l “เมื่อข้าพเจ้ามีอำนาจ ก็ไม่มีความเจนจัดแต่เมื่อข้าพเจ้ามีความเจนจัด ก็ไม่มีอำนาจ”
อมตะวาจา ของ อ.ปรีดี พนมยงค์
คงสรุปได้ว่า การเปลี่ยนแปลงใหญ่ของสังคมจะสำเร็จได้ ต้องมี
๑.ผู้นำการเปลี่ยนแปลง คณะบุคคล พรรคการเมือง
๒.ทฤษฎี แนวทาง การเปลี่ยนแปลง(ที่สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เป็นจริง) โดยมีกลไกนำไปบรรลุความสำเร็จได้จริง เช่น เสียงข้างมาก กองทัพ มวลชนฯ
๓.แนวร่วมที่หลากหลาย ที่มาร่วม ทำให้มีกำลังที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามฯ
๔.สถานการณ์ที่สุกงอม พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงฯ (เกิดขึ้นเอง หรือสร้างขึ้นฯ)
l ปัญหาใหญ่ของ “ผู้นำภาคต่างๆ” ที่เป็นอุปสรรคของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
๑.เก่ง เชี่ยวชาญ มีความสามารถในเรื่องเฉพาะ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของตน หมอ วิศวะ นิติฯรัฐศาสตร์ นักการเมือง นักธุรกิจ ภาคประชาชน ฯลฯ แต่ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสังคมโครงสร้างระบบการเมืองไทย และชอบแสดงทัศนคติเชยๆ ในทางการเมือง เพราะคิดว่า “กูเก่ง” ฯลฯ
๒.ไม่เคยมีประสบการณ์ในการร่วมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญฯสำนวนไทยเรียกว่า “อยู่แต่หอคอยงาช้าง” ไม่เข้าใจความจริง
๓.สำรวจตรวจสอบ “นักวิชาการ คอลัมนิสต์ สื่อต่างๆ” ที่นำเสนอประเด็นต่างๆต่อสังคมมีโดดเด่นเนื้อหาสาระเข้าถึงแก่นแกนปัญหาและทางออกของสังคมมีน้อยมาก (ควรที่จะมีการพัฒนายกระดับครั้งใหญ่ ให้มีภูมิรู้และวุฒิภาวะที่เป็นจริงทันกาล)
๔.มีความคิดอคติต่อ “สถาบันหลักของสังคมไทย”คิดไปเองว่า “เป็นตัวอุปสรรค” ฝ่ายซ้ายเก่าที่ผิดพลาดก็ถ่ายทอดมายังคนรุ่นใหม่นักการเมืองที่แสวงหาอำนาจฯ ก็ใช้เป็นข้ออ้าง ปกป้องความผิดพลาดโกงกินของตนฯ
๕.ขาดการสรุปบทเรียน และวิเคราะห์ ปัญหาอุปสรรคฯ ที่ทำให้ล้มเหลว เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ไม่รู้ว่า “ตนเองล้มเหลว ต้องปรับตัวอย่างไรฯ”ไม่เคยมี “บทเรียน” จากเหตุการณ์สำคัญๆ ทางประชาธิปไตยที่ผ่านมา
๖.ขาดการประสานงานวิชาการ ความคิดเข้ากับสภาพสังคมที่เป็นจริง หรืออาจจะเป็นเพราะ “การขาดนักคิดนักทฤษฎีที่เก่ง เอาจริง”ในสังคมไทย
๗.ยึดติดความคิด “ประชาธิปไตย” ตะวันตก ที่ตัดตอนในความสำเร็จมาใช้โดยเป็นการ “คิดแบบง่ายๆ ผิวเผิน ไม่เป็นจริง ไม่ลงแรงคิด” นำมาใช้ไม่ได้ผลและต่อไป ก็หากจะนำความคิด “ตะวันออก”มาใช้อีก ซึ่งก็จะไม่ได้ผลเช่นกัน
๘.กลัวการคัดค้าน ต่อต้านฯ หาก “เราคิดแนวทางเอง ที่ต่างจากเขา อีกทั้งได้รับสนับสนุนและหนุนช่วยจากตะวันตก ที่เชื่อในเรื่องประชาธิปไตยเสรีนิยมทั้งในระดับประเทศ องค์กร หรือบุคคลที่เป็นผู้นำ
ที่โดดเด่นฯ จะได้ทุนสนับสนุนฯ
คิด&ทำ “แนวทางการพัฒนาประเทศให้บรรลุผล” ต้องมีองค์ประกอบสำคัญอะไร
๑.การเอาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เป็นสรณะ
๒.ความรักชาติ มุ่งมั่นปรารถนาอันแรงกล้า ที่จะแก้วิกฤติ นำไปสู่การพัฒนาที่แท้จริง
๓.มีผู้นำที่เป็นรัฐบุรุษ มีเงื่อนไขสำคัญ และความกล้าหาญเสียสละ ที่จักนำไปสู่ความสำเร็จ แม้ว่า “จะมีประเทศใหญ่” คัดค้าน ก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพราะประวัติศาสตร์ พิสูจน์มาแล้วว่า “ทุกประเทศต่างเอาผลประโยชน์ของประเทศตนเป็นหลัก” ช่วงแรกอาจจะมีบางกลุ่มประเทศ คัดค้าน แต่สุดท้ายจะกลับมาสนับสนุน เช่น สิงคโปร์ จีน
๔.สถาบันหลักของชาติ กองทัพ ประชาชน ให้การสนับสนุนอย่างเอาจริงจัง
๕.มีเงื่อนไขและสถานการณ์สุกงอม ที่เป็นปัจจัยสำคัญ ถึงขั้นที่ว่า “ไม่ทำ” ไม่ได้แล้ว
๖.มีกลุ่มองค์กร ผู้นำของสังคมและภาคส่วนต่างๆ สนับสนุนอย่างเต็มที่
๗.ผู้นำ และประชาชน ต้องมองให้ทะลุว่า“ยิ่งช้าไป ยิ่งทำได้ยาก อุปสรรคมากขึ้น” จึงต้อง “ตัดสินใจ” วางแผน ยุทธศาสตร์ยุทธวิธี จังหวะก้าวขั้นตอนฯ
l ยิ่งล่าช้า ยิ่งยากลำบาก มีอุปสรรคมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัญหาความขัดแย้ง และแนวคิดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบของฝ่ายค้านมีมากขึ้นทุกวัน
เราไม่เคยเห็น “แนวคิด พฤติกรรมที่หยาบช้า เลวทราม” เช่นนี้ มาก่อน
วันนี้ “พวกเขาทั้งเก่าและใหม่” คิดและทำได้ทุกอย่าง อย่างไม่มี “หิริโอตตัปปะ” ใช้ “พรรคทุนมหาศาล มวลชน นักวิชาการ สื่อ เยาวชนฯ” เป็นเครื่องมือ กลไก
มีเป้าหมายที่ชัดเจน (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ในการล้มล้าง “การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยพุ่งเป้าเฉพาะหน้าไปที่รัฐบาล กองทัพ ศาล และรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติฯ
l หลายคนเห็นภาพชัด คิดและทำในส่วนที่ทำได้ไม่หยุด แต่ไม่มีกำลังฯ ในการจัดการ ๒ เรื่อง
๑.“พรรค กลุ่มคนฯ ที่คิดมิชอบต่อบ้านเมือง” (ใช้มาตรการทางกฎหมายและศาล อย่างจริงจัง)
๒.การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงตามสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี