ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกบรรทัดตรงไปตรงมา...
nn ต้นเดือนหน้ามี การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่อิมแพค เมืองทองธานี ถือเป็นการประชุมที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นบทบาทสำคัญของประเทศไทยบนเวทีโลก...
nn ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล ได้แจ้งว่าที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้วันที่ 4 และ 5 พ.ย. เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและนนทบุรี เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุม...
nn รวมทั้งเพื่อให้การอารักขาและการรักษาความปลอดภัยผู้นำต่างประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ...
nn ดังนั้น ถึงแม้ว่า จะเป็นการประชุมที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองหลวง และ จ.นนทบุรีก็ตาม แต่ “มือปราบ” ก็ขอให้คนไทยทั้งประเทศ ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมีความภาคภูมิใจในเกียรติภูมิและความเป็นไทย ไม่ใช้เวทีการประชุมระดับนี้ มาสร้างความปั่นป่วนหรือสร้างเงื่อนไขอะไรให้กระทบภาพลักษณ์ประเทศ...
nn ครับน่าเสียดายที่ครม.ไม่ใช้จังหวะนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคผสมโรงเข้าไปด้วย เพราะงานช้างงานประชุมระดับโลกในกทม.แบบนี้...
nn ที่ผ่านมา รัฐบาลเคยสั่ง บขส.รถไฟ ลดกระหน่ำราคาตั๋วไปภูมิภาคอย่างสุดเหวี่ยง หรือเปิดเติมน้ำมันฟรี เพื่อให้คนออกไปต่างจังหวัด โรงแรมร้านอาหารตจว.ลดสุดเที่ยว ครับเที่ยวนี้ไม่ทันแล้วแต่ทริปหน้าอย่าลืมวางโปรแกรมนี้ไว้...
nn เป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถือว่าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน และมีบทบาทนำมาตลอด ในการแบน 3 สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อการเกษตร ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส...
nn โดย เสี่ยหนู - อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ระบุว่า “ในฐานะหัวหน้าพรรค สนับสนุนให้คนไทยใช้สารพิษต่อไปไม่ได้ เพราะมีอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งสุขภาพของประชาชนคือสิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุด”...
nn และเสี่ยหนู ยังได้เดิมพันแบบเทหมดหน้าตักว่า รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคไม่ยอมรับ 3 สารเคมีอันตรายเด็ดขาดและผมขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า คงจะต้องออกโรงอีกที เพราะหากคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเป็นอย่างอื่น รัฐมนตรีของพรรคคงต้องแสดงสปิริตด้วยการลาออก...
nn ก่อนหน้านี้ เจ้าพ่อเมืองอุทัย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศกร้าวว่า ผมแนะนำว่าถ้าเกิดแบน 3 สารนี้ไม่ได้ 4 รัฐมนตรี ประกอบด้วย รมว.สาธารณสุข รมว.เกษตรและสหกรณ์ และรมว.อุตสาหกรรม รวมทั้ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ของประเทศไทย ควรลาออกไปซะ...
nn เพราะเมื่อประชาชนไม่เอาแล้ว แต่คณะกรรมการยังมีมติมารองรับอีก ซึ่งไม่สอดคล้องกันมันเป็นเรื่องน่าอดสูของประเทศไทยมาก ดังนั้น4 รัฐมนตรีควรออกไปและอย่ามีหน้ามาเป็นรัฐมนตรี เพราะหาก 4 รัฐมนตรีบอกว่าไม่เอา แต่คณะกรรมการยังยืนยันว่าให้ใช้อยู่ ผมก็คิดว่าประเทศนี้อดสูแล้วครับ...
nn ด้าน มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯระบุว่า คณะกรรมการวัตถุอันตราย จะนำวาระการแบน 3 สาร บรรจุเข้าสู่การพิจารณา ในวันที่ 22 ตุลาคม นี้ ดังนั้น ดิฉันจะไปร่วมฟังผลการประชุมฯ ด้วย...
nn ทั้ง ยังกล่าวด้วยว่า มีกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการให้ยกเลิก 3 สารจากหลายจังหวัด ได้โทร.ติดต่อมาหาดิฉันว่าจะขอมาฟังผลการประชุมจำนวนมาก แต่ดิฉันบอกว่าให้ส่งตัวแทนมาก็พอ หากมากันเยอะ จะไม่สะดวก ซึ่งกลุ่มเกษตรกรต้องการให้กำลังใจดิฉัน และต้องการให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิก 3 สารอันตรายนี้...
nn อย่างไรก็ตาม ยิ่งใกล้วันที่จะมีการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกการใช้สารอันตราย ข่าวคราวก็ออกมาต่อเนื่อง บ้างก็ว่า มีนักการเมืองบางรายหวังดีแต่ประสงค์ร้าย โดยจะนำเข้าสาร กลูโฟซิเนตแอมโมเนียม ซึ่งเป็นสารเคมีควบคุมวัชพืชที่มีฤทธิ์ร้ายแรงอีกชนิดมาแทนเพื่อเก็งกำไร!!!...
nn ด้าน วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิไบโอไทย เปิดเผยว่า “ธุรกิจสารเคมีวัตถุอันตรายมีผลประโยชน์มหาศาล แต่ละปีมีการนำเข้าหลายหมื่นล้านบาท ในขณะที่โครงสร้างกฎหมายไทยเอื้ออำนวย เนื่องจากมีกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งแตกต่างจากในต่างประเทศหน่วยงานที่เป็นผู้เสนอให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย เป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลโดยตรงถึงผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่ในประเทศไทยกลับไม่เป็นอย่างนั้น ส่งผลให้ไทย ยกเลิกใช้สารเคมีทำได้ยากมาก...
nn และทาง ผอ.มูลนิธิไบโอไทย ยังแนะนำด้วยว่า จะเสนอทางเลือกในการควบคุมจำกัดวัชพืชโดยใช้ เครื่องกลเครื่องจักรกล พืชคลุมดิน และการจัดระบบการปลูกพืชแทน”...
nn “มือปราบ” เห็นว่า การที่พรรคภูมิใจไทย ปลุกกระแสในเรื่องการต้านสารอันตราย 3 ตัวนั้น ถือว่า เป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมวงกว้าง ทำให้หลายฝ่ายต่างลุกขึ้นแสดงเจตนารมณ์ที่ต่อต้านและพยายามหาทางออกให้กับทุกๆ ฝ่าย...
nn อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์จากสารเคมีพวกนี้ มีมากมายมหาศาล ทั้งในเชิงมูลค่าและทางการเมือง โดยทาง “สังศิต
พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ย้อนอดีตไปว่า ผมได้ผลักดันเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2540 ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง ของ รมว.มหาดไทย และได้เสอนให้ยกเลิก 3 สารพิษ ซึ่งมท.1
ยุคนั้นเห็นด้วย...
nn แต่ว่าเมื่อไปพบกับ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับสารพิษโดยตรง กลับถูกปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าหัวคะแนนของท่านขายปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง จึงไม่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้...
nn ซึ่งล่าสุด กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชอุตสาหกรรม 6 ชนิด เตรียมที่จะเข้าพบ เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ชะลอการยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ในวันจันทร์นี้ซึ่ง เสี่ยต่อ ก็ระบุว่า ผมยินดีที่จะรับฟังข้อมูลความเดือดร้อนของเกษตรกร แต่ทางกระทรวงเกษตรฯมีมาตรการรองรับการปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรกรรม และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ไว้ทุกด้านแล้ว...
nn ดังนั้น “มือปราบ” เห็นว่า หากมีการดำเนินการยกเลิก 3 สารอันตราย แล้วมีการเตรียมการรองรับในทุกมติแล้ว ก็เชื่อแน่ว่าประชาชนคนไทยต่างยินดีและน่าจะทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งอาหารปลอดภัย ที่คนทั่วโลกต่างหันมาซื้อ สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้มหาศาล เพราะพืชผักผลไม้ไทยไร้สารพิษ...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี