตัวเอง และ คู่ของเรา
การเข้าใจ การยอมรับผิด การให้อภัย เป็นตัว เป็นใบเบิกทางที่จะต้องมีขึ้นก่อน
ต้องหวนคิดถึงวันแรกรัก วันแต่งงาน และคิดถึงลูกของเรา………………..
2) ต่อแผ่นดิน ต่อพระเจ้า : ด้านหนึ่ง เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่า มีคุณค่าและความหมายมากกว่า
แต่อีกด้านหนึ่ง เป็นเรื่องตัวเราเป็นหลัก เพราะ “แผ่นดินและพระเจ้า” ไม่ได้พูด ไม่ได้สนองรับ โดยตรง
ส่วนนี้ ทำให้ “น้ำหนักแห่งความรับผิดชอบ การทำตามคำมั่นสัญญา “ตกกลับมาที่ตัวเรา เป็นเท่าทวีคูณ
มันทำให้ “ยากขึ้น” เพราะ “ภารกิจสำคัญนี้ ตกอยู่ที่ตัวเราคนเดียว ฝ่ายเดียว”
หากจะหยุดก็ง่าย เพียงแค่ “ไม่ทำต่อ” ทำน้อยลง ทำเท่าที่ทำได้ เอาที่สบายเข้าว่าเพื่อนเอย
จึงมี มิตรสหาย อุดมการณ์แกร่งกล้า เป็นผู้นำในตำนาน ในประวัติศาสตร์ และผู้มีอุดมคติ หยุด จาก หายไป
บางส่วน มีข้ออ้าง ออกมามากมาย เป็นชุดใหญ่ ชุดเล็ก ตอบโต้ ให้ตัวเองดูดี “ที่หยุด เพราะ… ไม่ใช่ตัวเอง”
บางส่วน เก็บตัวเงียบ ออกห่างไป อยู่อีกสังคมหนึ่ง แล้วเก็บ “อุดมคติ ที่แปรเป็นความเศร้าอยู่ในใจยาวนาน”
ในส่วนที่มี ต่อ “พระเจ้า หรือ ต่อแผ่นดิน” มักก้าวไปถึง “คำอธิษฐาน” ที่มีความเชื่อ ความศรัทธา มานำ
เรื่องนี้ ก็มี สองด้าน
ด้านที่ง่าย เพียงแต่พูด ต่อบุคคล(บาทหลวง พระฯ) หรือ ต่อสาธารณะ คือ ได้ทำแล้ว
ด้านที่ยาก (หากเอาจริง ตั้งใจตั้งมั่นจริงจัง) ยิ่งมีความเชื่อและศรัทธาแล้ว มันลึกลงไปในจิต ฝั่งอยู่ในใจ
หากได้ย้ำเตือน ย้ำคิดอยู่ทุกวัน มันจะแปรเป็นส่วนหนึ่งของจิต ของชีวิต ที่เราต้องทำ ไม่ทำไม่ได้เด็ดขาด
คนประเภทหลัง จะมีความเอาจริงเอาจังมากกว่ามาก และมักมีโอกาสสำเร็จมากกว่า
2.หัวใจของคำมั่นสัญญา ที่ทำได้จริงหรือประสบผลสำเร็จ ต้องมาจากความรักและความคิด
ความรัก ที่ดีมีคุณภาพมีความหมาย ต้องเป็นความรักที่เต็มไปด้วย “ความเข้าใจ” อย่างลึกซึ้ง
มี 2 คำ ที่มักใช้กัน, แต่มีความหมายต่างกัน ในเรื่องของความรัก คือ “การเข้าใจและการทำใจ”
“การทำใจ” เป็นการไปกด “ปัญหา” ไว้, จะอยู่ได้ชั่วคราว เพราะ “ปัญหายังอยู่ ไม่ได้หมดไป”
“การเข้าใจ” คือ การทำให้ปัญหาหมดไป ด้วยความรู้ ที่ถูกต้อง ผ่านการใช้สติปัญญา ไปแก้ที่เหตุ
l ความรักที่แท้จริง ทำให้คนเปลี่ยนความคิด(ให้มีความคิดที่ดี) เปลี่ยนนิสัย (ให้นิสัยดี) ฯลฯ
โดย มนุษย์ เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ ทำให้ดีขึ้น ถูกต้อง พัฒนา ยกระดับ สร้างสรรค์ได้
@ ทนฺโต เสฏฺโฐ มนุสฺเสสุ (ขุ.ธ.25/33) แปลว่าในหมู่มนุษย์นั้น ผู้ที่ฝึกแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด
มนุษย์ประเสริฐได้ด้วยการฝึก https://www.youtube.com/watch?v=Jrc8nNwlvfE
(10 ขั้น สำหรับการเปลี่ยนชีวิต ให้มีคุณค่าต่อตนเอง คนอื่นและสังคม https://siamrath.co.th/n/9774)
การฝึกคน ด้วยความคิดที่ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงของสังคม และตัวบุคคลหรือคณะบุคคลนั้นๆ
l ความคิดเปลี่ยนคน ด้วยการฝึก การพัฒนา สร้างสรรค์ ด้วยการเอาจริง มีความมุ่งมั่น แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้
เมื่อคนได้เปลี่ยนด้วยความคิดแล้ว เขาก็จะรู้จักหน้าที่ รู้แล้วทำ ทำอย่างไร ทำให้ประสบความสำเร็จ
โดยจะต้องลงทุนศึกษาหาความรู้ ทั้งในห้องเรียน นอกห้อง ในประเทศและต่างประเทศ ให้มากกว้างลึก
โดยมีหลักง่ายๆ แต่ทำ โคตรยากที่สุด คือ “ต้องมีความรู้มากกว่าปัญหาหรือวิกฤติที่มีอยู่”
การที่เราแก้ปัญหาและวิกฤติของประเทศให้บรรลุไม่ได้ มานานกว่า 86 ปี (นับจาก 2475 ปีการเปลี่ยนแปลง)เพราะ “ความรู้ หรือ ชุดความรู้ของเราต่ำกว่า หรือ ไม่พอเพียง ที่จะแก้ปัญหาที่มี ให้หมดลงไปได้”
แต่อีกด้านหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ครบถ้วน คือ “ชุดความรู้ที่มี ก็ทำให้เราสามารถประคองประเทศมาได้”
@ การที่เราต้องมีความรู้และประสบการณ์ จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ คือบางประเทศ เขาผ่าน การเปลี่ยนแปลง จากสังคมเดิม ไปสู่ สังคมประชาธิปไตยมาก่อนและสถานการณ์ของโลก ของต่างประเทศ มีความเกี่ยวข้อง และส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย
l ชุดของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย (หรือเปลี่ยนโลก)
1.พื้นฐานที่สุด คือ การเข้าใจ สภาพที่เป็นจริงของสังคมไทย (อดีต ปัจจุบัน และอนาคต) โครงสร้างและระบบสังคม และคุณภาพของประชาชนไทย ชนชั้น ชั้นชนต่างๆ ทั้งหมด
2.มีชุดความรู้ที่ถูกต้องครบถ้วน และประสบการณ์ ในการนำไปปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จโดยต้องผ่านการปฏิบัติ ในแนวทางการต่อสู้ที่มีและเป็นไปได้ ใน-นอกสภา ส่วนกลางพื้นที่ ทุกมิติเป็นชุดความรู้ที่ครบ มีแนวทาง หลักการ นโยบาย กลยุทธ์ ขั้นตอนวิธีการ ที่ถูกต้องสอดคล้องกับความจริง
3.พลังของการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้จริง ชนชั้นนำ พรรคการเมือง กลุ่มทุน ประชาชน สถาบันหลัก ฯลฯ โดยมี คนธรรมดาสร้างชาติ สถาบันภาคผู้นำและประชาชนพรรคการเมือง และสถาบันหลักสร้างชาติฯ
4.ผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ต้องเป็นผู้นำระดับรัฐบุรุษที่มีวิสัยทัศน์ กล้าเสียสละกล้าตัดสินใจ ทำเพื่ออนาคต
5.สถานการณ์ภายในประเทศ และสถานการณ์ต่างประเทศ ที่นับวันมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรง
6.การสร้างดุลของสังคม ให้พลังของประชาชนที่เสียเปรียบใกล้เคียงกับฝ่ายได้เปรียบฯ
7.การขจัดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค และการสร้างโอกาสของการเปลี่ยนแปลงให้มากขึ้น การสร้างชาติสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นบนพื้นแผ่นดินไทย เป็นเรื่องใหญ่ ที่ทุกฝ่ายต้องคิดและลงแรง Carry On Till Tomorrow https://www.youtube.com/watch?v=Q-NP61tyVMk
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี