หลักสูตรผู้นำที่ผมทำให้ลูกศิษย์ระดับสูงและระดับล่างหลายแห่ง จะมีเรื่องการวิเคราะห์ผู้นำเสมอ นอกจากศึกษาตำราต่างประเทศและดูจากตัวอย่าง Role Model เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 หรือ ดูตัวอย่างที่ไม่ดีอย่าง Donald Trump เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมได้แรงบันดาลใจจึงเขียนผู้นำเป็นรุ่นๆ ตั้งแต่ 1949 เริ่มต้นเป็นประเทศจีน ซึ่งปีนี้ฉลองรอบ 70 ปีพอดี
กรณีศึกษาผู้นำจีน 5 รุ่น
รุ่นที่ 1 (1949-1976) เป็นผู้นำรุ่นบุกเบิกมี เมาเซ ตุง (Mao Tse-tung) พร้อมกับ โจว เอ็นไล (Zhou En lai) เป็นหลัก รุ่นนี้ คือ
- รุ่นเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชนะการปฏิวัติมา เป็นผู้บุกเบิก
- ต้องบริหารการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างจะมาก
- ต้องสร้างระบบให้แน่น เพราะยกเลิกระบบเดิมหมด เช่น
๐ ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของรัฐไม่ใช่ของบุคคล
๐ เศรษฐกิจ คือ รัฐเป็นผู้กำหนด
รุ่นที่ 2 (1976 - 1992) คือ เติ้ง เสี่ยว ผิง (Deng Xiaoping)
เป็นช่วงการเมืองนิ่งแล้ว แต่ระบบเศรษฐกิจเป็นรัฐผู้กำหนด จะไม่สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชาติได้ เพราะประชากรมาก-คาดหวังสูง จึงต้องมี เติ้ง เสี่ยว ผิง มาเป็นผู้นำ
- เน้นทฤษฎีไปสู่ความจริง เป็นผู้ที่พูดว่า “แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูเป็น” คือ เป็น 1 ประเทศ 2 ระบบ นำเอาระบบทุนนิยมเข้ามา-เชิญต่างประเทศเข้ามาลงทุน ทำให้จีนขยายตัวทางเศรษฐกิจเร็วมาก เพราะคนจีนขยันและเคยทำการค้ามาก่อน ช่วงนี้จีนเติบโตมากกลายเป็นมหาอำนาจ
รุ่นที่ 3 (1992-2003) คือ เจียง ซี มิน (Jiang Zemin)
- เป็นผู้นำประเทศสู่โลกภายนอก
- เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น แต่ต้องมีบทบาทในโลก
- จัดประชุม APEC 2003 ในจีน
- นำจีนเข้า WTO
- เปิดประเทศทางเศรษฐกิจมากขึ้น
- ส่งความช่วยเหลือไป Africa และประเทศด้อยพัฒนา
สัมมนา Human Talk’s Fan Seminar เรื่อง ยุทธศาสตร์ทุนมนุษย์ในยุค Disruptive และ 4.0 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 ณ สำนักงาน อสมท
รุ่นที่ 4 (2003-2013) คือ หู จิ่น เทา(Hu Jintao)
- ความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจจีนเป็นอันดับ 2 ของโลก จีนมีอิทธิพลต่อโลกมากขึ้นทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ
- เริ่มมีปัญหาเสรีภาพในประเทศ และความเหลื่อมล้ำ
รุ่นที่ 5 (2013-2023) คือ สิ จิน ผิง (Xi Jinping)
ผู้นำรุ่น 5 ต้องเก่งเรื่องสังคมนิยมแนวจีนที่ปรับตัวกับโลกภายนอกแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้สำเร็จ เปิดจีนเน้นที่ยอมรับของโลก ดูแลการกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจไปทุกกลุ่มและทุกภูมิภาคของจีนไม่ให้เหลื่อมล้ำ ให้เศรษฐกิจจีนสมดุลกับโลกภายนอก โดยเฉพาะค่าเงินหยวน
เมื่อตอนที่ผมเขียน Xi jinping เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ ยังไม่โดดเด่นเท่าวันนี้และไม่คิดว่าจีนจะมีปัญหามากมาย แต่ก็ได้เตือนว่าจีนจะเจอปัญหามากขึ้นเพราะมีคู่แข่งมากขึ้น
ได้ทายไว้ว่าคงจะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ คาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องฮ่องกง ซึ่ง สิ จิน ผิง ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง ถ้าผู้นำจีนไม่เก่งคงไปไม่รอด ต้องไม่ให้ปัญหาฮ่องกงลุกลามไปไต้หวันหรือจีนแผ่นดินใหญ่
บรรยากาศ จีนจัดงานฉลองวันชาติครบรอบ 70 ปีอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562
นอกจากเรื่องฮ่องกงแล้ว Xi Jinping ต้องจัดการ
- ปัญหาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ไม่ให้ขัดแย้งเกินไปต้อง win win
- ปัญหาจะบริหาร Donald Trump อย่างไร เพราะต้องบริหารอีโก้ของทรัมป์
แต่ปัญหาสุดท้ายที่ผมคิดว่าท้าทาย สิ จิน ผิง คืออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งถ้ายังอยู่ในอัตรา 6% ขึ้นไปก็ใช้ได้ แต่ถ้าต่ำกว่า 6% ก็จะอันตราย จะกระทบปัญหาการว่างงานและการเพิ่มรายได้ของคนจีน ซึ่งเป็นการคาดหวังของคนรุ่นใหม่ของจีน
สุดท้าย ตามที่ผมได้จัดรายการวิทยุ Human Talk ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 06.00-07.00 น. ทาง FM 96.5 MHz คลื่นความคิด (Thinking Radio) นั้น ผู้ฟัง
รายการหลายท่านได้ให้ความสนใจมีส่วนร่วมกับรายการในรูปแบบต่างๆ เช่น ซักถามประเด็นที่น่าสนใจด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ต่อผู้ดำเนินรายการ รวมถึงให้ข้อเสนอแนะที่มีคุณค่าสำหรับพัฒนาการดำเนินรายการต่อไปในอนาคต จึงได้จัดงานเสวนาเปลี่ยนความรู้ในสัมมนา Human Talk’s Fan Seminar เรื่อง ยุทธศาสตร์ทุนมนุษย์ในยุค Disruptive และ 4.0 เมื่อวันเสาร์ที่28 กันยายน 2562 ณ สำนักงาน อสมท บรรยากาศผ่านไปด้วยดีขอขอบคุณ คุณฐิติรัตน์ พูนศิริชัยกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายคลื่นวิทยุ FM 96.5 MHz อสมท และคณะทีมงานทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนงานในครั้งนี้ และมี 6 ประเด็นจากสัมมนา Human Talk’s Fan Seminar ที่น่าสนใจและได้เรียนรู้ร่วมกันดังนี้
ร่วมรับประทานอาหารค่ำและมอบดอกไม้ กับ คุณภาวนา อังคณานุวัฒน์ (คุณลุ่ย) รองผู้ว่าการบริหาร ของ กฟผ. เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ และได้รับเกียรติจาก คุณไกรสีห์ กรรณสูตอดีตผู้ว่าการ กฟผ. มาร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ขอขอบคุณทั้งสองท่านที่ให้เกียรติผมและคณะเข้าไปพัฒนาคนใน กฟผ.ตลอดระยะเวลาต่อเนื่องมากว่า 15 ปี
1.เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสียต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีและใช้งานให้เหมาะสมด้วยความประหยัดและพอเพียง คุณภาพของคนยังเหนือเทคโนโลยีอยู่ดี อยู่ที่ว่าเราจะพัฒนาอย่างไร
2.การทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือเป็นเครือข่ายและทำงานอย่างต่อเนื่องดังจะเห็นจากกรณีศึกษาการแข่งขันหุ่นยนต์ของเทพศิรินทร์และโครงการ Knowledge Camping
3.แม้ว่าคนจะมีทุนมนุษย์ที่แตกต่างกันแต่ถ้าได้รับโอกาสก็สามารถพัฒนาเป็นบัวที่โผล่พ้นน้ำได้เหมือนกับทีมนักเรียนโรงเรียนจังหวัดอำนาจเจริญที่มีพื้นฐานคอมพิวเตอร์น้อยแต่ได้รับการฝึกอบรมจนสามารถได้รางวัลที่ 4 จากการแข่งขันหุ่นยนต์ได้ผมพัฒนาคนมามากโดยได้ให้โอกาสเขาเหล่านั้น
4.พัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เด็ก ควรสอนให้เด็กอยากมีความรู้เป็นของตนเอง เมื่อเขามีความคิดเช่นนี้เขาจะพัฒนาตัวเองให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและก้าวสู่เป้าหมายชีวิตของเขา
5.ในการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม ควรทำเป็นชนะเล็กๆ โดยเริ่มจากตนเองก่อนแล้วค่อยขยายไปสู่ระดับครอบครัวและสังคมวงกว้างขึ้นเหมือนกับการออกจากจุดเดิมทีละน้อยเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเห็นผลที่ยิ่งใหญ่
6.ความสุขในการหาความรู้ จะเกิด Passion and Happiness เพราะได้เห็นกลุ่มปะทะกันทางปัญญา และเห็นทุกคนมีความสุขและสนุก คาดว่าจะเลิกภายในเวลา 4 โมงครึ่ง แต่เลิกเกือบ 6 โมงเย็น
หวังว่าคงมีโอกาสได้พบกันอีกในโอกาสต่อไป
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี