lโดยหลักการ จะคบใครให้ใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน พิจารณาถึงพฤติกรรม นิสัยใจคอเพราะ : คบคนพาล พาลพาไปหาผิด - คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
lแต่ความเป็นจริงในชีวิต จากเด็กมาถึงวัยเรียนวัยผู้ใหญ่ และผู้เฒ่า เราผ่านการคบคนมามากมาย ตามสภาพและเงื่อนไขของสังคมในแต่ละยุคสมัยเราไม่ได้ คิดอะไรมากมาย คบทุกคน ที่เดินเข้ามาในวงจรชีวิตเรา อย่างเป็นปกติ แต่เริ่มมาคิดเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น เมื่อเหตุการณ์ และสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป
lตามหลักการที่สำคัญ ของการทำงานการเมือง ที่มีความขัดแย้งทางความคิดและทางสังคมสูง
หัวใจสำคัญหนึ่ง คือ การแยกมิตร และศัตรู (ในยุคการต่อสู้ทางการเมืองที่แหลมคม) หรือการแยก “คนดีมีคุณธรรม” กับ “คนมีอคติ คิดร้ายต่อผู้อื่นและสังคม”
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี
หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
พระบรมราโชวาท ของในหลวง ร.๙
lในชีวิตจริงที่ผ่านมา คนเรามีเพื่อนมิตรมากหลาย เพราะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ ให้กำลังใจเพื่อน
ในทุกเรื่อง ในช่วงที่มีความรัก ความเป็นเพื่อนมิตร ที่ไม่มีผลประโยชน์ ในยามปกติ สงบเงียบ เราก็จะไม่เห็น
ความแตกต่างของเพื่อนมิตร
lแต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป มีเรื่องของความคิด อคติ ผลประโยชน์ ทางการเมืองเกิดขึ้น เราจะได้เห็นมิตรแท้ สหายจริง หรือมิตรปลอม มิตรไม่จีรัง ยั่งยืน
lการดูหรือพิจารณา ความเป็นมิตรแท้ สหายจริง
ดูจาก ๒ เรื่องสำคัญ คือ
๑.ดูที่ใจ ความมีน้ำใจ จิตใจที่รักและให้ ด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ ทำอย่างสม่ำเสมอ
๒.ดูที่ความคิด การกระทำ เพื่อตนเอง หรือ เพื่อผู้อื่น ส่วนรวมและบ้านเมืองจะเห็นปรากฏชัด เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ในยามมีฐานะ อำนาจผลประโยชน์ ฯลฯ
lย้อนกลับไปพิจารณา ดูเพื่อนมิตรที่อยู่ “สองฝากฝั่งแม่น้ำ” ที่แตกต่างกัน
เราจะเห็นได้ชัดเจน ว่า : ใครเป็นมิตรแท้สหายจริง หรือมิตรเทียม สหายปลอม
เอาตัวอย่างเป็นรูปธรรม
๑.ระดับผู้นำประเทศ คนหนึ่ง ที่มีความคุ้นเคย คบกันมานาน หรือติดตามผลงานที่ผ่านมาคนไทย โดยเฉพาะชาวบ้านไม่น้อย ชื่นชมฯ : นักวิชาการบางคน ออกมาปกป้องการโกงกินฯเขาไม่เคยประสบความสำเร็จในธุรกิจ อย่างมีธรรมาภิบาลเหมือนนักธุรกิจที่ดี ที่สังคมยอมรับแต่ร่ำรวย มาจาก “ธุรกิจสัมปทาน” โกงกิน คอร์รัปชั่น ทั้งพี่และน้องตัวเอง ยังยอมรับ : “ไม่มีบิ๊กจ๊อด ไม่มีผมในวันนี้” (เรื่องการได้สัมปทานฯ) เขาร่ำรวยมาจาก “ธุรกิจสัมปทาน” (ธนาธร : เคยสัมภาษณ์ ถึงคนคนนี้) การเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง มาจากการซื้อเสียงซื้อ สส. สว. ซื้อพรรคฯ
๒.ระดับเป็นผู้นำทางการเมือง และสังคม
-ในยามเป็นผู้นำนักศึกษา แสดงตนเป็นผู้มีอุดมคติ หลอกคนได้มากมาย เพราะยังไม่เห็นธาตุแท้การเติบโตทางการเมือง และเศรษฐกิจ มาจากการประจบประแจง ผู้มีอำนาจทางการเมืองเมื่อมีโอกาสเป็นรัฐมนตรี หรือประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ก็ใช้อำนาจทางการเมืองโกงกินฯ ในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองที่แหลมคม จะหลบหนีไปต่างประเทศ และกลับมาเมื่อเหตุการณ์สงบ
-บางคนเป็นนักวิชาการ มีฐานะบทบาท
ในบางด้านที่โดดเด่น แต่เคยร่วมงานกับผู้นำโกงกิน ใช้อำนาจแบบวัดครึ่งกรรมการครึ่ง จึงไปยกย่องคนชั่วคนโกงบ้านโกงเมือง โดยอ้างว่า เป็นผู้นำชาติ เป็นผู้กล้าตัดสินใจเพื่อประชาชนและจะตำหนิ กล่าวหา “รัฐบาลปัจจุบัน” ด้วยข้ออ้างว่า “เป็นทหาร เป็นเผด็จการ” ทั้งๆ ที่ เคยเป็นผู้นำกองทัพในอดีต และปัจจุบันมาทำงานการเมือง ผ่านการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ
lชีวิตคน มีทางเลือกของตนเอง
คนบางคน ที่มีอุดมคติจริง ยังรักชาติบ้านเมือง ทำงานเพื่อส่วนรวม อย่างเสมอต้นเสมอปลาย คนบางคน หน้าไหว้หลังหลอก พูด ประชาธิปไตยดี แต่ลับหลัง ก็เป็นแบบคนที่เขาเชิดชูคนบางคน เก่งดี ในบางเรื่อง แต่เรื่องการเมืองกลับไปปกป้องคนโกงชาติ เพราะ อคติ เกลียดชังรัฐบาลฯ
lสรุป
คบคนต้องดูให้ครบ ดูที่มาที่ไป จริงใจ เสียสละเพื่อส่วนรวม เคารพคนดีความถูกต้อง การดูคน ต้องดูว่า“เมื่อมีอำนาจ มีโอกาส” เขาโกงกินไหม : และ ดูต่อเนื่องยาวนาน จึงจะรู้จริงคนที่คิดอย่างเดียวกัน มักจะ : สุ่มหัวในกลุ่มก๊วนเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน คนไม่ดี มักยกย่องคนชั่ว ชิงชังคนดีทำเพื่อบ้านเมือง ลืมคิดไปว่า “คบคนพาลพาลไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล”
เราจะคบเพื่อน หรือ คบคน แบบไหน!เราเลือกได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี