ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกบรรทัดตรงไป ตรงมา...nn เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) หารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ...
nn โดย นายกฯบิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นั่งหัวโต๊ะเหมือนเดิม ส่วน 3 รัฐมนตรี ที่กักตัวเองอยู่ในบ้านพักเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทั้ง อุตตมสาวนายน รมว.คลัง ถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และ ผู้กองธรรมนัสพรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต่างก็เข้าประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพราะครบกำหนดการกักตัวแล้วไม่พบเชื้อแต่อย่างใด...
nnซึ่งนายกฯบิ๊กตู่สั่งการฉับๆๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน และการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหลายทั้งปวงไม่ให้ติดขัด และคุ้มค่ากับภาษีของประชาชน...
nn หลังจากประชุม เสร็จสิ้นแล้ว 3หัวเรือหลัก ที่ผลักดันเศรษฐกิจ คือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ อุตตม สาวนายน รมว.คลัง และ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้แถลงว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ แบ่งเป็น คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจธปท.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน และพ.ร.ก.ให้อำนาจธปท.เข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชนครบกำหนด ส่วนอีกฉบับเป็น พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน ซึ่งทั้งหมดนี้เบื้องต้นจะใช้วงเงินรวมประมาณ 10% ต่อจีดีพี...
nn แล้วยังระบุอีกด้วยว่าวงเงินที่ออกมาดูแลนี้ จะใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ที่เขาดูแลเรื่องโควิด-19 คือ 10% ของจีดีพี เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยหยุดชะงักในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า...
nn ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และภาคธุรกิจว่าจะก้าวข้ามวิกฤติไปได้ อีกทั้งมาตรการที่ออกมาจะไม่จบแค่นี้ เพราะรัฐบาลจะดูความเหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป...
nn ส่วน นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรี ก็โฆษณาผลงานของ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ที่ออกมาตรการเร่งด่วนฉับไวปานกามนิตหนุ่มเพื่อช่วยชาวบ้าน ลดค่าครองชีพ ทั้งลดค่าแก๊สหุงต้ม ลดค่าไฟ ฯลฯ ...
nn ส่วนประเด็นที่เป็นที่ฮือฮาตาลุกวาวในช่วงนี้ก็คือ กระทรวงสาธารณสุข มีแนวคิดที่จะขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติมที่ดูแลผู้ป่วย โควิด-19 เช่น พยาบาลที่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ และนักวิชาการสาธารณสุข หรือ หมออนามัย ที่ทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 45,242 ตำแหน่ง !!!...
nn โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า เป็นการปรับสถานะให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งเป็นวิชาชีพที่มีทักษะ ความชำนาญ เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่สามารถทดแทนด้วยเครื่องจักรได้ เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพ รักษาไว้ให้อยู่ในระบบ เพราะการเป็นข้าราชการทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ทดแทนทางเลือกที่จะไปทำงานในภาคส่วนอื่น...
nn และยังย้ำว่าที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขใช้เงินบำรุงของแต่ละโรงพยาบาลในการจ้างงาน ซึ่งไม่มีความมั่นคง ทำให้มีการลาออกเมื่อมีข้อเสนอที่ดีกว่าจากภาคส่วนอื่นๆ ทั้งที่ต้นทุนในการฝึกฝนทักษะ ภาครัฐเป็นผู้ลงทุนไว้หากบุคลากรเหล่านี้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการจะสามารถนำเงินบำรุงโรงพยาบาลไปพัฒนาหน่วยบริการตามภารกิจหลักต่อไป...
nnส่วน รองโฆษกฯกวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้แถลงเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่กำลังพิจารณาอยู่นี้เป็นการเตรียมความพร้อมของระบบการสาธารณสุขของประเทศให้มีความมั่นคงยิ่งกว่าเดิม เมื่อเราผ่านพ้นโควิด-19 นี้ไปได้ เราจะมีบุคลากรสาธารณสุขที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ความพร้อม และศักยภาพในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ในอนาคต และที่สำคัญที่สุดเรากำลังสร้างฐานที่มีความมั่นคงทางการสาธารณสุข ที่พร้อมให้การดูแลสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้”...
nn “มือปราบ”เห็นว่า ทั้งมาตรการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและเรื่องการบรรจุข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุขกว่า 40,000 อัตรา ในช่วงนี้ ก็ถือว่า เป็นไปตามสถานการณ์ แต่ก็ต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในเรื่องของการบรรจุ แต่งตั้ง และทางสภาผู้แทนราษฎร(สส.) หากจะมีการอนุมัติและรับทราบให้ทาง ครม. ดำเนินการตาม พ.ร.ก. ...
nn ส่วนในเรื่องของการขอร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.(สี่ทุ่มถึงตีสี่) เพื่อระงับการมั่วสุมหรือการรวมตัวกันมากๆ จนเปิดโอกาสให้ไวรัสแพร่กระจายในวงกว้าง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น...
nn ปรากฏว่า ประชาชนต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตามท้องถนนต่างโล่งไร้ผู้คน แต่ยังมีข้อเรียกร้องจาก เทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และ ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคฯ ที่ขอให้ทางรัฐบาล ยกเว้นเคอร์ฟิว ให้กับชาวสวนยาง เพราะขัดกับวิถีของอาชีพและธรรมชาติของน้ำยางที่ไหลได้ดีในช่วงดังกล่าว...
nn “มือปราบ”ก็เห็นใจชาวสวนยางในเวลาแบบนี้ แต่ในเมื่อมีการประกาศในลักษณะนี้ออกมาแล้ว ก็ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งคงไม่น่าจะมีปัญหา...
nnแต่ที่ขอร้องกันอีกสักครั้งสำหรับคนประเภท “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” ถึงเวลาต้องหยุดแล้ว ดังที่ สมพงษ์อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้แสดงออกที่จะร่วมมือกับทางรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไปโดยเร็ว...
nn ส่งท้ายให้ชวนคิด อเมริกาออกกฎหมายเพิ่มงบประมาณ เพื่อให้รัฐบาลเอาเงิน 2 ล้านล้านเหรียญหรือ 60 ล้านล้านบาท ออกมาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่รัฐบาลไทยจะเอางบประมาณแค่ 2 แสนล้านบาท ออกมาช่วยผู้ได้รับผลกระทบ ทำไมมันถึงผิดกันมากมายขนาดนี้(330 เท่า) แล้วมันจะช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างไรในเมื่อเงินน้อยขนาดนี้...
nn ขณะเดียวกันท่านต้องสั่งให้หน่วยห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อโควิด-19ทำงานทุกๆ หน่วย เพราะขณะนี้กลับมีคำสั่งมาไม่ยอมให้ปฏิบัติการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศิริราช มหิดลและหรือหน่วยที่มีห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อทำการตรวจเชื้อโควิด-19 เพราะกลัวคนจะได้รับอันตราย...
nn ซึ่งมันผิดวิธี การปฏิบัตินั้นรัฐบาลควรสนับสนุนเครื่องมือป้องกันให้พนักงานตรวจเชื้อและต้องทำการตรวจเชื้อโดยด่วนเพื่อที่จะได้มีความมั่นใจว่าที่ไหนมีเชื้อหรือที่ไหนไม่มีเชื้อจะได้ให้ยาได้เต็มที่...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี